บทที่ 1
**“เตรียมของครบยังไอ้ไนท์?” ไอ้ดาร์คที่พึ่งออกมาจากห้องน้ำถามผมเสียงเรียบ
“ครบแล้วๆ...โธ่เว้ย!!” ตอนนี้ผมกำลังนั่งเล่นเกมพีซีอยู่บนเตียง คือเล่นมาสิบกว่าตาดันเสือกตายทุกรอบแล้วตานี้ผมว่าแม่งชนะชัวร์แต่เหี้ยกลับแพ้จนได้
“เสื้อกันหนาวมึงก็ไม่มี...ไปสองอาทิตย์มึงเอาเสื้อผ้าไปสี่ชุด?” เสียงเข้มของมันพูดขึ้นตอนที่เดินไปเช็คกระเป๋าที่ผมเตรียมไว้ ผมกับมันมาอยู่คอนโดฯใหม่ที่ไอ้ดาร์คซื้อไว้ต้นปีที่แล้วเองครับ เพราะมันใกล้บริษัทป๊ากับบริษัทพ่อของมันด้วยคือสะดวกในการเดินทางมากกว่าอยู่ที่บ้าน มันก็เลยตัดสินใจซื้อไว้ แต่คอนโดฯที่นี่ใหญ่กว่าที่เก่าเยอะมากครับ
“มึงก็เตรียมให้กูดิ” ผมหันหน้าไปยิ้มให้มันด้วยความรักทั้งใจที่ผมมีให้คนตรงหน้า ป่าวหรอกที่จริงผมกวนตีนมันทั้งนั้น แล้วผมก็หันกลับมาเล่นเกมส์ต่อ
“ตลอดเลยนะมึง” ถึงบ่นยังไงไอ้ดาร์คมันก็ทำให้อยู่ดี การที่มันเอาใจผมแบบนี้มันทำให้ผมเริ่มติดนิสัย
“บ่นไปยังไงมึงก็ทำให้กูอยู่ดี” ผมพูดไปแต่ตาก็ยังคงมองไปที่จอทีวี เวลานี้เกมส์สำคัญกว่าผัวครับ
“แต่มึงก็หัดทำเองบ้าง...มึงโตแล้วไอ้ไนท์” มันยังคงหันหลังยืนบ่นไปมือก็จัดของให้ผมไป
“ทำให้กูไม่ได้ใช่ปะว่ะ?” ผมถามมันเสียงนอยใส่มัน คือไม่รู้ดิผมอยากให้มันทำให้อะ มันรู้สึกดีโครตๆที่เวลามันบ่นแต่มือเสือกทำให้
“เฮ้อ...ได้”
“ก็แค่นั้น...จะตายแล้วๆ!” เหตุที่มันบ่นผมตั้งแต่แรกก็เพราะพวกผมจะไปเที่ยวเกาหลีกัน ละคือไฟล์บินมันตีห้าไงมันก็ให้ผมเตรียมของเลย ที่พวกผมไปกันครั้งนี้ก็เพราะมันอยากจะพาผมไปเที่ยวคือตอนนี้ทั้งผมทั้งมันก็ทำงานกันแล้วไง ผมที่จบมาได้ปีที่แล้วก็โดนแม่ไอ้ดาร์คดึงตัวให้ไปช่วยที่บริษัทของบ้านมัน ส่วนมันก็ไปช่วยบริษัทป๊าผมเหมือนเดิม เอาง่ายๆเลยคือทั้งผมทั้งมันต่างก็ช่วยงานทั้งสองที่ ถึงแม้ว่าไอ้ดาร์คมันจะจบวิศวะมาก็เถอะแต่ก็ต้องมาช่วยบริษัทครอบครัวมันอยู่ดี
“มึงจะหยุดเล่นเกมส์ได้เมื่อไหร่?” มันที่จัดของทั้งผมและมันเสร็จก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม
“อย่าบังจอกูดิ!” ผมโวยวายในขณะที่กำลังเล่นได้ที่แต่มันเสือกมาบังจอผมไว้
“มันห้าทุ่มแล้ว” มันยังคงยืนกอดอกจองมาที่ผมอย่างหน้านิ่ง
“เออจะนอนแล้วๆ”
“กูให้อีกแค่ตาเดียว” มันพูดจบก็เดินไปหยิบแมคบุ๊คมาแล้วล้มลงนอนพิงหัวเตียงทำงานของมันต่อ ตั้งแต่มันเรียนจบแล้วมาทำงานอย่างเต็มตัวคือมันแทบจะไม่มีเวลาพักเลย ไหนจะต้องดูแลตามใจผมไหนจะลูกน้องมันอีก แบบนี้ด้วยมั้งผมถึงพยายามไม่สร้างปัญหาให้มันเพิ่ม แต่นิสัยโดนมันตามใจจนเคยตัวของผมแก้ไม่ให้สักที แต่จะว่าไปช่วงนี้มันตามใจผมมากคือผมอยากได้อะไรอยากกินอะไรมันก็จะตามใจผมหมด แบบนี้ไงถ้าผมไม่ได้ดั่งใจก็จะงอนมันแล้วช่วงนี้ดูตัวเองจะงอแงเหมือนผู้หญิงโครต
หมับ
พอจบตาสุดท้ายผมที่หยุดเล่นตามที่มันบอกแล้วคลานเข้าไปกอดมันที่กำลังนอนเหยียดพิมพ์งานอยู่ ผมชอบเวลามันใส่แว่นทำงานนะโครตจะอปป้าเลย หุ่นก็ดีหน้าตาก็โครตจะดีแม่งกูอิจนะครับ
“นอนกันเหอะมึง” ผมที่กำลังนอนกอดเอาขาทับบนตัวมันพูดเสียงอู้อี้กับอกมันไป
“สองนาที” มันพูดตอบกลับมาแต่ผมยังได้ยินเสียงมันพิมพ์อยู่ผมก็นอนรอมันไป สักพักมันลุกขึ้นไปปิดไฟแล้วกลับขึ้นมานอนบนเตียง
“กี่โมงแล้วว่ะ?” ผมถามมันขณะที่กำลังโดนมันกอดจากข้างหลัง
“เที่ยงคืน นอนได้แล้ว” ความเงียบเกิดขึ้นหลังจากที่มันพูดจบ
ฟอด
“ฝันดี” ผมเงยหน้าไปหอมแก้มมันแล้วขยับตัวให้สบายในการนอน แล้วความเงียบก็พาให้ผมกับมันหลับลงได้ไม่นาน
ตอนนี้เป็นเวลาตีสองกว่าพวกผมกำลังนั่งรถไปสนามบินฯกัน ได้นอนแค่สองชั่วโมงแต่ก็ต้องตื่น ไม่งั้นตกเครื่องแน่แถมจะโดนไอ้โหดข้างๆบ่นอีก
“มึงกูง่วงอะ” ผมหันไปพูดเสียงงัวเงียกับมัน
“ค่อยไปนอนบนเครื่อง” มันตอบผมเสียงเรียบแล้วเอาฝ่ามือมาลูบคางผมไปด้วย
Rrrrrr Rrrrrr
เสียงโทรศัพท์มันดังขึ้นขณะที่ผมกำลังหลับตาลงเพราะทนกับอาการง่วงไม่ไหว
“ถึงสนามบินฯกันรึยังลูก” เสียงแม่ไอ้ดาร์คดังลอดมาทำให้ผมลืมตาขึ้นดู แม่มันเฟสไทม์มานี่เอง
“อีกสักพักคงถึงครับ” มันพูดกับแม่มันแต่มือยังคงลูบที่คางผมอยู่
“แล้วน้องล่ะดาร์ค ไม่ง่วงเอาหรอกหรอ” บทสนทนาเริ่มมาที่ผมมันก็หันกล้องมาทางผมให้คุยกับแม่
“สวัสดีครับ” ผมพูดทักแม่มัน ที่ตอนนี้ยังอยู่ในชุดนอนอยู่เลย
“เป็นไงบ้างลูก ง่วงรึเปล่า” สีหน้ายิ้มอย่างอ่อนโยนถามเมื่อคนในกล้องเห็นผม
“นิดหน่อยครับ ไนท์ว่าจะไปนอนบนเครื่องเอา” ผมยิ้มบางๆไปให้แม่ไอ้ดาร์ค ท่านเป็นคนที่ใจดีมากเหมือนกับม๊าผม ตั้งแต่วันนั้นที่ครอบครัวผมกับมันได้คุยกันเป็นจริงเป็นจังมันทำให้ผมกับมันสบายใจมากขึ้น ไม่ต้องกลัวว่าคนในครอบครัวจะรับไม่ได้
“อย่าลืมดูแล้วตัวเองนะลูก ดาร์คก็ดูแลน้องดีๆ ถ้าถึงแล้วอย่าลืมโทรบอกแม่กับม๊าของไนท์ด้วยนะ เดินทางปลอดภัยทั้งคู่นะจ๊ะ” คุยได้สักพักก็จะถึงสนามบินฯแม่มันก็วางสาย รถที่มีพี่กรเป็นคนขับแล้วมีลูกน้องมันอีกคนที่นั่งเบาะข้างคนขับ พี่กรก็ขับไปจอดที่โรงจอดชั้นหนึ่งในตัวอาคาร คือกว่าจะหาที่จอดได้ก็นานพอควรครับ พอหาที่จอดอะไรได้ผมที่งัวเงียก็โดนไอ้ดาร์คลากลงมาจากรถ
“ไหวไหม?” มันหันมาถามผมที่ตอนนี้ได้แต่ขยี้ตาให้ตัวเองตื่น
“...อือ...” ผมตอบมันเสียงอู้อี้ตรงอกมัน ไอ้ดาร์คไม่พูดอะไรมันก็จับมือผมให้เดินตรงไปที่ลิฟต์พร้อมกับมัน ส่วนพี่กรกับลูกน้องก็เดินถือกระเป๋าตามมาข้างหลังพวกผม
ลิตฟ์มาหยุดที่ชั้นสองในโซนขาออกนอกประเทศไอ้ดาร์คมันก็ตรงไปเช็คอินหน้าเคาน์เตอร์ของชั้นบิสสิเนสคลาส นั่งชั้นแพงหน่อยแต่ไม่ต้องรอคิวเช็คอินนานและไม่ต้องไปนั่งกับคนเยอะก็ดีครับเพราะไอ้ดาร์คมันไม่ค่อยชอบคนเยอะ
“คุณไนท์จะรับอะไร รองท้องก่อนรึเปล่าครับ?” เสียงพี่กรถามขึ้นข้างหลังผม ส่วนอีกคนไปยืนถือกระกระเป๋าให้ไอ้ดาร์คมัน
“เดี๋ยวไปหาอะไรกิน พร้อมกันดีกว่าครับพี่กร” ผมยิ้มบางๆตอบออกไปอย่างรักษามารยาท ยืนรอไม่นานไอ้ดาร์คก็เดินตรงมาทางผม วันนี้มันแต่งตัวอปป้ามากด้วยความที่มันใส่เสื้อยืดสีขาวรัดรูปกับกางเกงวอมอาดิดาสสีดำบวกกับรองเท้าเอ็นแอ็มดีสีดำที่มันซื้อคู่กับผม คือวันนี้มันแต่งธรรมดาแต่กลับดูดีไปอีกแบบ ส่วนผมก็ไม่ต่างกับมันครับแค่มีเจ็คเก็ตสีดำกับหมวดสวมทับอีกที
“มีเวลาหาไรกินชั่วโมงนึง” มันคว้าคอผมไปกอดแล้วพูดขึ้นกับผมรวมถึงลูกน้องมันด้วย
“เดี๋ยวพวกผมยืนดูอยู่รอบๆแล้วกันครับ” พี่กรที่ตอนนี้ยืนอยู่ตรงหน้าพวกผมสองคนพูดขึ้น ผมก็ยืนเล่นโทรศัพท์ดูไอจีไปพลางๆเพื่อไม่ให้ง่วง
“ไม่ต้อง ไปกินด้วยกันนี่แหละ” ไอ้ดาร์คพูดขึ้นเสียงนิ่ง
“มึงจะกินไร?” มันเลือกที่จะถามผมหลังจากที่มันพูดกับลูกน้องมันเสร็จ
“อยากกินก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ” ผมเงยหน้าตอบแล้วหาวใส่มันไปด้วย
ไอ้ดาร์คไม่พูดอะไรต่อมันก็เดินลงไปชั้นอาหารแล้วเดินหาดูร้านที่มันมีก๋วยเตี๋ยวขาย กว่าจะเจอก็สิบนาทีได้ ผมบอกแล้วมันตามใจทูไนท์อย่างผมจะตาย
“รับอะไรดีคะ?” พนังงานรุ่นป้ามารับออเดอร์ที่โต๊ะทันทีที่พวกผมนั่ง
“เอาเส้นเล็กหมูน้ำใสสองที่ครับ แต่อีกชามพิเศษนะครับ” ผมสั่งเผื่อไอ้ดาร์คไปด้วยเพราะมันกินแบบผม
“พวกพี่จะกินอะไรสั่งเลย มันเลี้ยงๆ” ผมพูดยิ้มๆปนแซวไอ้ดาร์คไปด้วย มันก็นั่งกอดอกพิงเก้าอี้นิ่งๆตามแบบมัน ในระหว่างที่รออาหารไอ้ดาร์คก็นั่งคุยกับลูกน้องเรื่องที่จะให้พี่กรเป็นคนดูแลงานในระยะเวลาที่มันไม่อยู่ เพราะถ้าใครยังจำได้เมื่อสองปีที่แล้วที่มันไปอังกฤษเพื่อที่จะขยายสาขาไปที่นั่น ช่วงปลายปีที่แล้วพึ่งเปิดไปได้รับความสนใจมากของนักธุรกิจที่นู่น คือต่างก็อยากจะมาลงทุนกับบริษัทมันทั้งนั้น เพราะเหตุนี้มันเลยมีพวกที่เป็นคู่แข่งคอยจะขัดขวางงานของมันตลอด แถมช่วงนี้มันไม่ค่อยจะให้ผมไปไหนมาไหนคนเดียวด้วย ผมก็ไม่อยากจะขัดมันก็เลยปล่อยเลยตามเลยทำตามที่มันบอก
พอกินกันเสร็จก็ถึงเวลาที่ผมกับไอ้ดาร์คต้องเข้าไปข้างในลูกน้องมันก็เดินมาส่งพวกผมด้านหน้า ไอ้ดาร์คคุยกับพี่กรสักแปปนึงมันก็เดินมาหาผมที่ยืนรอมันอยู่ตรงทางเข้า พอยื่นตั๋วเสร็จพวกผมก็เดินไปตามทางเพื่อที่จะตรงไปขึ้นเครื่อง แต่ในระหว่างที่ลงบันไดเลื่อนผมก็ยกกล้องมาถ่ายรูปคู่กับมันในขณะที่ไอ้ดาร์คกำลังก้มดูโทรศัพท์ไป แล้วลงไอจีและไม่ลืมที่จะแท็กไปหาคนข้างๆพร้อมแคปชั่นว่า
“ทริปนี้มีเสี่ยคุม”
TBC.
1 คอมเม้น 1 กำลังใจในการเขียนเน้อ