Last of conclusion Lover
0
ตอน
3.16K
เข้าชม
63
ถูกใจ
5
ความคิดเห็น
16
เพิ่มลงคลัง

สวัสดีค่ะ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาใครได้ดู ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ บ้างเอ่ย อยากบอกว่าสงสารกัสท็อปมากเลยอ่า โดนกีดกัน ชีวิตจริงก็สงสารพี่ช่ามาก ไรท์เตอร์(มือใหม่)คนนี้เลยแต่งฟิคนี้ขึ้นมา ความจริงคือ แต่งก่อนที่ Ep.11 จะออกอากาศ แต่ยังไม่ได้ลง แถมยังแต่งไม่เสร็จอีก(ไอ้นี่มันขี้เกียจ) ไรท์เตอร์เลยจะเอามาลงให้นิดนึงก่อนค่ะ แต่เดี๋ยวมาต่อแน่นอน

 

ปล.เนื้อหาในบทนี้เกิดจากจินตนาการของไรท์เตอร์ฝึกหัดคนนี้ล้วนๆนะคะ

 

 

last of conclusion lover

 

 

(Top and gus)

 

 

 

 

สงสารพี่กัสอ่า T^T

 

[กัส]

ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ถูก ในหัวผมขาวโพลนไปหมด คิดอะไรไม่ออกขณะที่นั่งอยู่บนรถอีแหนด ใช่ ผมกำลังจะไปหาท็อป ผมต้องคุยกับท็อปและแม่ของท็อปให้รู้เรื่อง

“อีแหนด จอดข้างหน้านี่แหละ”

ผมเดินลงมาจากรถด้วยความรู้สึกยากที่จะอธิบาย ใจเต้นแรง ภาพเบื้องหน้าที่ผมเห็นภายในบ้านของท็อปทำให้ผมตัวชาวูบ

หญิงมีอายุกำลังต่อว่าลูกชายของตนที่ได้แต่นั่งอยู่ที่โซฟาและกำลังพูดตอบโต้ผู้หญิงตรงหน้า และในจังหวะนั้นเองที่ผู้หญิงคนนั้นหันมาสบตากับผมพอดี แม่ของท็อปเดินมาหาผมด้วยอารมณ์ที่บ่งบอกทางสีหน้าได้ชัดเจนเลยว่ากำลังโมโห ผมก้าวขาไม่ออกได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่นานเธอก็เดินมาถึงตัวผม

“คุณ มะ...”

เพียะ!!

หน้าของผมหันไปตามแรงตบของหญิงมีอายุตรงหน้า

“ม๊า! ม๊าทำอะไร”

ท็อปที่วิ่งตามแม่ของเขามา แสดงสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด

“ท็อป กลับเข้าบ้านไป!”

ผมค่อยๆหันหน้ากลับมาอย่างยากลำบาก เพราะความรู้สึกเจ็บบริเวณแก้มข้างซ้ายของผม มันมากเหลือเกิน

“ไม่! ม๊าทำอะไรพี่กัส ม๊าต้องขอโทษพี่เค้าเดี๋ยวนี้!”

ท็อปขึ้นเสียงใส่แม่ของตนจนหน้าตกใจ ผมไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อนเลย มันไม่ดีแน่ที่แม่ลูกต้องมาทะเลาะกันแบบนี้

“แล้วทำไมฉันต้องขอโทษ แกกลับเข้าบ้านไป ฉันจัดการเอง”

“ม๊าไม่มีสิทธิมายุ่งเรื่องของผม ม๊าต้องขอโทษพี่กัสเดี๋ยวนี้!”

“ท็อป ฉันเป็นแม่แกนะ!”

“ท็อป หยุด! กลับเข้าบ้านไป”

ผมทนดูทั้งสองทะเลาะกันไม่ได้ มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย ที่แม่ลูกต้องมาทะเลาะเพราะเรื่องของคนนอกอย่างผม

“แต่ พี่กัส ผม...”

“ถือว่าพี่ขอ”

ผมตอบท็อปเสียงนิ่ง และแววตาที่ผมแสดงออกอยู่ตอนนี้ บ่งบอกว่าผมจริงจัง

“ครับ”

ท็อปตอบผมเสียงอ่อนลงมาก แล้วหันหลังเดินกลับเข้าบ้านโดยไม่หันกลับมามองผมอีกเลย

"ฉันขอเตือนอะไรไว้อย่างนึงนะ อย่ามายุ่งกับลูกของฉันอีก เข้าใจแล้วก็กลับไปซะ แล้วอย่ากลับมาอีกนะ”

คำพูดของแม่ท็อป ทำให้ผมตัวชาวาบ ความรู้สึกตอนนี้มันยากที่จะอธิบาย ผมอยากจะร้องให้

 

“อีกัส เป็นไงบ้างมึง นางว่าไงบ้าง อีกัส”

เมื่อเห็นว่านางไปแล้ว อีกอล์ฟ อีคิม และ อีแหนด พากันลงจากรถมาประคองผมที่ทรุดตัวลงกับพื้น น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ไหลทะลักออกมาไม่หยุด ผมไม่มีอารมณ์จะตอบคำถามของอีคิมเพราะเรี่ยวแรงจะยืนยังแทบจะไม่มี

“ไม่เป็นไรมึง กูเข้าใจไว้มึงพร้อมค่อยเล่าให้พวกกูฟังก็ได้ อีแหนด อีคิม มาช่วยกูพามันขึ้นรถ อีกัส ลุกไหวมั้ยมึง”

ถ้าบอกว่าไม่ไหวกูจะดูสำออยไปมั้ย แต่กูลุกไม่ไหวจริงๆ

“มึง กูจะแดก พากูไปหน่อย”

 

ผมหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ รู้สึกตัวอีกที่ก็เจ็ดโมงกว่าแล้ว ผมรู้สึกมึนหัวเหมือนจะอ้วก เมื่อคืนถ้าผมจำไม่ผิด ผมดื่มหนักจริงๆ ผมเหลือบไปเห็นโพสอิทบนหัวเตียงที่เขียนด้วยลายมือชุ่ยๆแบบอีกอล์ฟ

‘อย่าเคลียดนะมึง ดูแลตัวเองดีๆ เดี๋ยวว่างๆพวกกูไปหา’

ผมยิ้มออกมานิดๆ แล้วลุกไปทำธุระส่วนตัว

ก๊อกๆๆ

เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้ผมที่พึ่งทำธุระส่วนตัวเสร็จรีบวิ่งไปเปิดประตู เพื่อจะดูว่าใครมา

ท็อป

ท็อปมาหาผม

ผมจึงเปิดประตูเพื่อคุยกับท็อป

พรึ่บ!

จู่ๆ ท็อปก็ดึงผมเข้าไปกอดแล้วซุกหน้าลงบนไหล่ของผม

“ผมขอโทษ พี่กัส ผมขอโทษ อย่าเลิกกับผมนะ”

น้ำเสียงสั่นเคลือของท็อปทำให้น้ำตาของผมรื้อขึ้นมา ผมค่อยๆดันท็อปออกจากตัวผม แล้วสบตากับท็อปตรงๆด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม

“ท็อป ถึงพี่จะไม่ได้บอกเลิกท็อปตอนนี้ ยังไงสักวันพี่ก็ต้องบอกอยู่ดีเพราะ… ฮึก แม่ของท็อป เค้าไม่ชอบพวกประเภทพี่”

ผมพยายามกลั้นก้อนสะอื้นและน้ำตาที่รื้ออยู่ตลอดเวลา

“แต่ผมรักพี่ ยังไงผมก็จะไม่เลิก พี่กัสคนอื่นเค้าจะคิดยังไง ก็ปล่อยเค้าคิดไป ผมรักพี่นะพี่กัส ผมขอร้อง อย่าเลิกกับผมเลยนะ”

ยิ่งอ้อนวอนยิ่งทำให้ผมกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่มากขึ้น ท็อปพยายามจะเข้ามากอดผมอีกครั้ง แต่ผมก็ถอยหนี ทั้งๆที่ใจโหยหาคนตรงหน้ามากแท้ๆ แต่ผมทำไม่ได้

“ท็อป งั้นพี่จะพูดให้เคลียไปเลย เราเลิกกันเถอะ เพราะ พี่ไม่ได้รักท็อปแล้ว”

ผมกลั้นใจพูดออกไปอย่างนั้น ทั้งๆมันไม่จริงเลย ทั้งๆที่...มันจะทำให้ผมเจ็บมากแท้ๆ

"ไม่จริงอ่ะ พี่กัส พี่โกหก พี่อย่าฝืนดิ”

“พี่ไม่ได้ฝืนพี่พูดความจริง กลับบ้านไปได้แล้ว เดี๋ยวก็ทะเลาะกับแม่อีก”

“ไม่ ผมไม่กลับ จนกว่าเราจะคุยกันรู้เรื่อง พี่กัส อย่างทำอย่างงี๊ดิ โอ๊ย!”

ผมพยายามจะปิดประตูแต่ท็อปพยายามดันไว้โดยการจับที่ขอบประตูทำให้โดนประตูหนีบมือเต็มๆ ผมตกใจมาก อยากจะเข้าไปช่วย แต่ ไม่ได้ ในเมื่อผมจะตัดความสัมพันธ์กับท็อปแล้ว ก็ต้องตัดให้ขาด แม้ว่าจะเจ็บแค่ไหนก็ตาม ผมรีบปิดประตูแล้วเข้ามาในห้องทันที ผมนั่งพิงประตู ได้ยินเสียงท็อปพี่พยายามตะโกนเรียกผม ทำให้น้ำตาผมไหลออกมาไม่หยุด ผมนั่งกอดเข่าแล้วก้มหน้าก้มตาร้องให้อย่างหนัก ผมพยายามลุกขึ้นยืนและเดินไปที่เตียง ผมไม่อยากได้ยินเสียงของเด็กคนนั้น ผมทิ้งตัวลงบนเตียงและร้องให้ออกมาอีกครั้ง ความรู้สึกนี้มันทรมานเหลือเกิน และในที่สุด ผมก็เผลอหลับไป

ผมค่อยๆขยับเปลือกตาช้าๆ ผ่านไปนานร่วมชั่วโมง ผมจึงลุกขึ้นและเดินไปที่ประตู หวังว่าท็อปจะกลับไปแล้ว

“พี่กัส”

แต่ผมคิดผิด

“พี่กัสฟังผมก่อนดิพี่”

ผมรู้สึกผิดมาก นี้น้องยังรอเราอยู่

“พี่บอกแล้วไง ว่าให้กลับไป”

ท็อปสวมกอดผมอีกครั้งจากด้านหลัง ทำให้ผมนิ่งค้าง ไม่กล้าขยับไปไหน สติผมหลุดลอยไปชั่วขณะ แต่เมื่อผมตั้งสติได้แล้ว ผมก็พยายามแกะมือของท็อปออก

“ผมขออยู่แบบนี้สักพักนะพี่กัส ขอแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวก็ยังดี”

ผมรู้สึกได้ถึงแรงสั่นน้อยๆจากคนด้านหลัง และความเปียกชื้นบริเวณไหล่ของผมที่ท็อปซบอยู่ นานเท่าไหร่ ผมไม่อาจบอกได้ จนในที่สุดท็อปก็ผละออกจากตัวผม แต่ก่อนที่เขาจะจากไป ท็อปได้พูดประโยคนึงที่ทำให้ผม แทบจะกลั้นน้ำตาที่รื้อขึ้นมาไม่อยู่อีกครั้ง

“ผมรู้ว่าพี่กัสไม่ได้รู้สึกอย่างที่พี่พูดออกมาหรอก แต่ไม่ว่ายังไง ผมจะรอพี่ ผมรักพี่กัสนะครับ”

ใช่ ผมยังรักท็อปอยู่และจะรักตลอดไป หลังจากที่ท็อปกลับไปแล้ว ผมก็กลับมานอนฟุบอยู่ที่เตียง พลางร้องให้ อีกครั้ง และ อีกครั้ง...

 

3 เดือนผ่านไป

ผมนั่งอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เป็นร้านที่ท็อปนัดเจอผมครั้งแรก ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ผมได้ไปตามสถานที่ต่างๆที่ผมเคยไปกับท็อป มันทำให้ผมหวนนึกถึงวันเก่าๆ แม้มันจะทำให้เจ็บปวด แต่ผมคิดถึงเขา คิดถึงช่วงเวลาดีๆที่เคยอยู่ด้วยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน และช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด ณ สตูดีโอของพี่สีบาน

“รูปนี้สวยป๊ะ”

 

‘เป็นแฟนกันได้ยัง’

 

ผมสะบัดหัวไล่ความคิดสองสามที และลุกเดินออกจากร้าน ในระหว่างนั้น สายตาผมเหลือบไปเห็นเด็กผู้ชายที่จัดได้ว่าหน้าตาหล่อมากคนหนึ่ง ตัวสูง ผิวขาว ตาตี่ ท็อปกำลังเดินมากับเด็กผู้หญิง

ผมนิ่งค้างไปชั่วขณะ ภาพเบื้องหน้าที่ผมเห็นคือใบหน้ายิ้มแย้มที่ท็อปส่งไปให้เด็กผู้หญิงข้างๆเขา เหมือนกับที่ท็อปเคยยิ้มให้ผม ทั้งคู่ดูมีความสุข แต่ในขณะเดียวกัน ผมกลับทุกข์ใจ  ไหนบอกว่ารัก และ จะรอโอกาสกลับมาคบกันอีกไง แล้วที่เห็นอยู่ตอนนี้คืออะไร!

ผมรีบหันหลังเดินเลี่ยงไปอีกทาง เจ็บ คือความรู้สึกของผมในตอนนี้ ผมรีบเรียกแท็กซี่ทันทีเพื่อที่จะกลับ ในระหว่างที่นั่งอยู่บนรถ จิตใจผมเหม่อลอย นึกถึงเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับท็อปไม่หยุดรวมถึงเรื่องที่ผมพึ่งเจอเมื่อกี๊นี้ด้วย ผมไม่มีวันลืมเด็กคนนี้ได้จริงๆ

 

“โอ๊ย เลิกเศร้าซักที่สิอีกัส ผ่านมาจะ 4 เดือนละ มึงยังจะเครียดอะไรนักหนา ทำให้เพื่อนพอยไม่สบายใจไปด้วยเลยเนี่ยะ ที่เห็นมึงเป็นแบบเนี๊ยะ”

“มึงลองมาเป็นกูมั้ยหล่ะอีคิม”

“กูเคยโดยเทแม๊ะ ก็อีฟลุคไง”

“โอ๊ย พอๆพวกมึงเลิกพูด เรื่องที่มันผ่านมาแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านๆไป”

“แหม อีแหนด มึงไม่เคยมีแฟน มึงก็พูดได้หนิ”

“ถึงกูจะไม่มีแฟนนะ  แต่กูก็เคยผ่านประสบการณ์หน้าเศร้าพอๆกับพวกมึงมานั่นแหละ เดทแรกระหว่างกูกะอีพี่โยชิไง”

“โอ๊ย พวกมึงเลิกพูด เดี๋ยวก็ลามมากูอีกจนได้ เอ้า  แดก”

บทสนทนาสุดท้าย สิ้นสุดลงที่อีช้าง ต้องขอบคุณพวกมันหล่ะนะ ที่ตลอดเวลา มันก็อยู่เคียงข้างผมมาโดยตลอด ทั้ง อีกอล์ฟ อีคิม และก็อีแหนด ถ้าไม่มีพวกมัน ผมคงยิ้มไม่ออกอีกนาน

“มึง กูกลับก่อนนะ”

“มึงไหวแน่นะอีกัส”

“กูไม่ได้แดกเยอะเท่าพวกมึงหนิอีช้าง ไปละ”

“ให้กูไปส่งมั้ย”

“ไม่ต้องหรอกอีแหนด เดี๋ยวกูจะเดินรับลมสักหน่อย”

“ดราม่าอีกละ เออๆ กลับดีๆมึง ระวังโดนสอยไปซะก่อนหล่ะ”

“จ๊ะ อีคิม กูไปละ บาย”

ผมบอกลาอีสามหน่อ ก่อนที่จะเดินออกมาจากร้าน ผมนั่งอยู่บนแท็กซี่ สายตาของผม เหม่อมองแสงไฟตามข้างถนนที่ๆผมกำลังจะไปไม่ใช่ทางกลับบ้าน แต่เป็นที่สุดท้ายของวันนั้น วันที่ท็อปชวนผมไปถ่ายรูปด้วยกัน ผมเดินขึ้นไปบนสะพาน เหม่อมองภาพเบื้องหน้าอย่างเหม่อลอย

นึกถึงวันเก่าๆ ที่เคยมายืนอยู่ด้วยกันตรงนี้ นึกถึงเกมส์ทายคำถามที่เคยเล่นด้วยกัน และในคำถามสุดท้ายของท็อป ที่ผมไม่ได้ตอบกลับไป

 

‘พี่ชอบคนที่แก่กว่าหรือเด็กกว่าหรอครับ’

 

ผมหันหลังเตรียมตัวจะเดินกลับ เพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว แต่สายตาผม ดันหันไปเจอกับเด็กผู้ชายคนนั้นอีกครั้ง ผมได้แต่ยืนนิ่ง จ้องมองไปที่ท็อปด้วยสายตาที่คิดถึง และโหยหา ท็อปจ้องมองมาที่ผม เราทั้งคู่สบตากัน เหมือนมีแรงดึงดูดให้เราทั้งคู่เดินเข้าหากัน และในที่สุด เราทั้งคู่ก็กอดกันด้วยความคิดถึง

แต่

.

.

.

ต้องย้อนกลับไปที่ประโยคด้านบนใหม่ ประโยคที่ว่า ‘ผมได้แต่ยืนนิ่ง’

เพราะต่อจากนั้น มันเป็นความคิดของผมไม่ใช่ความจริง เพราะความจริงคือตอนนี้ ผมยังยืนอยู่ที่เดิม จ้องมองท็อปด้วยสายตายากที่จะอธิบาย ความรู้สึกของผมตอนนี้ก็เช่นกัน ท็อปจ้องมองมาที่ผม เราทั้งคู่สบตากัน เหมือนมีแรงดึงดูดให้เราทั้งคู่เดินเข้าหากัน และในที่สุดเราที่คู่ ก็....

 

เดินสวนกัน โดยที่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เหมือนคนที่ไม่รู้จักกัน ผมหันหลังกับไปมองท็อปที่กำลังเดินหันหลังให้ผม โดยที่ไม่หันกลับมามอง ผมยืนมองแผ่นหลังของเด็กคนนั้นจนลับสายตาไป ฉับพลัน น้ำตาของผมก็รื้อขึ้นมาที่ขอบตาอีกครั้ง และไหลออกมาในที่สุด ผมได้แต่ยืนอยู่ตรงนั้น จนในที่สุด ผมก็พูดประโยคหนึ่งที่ผมไม่อยากจะพูดมันออกมาเลยทั้งชีวิต ถึงแม้ว่าท็อปจะไม่ได้ยินก็ตาม

 

 

“ลาก่อนนะ ท็อป”

 

30%

 

ยังไม่จบนะค่ะ มันเป็นยังไงบ้างง่า คอมเม้นให้กันนิดนึงนะคะ แลกเปลี่ยนกันเนอะ เดี๋ยวจะมาอัพต่อแน่นอนค่ะ เมื่อไรท์เตอร์มันคิดออก -..-

 

แจ้งนิดนึงนะคะ ผมงานชิ้นนี้ ไรท์เตอร์ เอาลง 2 เว็บนะคะ ถ้าเปิดไปเจอ ก็คือ ผลงานของคนๆเดียวกันน้า

 

Update 20%

 

[ท็อป]

หลังจากที่ผมกลับมาจากบ้านพี่กัสจนถึงบ้าน ผมก็ไม่พูดคุยกับใครอีกเลย ความรู้สึกเจ็บที่มือยังคงอยู่ แต่ไม่อาจสู้ความรู้สึกเจ็บบริเวณหน้าอกด้านซ้ายได้เลย ผมค่อยๆนั่งลงบนเตียง ตอนนี้ในหัวสมองของผม นึงถึงแต่ผู้ชายตัวเล็กๆที่ผมพึ่งเดินจากเค้ามา นี้ตกลงเราคงต้องเลิกกันจริงๆใช่มั้ยพี่กัส ผมรู้นะ ว่าพี่ไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนี้ ผมก็เหมือนกัน ตอนนี้ผมรู้สึก...ทรมาน

“ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้ด้วยว๊ะ”

ผมสถบออกมาเสียงดังภายในห้องส่วนตัวของผม ใครจะได้ยินก็ชั่งเพราะตอนนี้ ผมรู้สึกไม่โอเคเลย

“โถ่เว้ย!”

ผมทิ้งร่างกายของผมลงบนเตียงแรงๆ และจู่ๆความรู้สึกเหมือนว่ามีขอเหลวสีใสคลออยู่ที่บริเวณดวงตาของผม ผมกำลังร้องให้

“ผมต้องทำยังไง ผมต้องทำยังไงพี่กัส ผมถึงจะได้พี่กลับคืนมา ผมรักพี่มากนะ พี่รู้มั้ย เวลาที่เราไปไหนมาไหนด้วยกัน มันมีความสุขมาก ผมไม่อยากให้ช่วงเวลาดีๆเหล่านั้นหายไป ผมไม่ต้องการ”

ผมพูดคนเดียวเหมือนคนบ้า น้ำตาค่อยๆไหลออกมา คนๆนี้ เป็นคนที่ผมรักมาก จะว่าคนอกหักช่วงแรกๆอยู่ในอาการเฮิร์ทหนักแล้วร้องให้ มันก็ไม่แปลก แต่มันก็ไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด เพราะว่าผม ไม่เคยร้องให้ ให้แฟนผมคนไหนมาก่อนเลย พี่กัส เป็นคนแรก ที่ทำให้ผมทรมานได้ถึงขนาดนี้ เพราะเค้าเข้าใจผมมากที่สุด เค้าคือคนที่ทำให้ผมมีความสุขมากที่สุด เค้าคือคนที่ผม...รักมากที่สุด

ก๊อกๆๆ

“ท็อป เปิดประตูให้ม๊าหน่อย”

ผมรีบเช็ดนี้ตาลวกๆ ก่อนที่จะเดินไปเปิดประตูให้แม่ของผม

“ม๊ามีอะไร”

ผมถามแม่กลับเสียงนิ่ง

“ม๊าขอคุยด้วยหน่อยสิ”

ผมเบี่ยงตัวไปอีกทางเพื่อให้แม่เดินเข้ามาในห้องของผม ก่อนที่ผมจะลงไปนั่งข้างๆแม่ที่นั่งรอยู่ที่เตียงก่อนแล้ว

“ม๊าไม่อยากให้ลูกมีแฟนเป็นตุ๊ด”

คำพูดของแม่แทงใจดำผมสุดๆ นี้แม่เข้ามาเพื่อที่จะพูดแค่นี้หรอ ต้องการซ้ำเติมผมใช่มั้ย  ผมหันไปมองหน้าแม่ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงความไม่พอใจ

“ม๊ามีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่มั้ย”

ผมถามแม่กลับไปตรงๆ แค่นี้ก็ทรมานมากพอแล้วยังจะมาพูดให้ผมรู้สึกแย่ไปกว่าเดิมอีก ผมกำลังจะลุกเดินออกไปนอกห้อง แต่ประโยคถัดมาที่แม่พูดทำให้ผมชะงัก

“ม๊าขอโทษ ม๊าแค่ต้องการหาสิ่งดีๆให้ลูกของม๊า”

“แล้วพี่กัสเค้าไม่ดีตรงไหน เค้าแค่เป็นผู้ชาย ความรักมันห้ามกันไม่ได้นะม๊า!”

ผมตอบแม่กลับไปเสียงดัง ผมรู้สึกเสียใจมาก ที่แม่มาหักห้ามความรักที่กำลังจะไปได้ด้วยดีระหว่างผมกับเขา ผมเดินออกจากห้องทันทีโดยไม่ฟังเสียงเรียกของแม่ ผมไม่อยากได้ยิน ผมกดโทรศัพท์โทรหาไอ้ต้นเพื่อนของผม เพื่อหาที่ระบายอารมณ์ ก่อนที่จะขี่มอไซค์ ออกจากบ้านทันที

 

“เป็นไรว๊ะไอ้ท็อป กูเห็นมึงทำหน้าเศร้าตลอดเวลาตั้งแต่กูมาถึงละ  มีปัญหาไรครับ”

“กูเลิกกับพี่กัสแล้วหว่ะ”

“เอ้า เลิกแล้วก็หาใหม่ดิว๊ะ”

“ไอ้ห่า คนนี้กูจริงจังเว้ย”

ผมด่าไอ้ต้นกลับไป ที่มันกวนไม่รู้เวลา

“กูล้อเล่นครับ เพราะแม่มึงใช่มั้ย”

“อืม”

ผมตอบไอ้ต้นกลับไปเสียงนิ่ง

“ที่เค้าทำก็เพราะเค้าเป็นห่วงมึงนะไอ้ท็อป เค้าก็อยากหาสิ่งดีๆให้ลูกตัวเองทั้งนั้น ใครมันจะไปอยากได้ลูกสะใภ้เป็นตุ๊ดว๊ะ”

“ไอ้ต้น!!”

ผมตะคอกใส่ไอ้เพื่อนตัวดี ที่ยังยิ้มหน้าระรื่นได้ตลอดเวลา ทั้งๆที่ผมทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่ตรงนี้ นี่ผมคิดผิดจริงๆ มาหาที่ระบายอารมณ์กับไอ้ต้น ผมกลับเคลียดหนักกว่าเดิมอีก

“ท็อป ต้น”

ผมหันไปตามเสียงเรียกที่ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ก็พบกับ ฟ้า แฟนสุดที่รักของไอ้ต้น

“ไหงทัก ไอ้ท็อปก่อนต้นอ่ะฟ้า”

ไอ้ต้นทำเสียงงอนๆให้แฟนตัวเองง้อ แต่ฝันไปเถอะ ในเมื่อฟ้าอยู่ต่อหน้าผม ฟ้าไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน ผมกับฟ้าเคยเป็นเพื่อนสนิทกันสมัยเรียนอยู่มัธยมต้น ฟ้าเคยแอบชอบผม แต่ผมไม่ได้คิดอะไรกับฟ้า จนผมรู้จักกับไอ้ต้นตอนขึ้นมัธยมปลาย ไอ้ต้นมันแอบชอบฟ้า ผมเลยช่วยติดต่อให้ แต่ดูที่มันพูดกับผมตอนนี้ดิ ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนนะ ผมซัดหงายหลังไปละ งี้ต้องเอาคืน

“ไง ฟ้า”

ผมแกล้งเดินไปโอบไหล่ฟ้า ทำให้ไอ้ต้นมองตาขวางใส่ผมแล้วเข้ามาแทรกระหว่างผมกับฟ้าทันที

“แฟนกู”

ผมกับฟ้าขำพรืดในความขี้หวงของไอ้ต้น หน้าอิจฉามันนะ คบกันมา 2 ปีกว่า ถึงจะมีปัญหามากมาย เรื่องที่ พ่อและแม่ของฟ้าไม่ชอบไอ้ต้นที่มันดูเป็นคนไม่เอาไหน คอยกีดกันอยู่ตลอดเวลา แต่ไอ้ต้นมันพยายามจนทำให้พ่อและแม่ของฟ้ายอมรับในตัวมัน ต่างจากผม ที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะฝ่ายที่กีดกันความรักของผมกับพี่กัส คือแม่ของผมเอง

“เป็นไรป่าวท็อป ไมทำหน้างั้นอ่ะ”

“มันพึ่งเลิกกับแฟนมัน”

นี้มันไม่อยากให้ผมยุ่งกับแฟนมัน ขนาดตอบแทนผมเลยอ่ะ คิดดูดิครับ หวงแฟนแค่ไหน

“เราว่าพี่เค้าก็น่ารักดีนะท็อป นิสัยก็ดี ทำไมเลิกอ่ะ”

“แม่มันกีดกัน”

ผมได้แต่นิ่งเงียบ ไม่อยากพูดอะไรอีก ถามว่าผมโกรธแม่มั้ย แน่นอนว่าผมโกรธ แต่ยังไงเค้าก็คือแม่ของผม ผมก็ยังรักแม่ของผมอยู่  แต่ผมไม่สามารถรักคนอีกคนได้ เพราะถูกคนที่ผมรักคนนี้กีดกัน ผมถึงได้เจ็บปวดอยู่ตอนนี้

“แต่เราว่าแม่ของท็อป เค้ารักท็อปมากนะ เค้าก็ต้องการหาแต่สิ่งดีๆให้ท็อป แต่เราไม่ได้ว่าพี่กัสไม่ดีนะ”

ที่ฟ้าพูดมามันก็มีเหตุผล แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี

“เอาหน่า ไอ้ท็อป ไม่เป็นไรเว้ย เดี๋ยวเวลาผ่านไป อะไรๆมันก็ดีขึ้น ต้องทำใจแล้วหว่ะ ถ้าแม่มึงไม่ยอม เดี๋ยวกูกับฟ้า กลับก่อนนะ มีไรโทรมาได้ตลอดนะเว้ย แล้วก็ขอโทษที่กวนไม่รู้เวลา ไม่อยากให้มึงเครียด ไปละ”

“ไปแล้วนะท็อป”

“โอเคๆ กับดีๆนะ บาย”

ไอ้ต้นกับฟ้าโบกมือลาผมแล้วส่งยิ้มให้ผม ผมก็โบกมือลาทั้งคู่ ก่อนที่จะกลับบ้านไป ไม่ว่ายังไง 2 คนนี้ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดี คอยให้คำปรึกษาผมตลอด ถึงจะมีกวนๆบ้าง แต่ก็ดีกว่าไม่เหลือใครเลย

 

ผมกลับมาถึงบ้าน กำลังจะเดินขึ้นห้องก็ต้องชะงัก เมื่อผมได้ยินเสียงของแม่ ดังออกมาจากห้องของผม...เสียงร้องให้ของแม่

“ฉันแค่ต้องการหาสิ่งดีๆให้ลูก ฉันผิดตรงไหนหรอคุณ”

ผมได้แต่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น นี้ผมทำให้แม่ร้องให้ ผมทำให้ท่านเสียใจ เพราะท่านต้องการหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ผม เพราะว่าท่านหวังดี อย่างงั้นหรอ

“ผมเข้าใจคุณ ใครๆก็ต้องการหาแต่สิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกทั้งนั้น แต่ผมมาคิดๆดูแล้ว เราไม่ควรไปหักห้ามในเรื่องแบบนี้ แค่เค้าสองคนรักกัน มันก็ไม่เสียหายอะไร เพราะตอนนี้อะไรๆมันก็เปลี่ยนไปแล้ว”

ผมตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปในห้อง เห็นพ่อกำลังปลอบใจแม่ที่นั่งร้องให้อยู่บนเตียงของผม เมื่อแม่เห็นผมเดินเข้ามา แม่รีบเดินมาหาผมทันที

“ท็อป อย่าโกรธม๊าเลยนะลูก ม๊าเข้าใจลูกแล้ว ถ้าลูกอยากคบกับพี่เค้า ม๊าก็ไม่ว่าอะไร เพื่อความสุขของลูก”

แม่พูดกับผมทั้งน้ำตา ผมแทบจะร้องให้ออกมา แม่พยายามทำทุกอย่างเพื่อผมจริงๆ ผมเข้าใจแม่แล้ว เข้าใจความหวังดีทุกอย่างที่แม่พยายามมอบให้ผม

“ผมขอโทษที่ทำให้ม๊าต้องมาร้องให้เพราะผม ผมขอโทษ”

พ่อที่เดินมาหาผมกับแม่ยิ้มให้ผม ผมจึงก้มลงกราบท่านทั้งสอง

“ป๊าก็ไม่อยากจะกีดกันอะไร ป๊าเข้าใจแก”

“ผมขอโทษนะป๊า ม๊า ผมรักป๊ากับม๊ามากนะครับ”

พ่อกับแม่ลูบหัวผมเบาๆ และดึงให้ผมลุกขึ้น พลางกอดไว้หลวมๆ

“แกจะทำอะไรก็ทำเถอะ ป๊าไม่ว่าอะไรหรอก”

“ขอบคุณนะครับ ป๊าม๊า”

แม่จับมือผม ทำให้ผมกระตุกมือนิดๆ ผมยังรู้สึกเจ็บที่มืออยู่เพราะยังไม่ได้ทำแผล ผมจึงพยายามเกร็งมือไว้ เพื่อไม่ให้แม่รู้ว่าผมไปโดนอะไรมา

“เป็นอะไรรึป่าวลูก”

แม่ถามผมด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นอะไรครับม๊า”

ผมตอบแม่กลับไปยิ้มๆ ท่านทั้งสองจึงยิ้มให้ผม ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป

 

 

50%

 

ยังไม่จบนะคะ รอก่อนนะ มาอัพต่อแน่นอนค่ะ สงสัยไหมเอ่ย ว่า ฟ้ากันต้นเป็นใคร สองคนนี้มากจากซีรีย์มิติรัก่านเลนส์ ตอน รอยเท้าของปูลมค้า น่ารักมากๆ ทั้งคู่

เลย พี่ฟ้าตัวจริงหน้าจะชื่อมิ้น ไอจี มิ้นชี่ ภาษาอังกฤษ มั้งนะคะ จำไม่ค่อยได้

 

Update 20%

 

หลังจากวันที่พ่อกับแม่ได้คุยกับผมเรื่องพี่กัสแล้ว ผมก็ได้เล่าให้ไอ้ต้นกับฟ้าฟัง ทั่งคู่ก็ดีใจกับผมด้วย แล้วบอกว่าถ้ามีอะไรก็จะช่วยเต็มที่ ผมจึงคิดแผนเซอร์ไพรส์พี่กัส โดยที่ผมจะเก็บภาพจากสถานที่ต่างๆ เพื่อที่ผมจะทำเป็นสมุดไดอารี่ความทรงจำระหว่างผมกับพี่กัส โดยสื่อออกมาในรูปแบบของรูปภาพเป็นส่วนใหญ่ ผมจึงชวนไอ้ต้นกับฟ้า ไปถ่ายรูปด้วยกันตามสถานที่ต่างๆที่ผมเคยไปกับพี่กัสเริ่มจากร้านอาหาร ที่ผมตามพี่สีบานไป(ไรท์เตอร์จำชื่อร้านไม่ได้ค่ะ ขออภัย -..-) แต่เมื่อผมมาถึง สิ่งแรกที่ผมเห็น ทำให้ผมนิ่งค้าง...พี่กัสกำลังนั่งทานข้าวอยู่ในร้านนั้น ที่โต๊ะเดิม ทั้งๆที่ภายในร้าน มีที่ว่าตั้งเยอะ

“เอ้า นั้นพี่ อุ๊บ!!”

ผมรีบเอามีอุดปากไอ้ต้นทันทีที่มันแหกปากเสียงดัง แล้วลากออกนอกร้าน ดีนะที่พี่เค้าไม่เห็นผม

“เสียงดังไปนะต้น เดี๋ยวพี่กัสเค้าก็รู้ตัวหรอก ท็อป ฟ้าว่านะ แอบถ่ายที่เค้าไปด้วยเลย เวลาเอาให้พี่เค้าดู เค้าจะเซอร์ไพรส์มากกว่าเดิมอีก”

ผมพยักหน้าตอบฟ้า แล้วจึงเริ่มเก็บรูปพี่กัสลงในกล้องตัวโปรดของผม มันอาจจะเป็นความบังเอิญที่เจอพี่กัส แต่ผมก็ดีใจ

ตั้งแต่วันนั้น ผมก็ได้เริ่มไปตามสถานที่ต่างๆที่ผมเคยไปกับพี่กัส เรื่องที่ผมคิดว่ามันเป็นความบังเอิญ ตอนนี้ผมคิดว่า มันคงไม่ใช่แบบนั้นแล้ว เพราะทุกๆที่ที่ผมไป ผมก็มักจะเจอกับพี่กัส พี่เค้ามักจะชวนเพื่อนไปทานข้าวในร้านที่ผมไปกับพี่สีบาน สวนสาธารณะที่ผมกับพี่กัสไปเดินถ่ายรูปด้วยกัน และที่ต่างๆที่ผมเคยไปกับพี่กัส นี่ตกลงพี่ยังไม่ลืมผมใช่มั้ยพี่กัส  ผมดีใจนะ รอผมก่อนนะครับ ไว้ผมทำไดอารี่เล่มนี้เสร็จเมื่อไหร่ พี่กับผม เราคงได้กลับมาคบกันอีก เหมือนอย่างที่ผมเคยพูดไว้

“เพื่อนกู ประสาทแดกซะและ ถ่ายรูปไปยิ้มไป”

เสียงของไอ้ต้น ทำให้ผมหุบยิ้มทันที แล้วหันไปเลิกคิ้วให้ฟ้า ทำนองว่า ‘จัดการให้หน่อย’ แล้วผมจึงกับมาสนใจคนในเฟรมของผมต่อ ปล่อยให้ไอ้ต้นโดนแฟนสุดที่รักของมันจัดการไป

เย็นวันศุกร์ ผมกะว่าจะไปร้านอาหารที่ผมนัดเจอกับพี่กัสวันแรกตอนไปถ่ายโลเคชั่นหนังของผม แต่ไอ้ต้นไม่ว่าง ต้องไปทำธุระให้แม่มัน ผมเลยต้องไปกับฟ้าสองคน ระหว่างที่ผมกำลังคุยกับฟ้าอยู่ ผมก็เหลือบไปเห็นพี่กัส ที่รีบเดินเลี่ยงไปอีกทาง นี้อย่าบอกนะว่าพี่เห็นผมเดินมากับฟ้าแล้วเข้าใจผิด ผมรีบออกตัววิ่งตามพี่กัสไปทันที แต่ก็ไม่ทัน พี่กัสขึ้นรถแท็กซี่ไปแล้ว

“ท็อป รอด้วย”

ผมหันไปหาฟ้า ที่วิ่งตามผมมา

“โทษทีนะฟ้า ที่ไม่ได้รอ”

ผมหันไปพูดกับฟ้า ตอนนี้ผมรู้สึกไม่โอเคเลยที่เห็นท่าทางแบบนั้นของพี่กัส

“ท็อป”

“เรากลับกันเหอะ เดี๋ยวไปส่ง”

ผมชวนฟ้ากลับบ้าน วันนี้ผมคงไม่มีอารมณ์ถ่ายรูปพวกนี้แล้ว ยิ่งพี่เค้าเข้าใจผิดแบบนี้ทำให้ผมกระวนกระวายใจเข้าไปใหญ่ ติดต่อกับพี่กัสก็ไม่ได้เพราะ พี่เขาบล็อกเบอร์ผมไว้

 

“บายท็อป ขอบคุณที่มาส่งนะ ถ้ามีอะไร ก็โทรมาได้ตลอดนะ”

ฟ้าพูดกับผมก่อนลงจากแท็กซี่ ผมได้แต่พยักหน้ายิ้มๆและโบกมือกลับไป สิ่งที่ผมคิดยู่ตอนนี้ คือความกังวน ผมได้แต่ภวานาขออย่าให้พี่กัสเข้าใจผมผิดๆแบบนั้นเลย ผมกะว่าจะนั่งแท็กซี่กลับบ้าน แต่ผมกลับนึกถึงอีกที่หนึ่งขึ้นมา ผมจึงนั่งแท็กซี่ไปที่แห่งนั้นแทน

 

ผมเดินเก็บภาพความทรงจำไปเรื่อยๆ ผมก็รู้สึกมีความสุขนะ นึกถึงวันที่มากับพี่เค้าวันแรก ผมอยากให้มีวันนั้นอีก ผมถ่ายภาพบนสะพานจนเพลิน มองดูนาฬิกาอีกที ก็ดึกแล้ว ผมจึงเตรียมตัวกลับบ้าน ในจังหว่ะที่ผมเงยหน้าขึ้นจากการเช็คภาพในกล้องตัวโปรดของผม ผมก็ได้เจอกับพี่กัสกำลังมองมาที่ผม ด้วยสายตาที่...อ่านไม่ออก

ผมยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหน ทำไมพี่เค้าถึงมองผมด้วยสายตาแบบนั้น จะคิดถึงก็ไม่ใช่ จะดีใจก็ไม่เชิง หรือ ผิดหวัง...ก็มีอยู่บ้าง ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมจ้องมองใบหน้าของพี่เขาอยู่อย่างนั้น ขาทั้ง 2 ข้างค่อยๆ เดินเข้าหาพี่กัส และดูเหมือนว่าเราทั้งคู่จะเข้าใกล้กันเรื่อยๆ...

ทำไมมันเป็นแบบนี้

ทำไมพี่กัสเดินผ่านผมไป เหมือนผมเป็นธาตุอากาศ

ไม่แม้แต้จะทักทาย

ไม่แม้แต่จะสบตา...

ผมรู้สึกผิดหวัง ผมรู้สึกเสียใจ ผมเดินไปเรื่อยๆโดยไม่หันกลับมามองพี่กัสอีก การกระทำของพี่เขา ทำให้ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าผมยังมีโอกาส หรือว่า มันสายไปแล้ว ผมเดินเข้าไปหลบหลังต้นไม่แถวๆนั้น และหันหลังกลับมามองพี่เขา ภาพสุดท้ายที่ผมบนทึกในวันนี้ คือ ภาพที่พี่กัส กำลังเดินหันหลังให้ผม ภาพที่พี่เขา กำลังเดินจากไป ไกลขึ้นเรื่อยๆ และหายไป ในที่สุด ผมหันหลังกลับมายืนพิงต้นไม้ พลางเอามือก่ายหน้าผาก รู้สึกอ่อนเพลียไม่น้อย พลางถอนหายใจ ในจังหวะที่ผมกำลังเตรียมตัวกลับบ้าน ก็มีเสียงๆหนึ่งทักผมขึ้น

“แอบถ่ายรูปใครอยู่หรอ”

 

 

70%

 

ตอนหน้าก็จบแล้วค้า รอก่อนน้าา 

 

Update 30%

 

ผมสะดุ้ง เมื่อผมหันมาก็เจอกับ พี่กอล์ฟ พี่คิม และก็ พี่แนตตี้ ที่มองมาทางผมอย่างจับผิด

“เอ่อ คือ”

“กัสมันยังไม่ลืมท็อปหรอกนะ วันนี้มันมาเล่าให้พวกพี่ฟังเรื่องที่เห็นท็อปกับเด็กผู้หญิง”

“ไม่ใช่อย่างงั้นนะพี่คิม คือฟ้าเป็นเพื่อนผม ผมกับฟ้าและก็ไอ้ต้น จะไปถ่ายรูปด้วยกันประจำ แต่วันนี้ไอ้ต้นมันติดธุระ ผมเลยไปกับฟ้าแค่สองคน”

ผมรีบอธิบาย ให้พวกพี่ๆเค้าฟัง เพื่อไม่ให้เข้าใจผมผิด แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ง่ายซะแล้ว

“เดี๋ยวนะ รูปอะไรแล้วทำไมต้องถ่ายตอนที่กัสอยู่ด้วย”

“ห๊ะ พี่กอล์ฟหมายความว่าไง”

“นี้ท็อป พี่เห็นนะ เวลาที่ท็อปแอบถ่ายรูปอีกัสตอนมันเผลออ่ะ และก็เห็นบ่อยด้วย อธิบายมา”

ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ผมจึงตัดสินใจอธิบายเรื่องทุกอย่างให้พวกพี่เขาฟัง

“ท็อปอยากกับไปคบกับอีกัสว่างั้น”

“ครับ”

ผมตอบพี่แนตตี้กลับไปตรงๆ

“งั้นเอางี้ ต้องใช้เวลาหน่อย อดทนรอ แล้วทำตามที่พี่บอกนะ”

ผมพยักหน้าตอบตกลงพี่แนตตี้กลับไปอย่างงงๆ ก่อนที่ทั้ง 3 คนจะยิ้มออกมาพร้อมกัน เป็นยิ้มที่ ‘เจ้าเล่ห์’ มากกก

 

[กัส]

ล่วงเข้าเดือนสิงหา วันที่ 12 เป็นวันศุกร์และตรงกับวันแม่พอดี วันสารทจีนที่ผ่านมา พวกเรายังทำตามความฝัน(หาผู้ชาย)ไม่สำเร็จ จึงเปลี่ยนเป็นวันสารทจีนหน้า แต่ยังไม่ทันไร อีคิมก็เอาตัวเองมาเปิดตัวเป็นแม่ ซึ่งนางไปงับเพื่อนสจ๊วตสุดหล่อด้วยกันนั่นแหละมาเป็นพ่อ เปิดตัวตั้งแต่วันนี้ สงสัยนางรีบ และครั้งนี้ คึกคักกว่าที่เคย เพราะนางได้ชวนมิตรสหายที่เคยรู้จักมากันด้วย

“แหมๆๆ ไม่ทันไรก็มีผัวซะแล้ว ดีใจด้วยนะ”

“คะ เจ๊หลี แล้วนี้ตกลงกับคุณกล้องยังไงคะ”

“ก็อย่างที่เห็น คุณกล้องเค้าเป็นสุภาพบุรุษ เค้าเข้าใจอะนะ”

เจ็หลี ควงแขนคุณกล้องผัวคนที่เท่าไหร่ของนางมาก็ไม่รู้ น่าอิจฉานางเหมือนกันนะ ที่คุณกล้องเค้าเข้าใจ และ รับได้

“วี๊ดดดดดดดด เจ้เพ็ญ”

เสียงร้องของอีแหนดทำให้ทุกคนต้องหันไปมองตัวต้นเหตุ ที่เดินยิ้มหน้าระรื่มเข้ามาในร้านคาราโอเกะพร้อมกับผัวตัวจริงของนาง

“หูย คุณหมอดิ๊กกี้ของยุนอาตัวจริงนี่ หล่อดีเหมือนกันนะคะเนี้ย”

ยังไม่ทันไรอีคิมก็เปิดฉากแซวนางและเช่นเคย ถึงนางจะเปิดโปงตัวตนที่แท้จริงของนางออกมาแล้ว แต่คำสอนของนาง ไม่เคยจางหายไป แต่นั้น ก็สร้างเสียงหัวเราะ ทำให้บรรยากาศในงานดูมีสีสันขึ้น

“Hi คิมมี่ Thank you นะจ๊ะที่อุส่าชวนมางานเปิดตัว Your Husband ด้วย”

“พูดไทยก็พอแล้วมั้ยนังแพรรี่  ได้ข่าวพูดอีสานได้หนิ”

เสียงหัวเราะดังตามมาหลังจากที่อีคิมแฉนังแพรรี่จบ จนนางรัวภาษาบ้านเกิดใส่เป็นชุดอย่างสนุกสนานมันเป็นบรรยายกาศที่สดใสดีนะ รู้สึกมีความสุขแทนอีคิมมัน ผมนั่งอยู่ในงานปาร์ตี้ ที่เริ่มดำเนินไปเรื่อยๆยิ้มๆ

‘อยากให้ท็อปมาด้วยจัง’

ผมได้แต่คิดในใจ แล้วจึงนั่งดื่มพลางฟังเสียงแสบแก้วหูของอีกแหนด ที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ นี้มันคงไม่รู้ตัวจริงๆสินะ ว่าเสียงมันหน่ะเพราะแค่ไหน เวลาล่วงเลยผ่านไปหลายชั่วโมงตอนนี้ก็ดึกแล้ว อีกอล์ฟกับอีแหนดหายหัวไปไหนของมันก็ไม่รู้ตั้งแต่ร้องเพลงจบ จนตอนนี้เค้าจะกลับบ้านกันหมดแล้วยังไม่กลับมาอีก

“มาแล้วๆๆค้า คิดถึงกูอยู่หล่ะสิ”

“จ๊ะ พวกมึงไปไหนมา”

อีกอล์ฟหันไปยิ้มกับอีแหนด ‘อะไรอีกหล่ะพวกมึง’ ผมกรอกตามองบนตามแบบฉบับของผมก่อนที่จะนั่งฟังอีคู่รักข้าวใหม่ปลามันร้องเพลงกันไป

 

“เจ๊กลับละนะ บายย มีความสุขมากๆนะยะ”

“คะ อีเจ๊”

เมื่อถึงเวลา ทุกคนต่างบอกลากันและแยกย้ายกันกลับตามปกติ วันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขแทนอีคิมมันเลยหล่ะ มีทั้งเพื่อน พี่  คนรู้จักมาร่วมแสดงความยินกับการที่มันหาผัวได้ ถ้ามันแต่งงาน ไม่อยากจะคิด คงชวนมาทั้งหมู่บ้านแน่ๆ เผลอๆ แค่นั้นอาจจะน้อยไปด้วยซ้ำ

“นิทากูหรอ อีสิงโตนาเนียร์”

ผมหันไปยักคิ้วให้อีคิมมันสองที ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับ ในระหว่างที่ผมกำลังรอแท็กซี่เตรียมกับบ้าน

เสียงโทรศัพท์เข้า......(เสียงแบบไอโฟน)

Golf Fat

“ฮัลโหล ว่าไงอีช้าง”

“มึง กูหากระป๋าตังไม่เจออะ กระเป๋ากูวางไว้ใกล้กระเป๋ามึงด้วย มึงดูให้ดูหน่อยว่าอยู่กับมึงมั้ย”

“ได้ๆ แป๊ปนึงนะ”

ผมล้วงหากระเป๋าตังของอีช้าง สงสัยมันเมาแหงๆมายัดของสำคัญใส่กระเป๋าคนอื่น

“อยู่กับกู”

“โทษทีมึง สงสัยกูใส่กระเป๋าผิด มึง กูวานเอามาให้กูหน่อย กูจำเป็นต้องใช่จริงๆหว่ะ กูยังไม่ได้กดตังให้แม่กูเลย”

“แล้วให้กูเอาไปให้ที่ไหน”

“ก็ ที่...”

 

ผมลงมาจากรถแท็กซี่ ตอนนี้ผมอยู่หน้าสวนสาธารณะที่ผมเคยมากับท็อป ความสงสัยผลุดขึ้นมาในหัวผม

‘อีกอล์ฟมาทำอะไรที่นี่ คนละทางกับบ้านของมันเลย’

ความสงสัยเกิดขึ้นกับผม เมื่อทางข้างหน้ามันดูสว่างมากกว่าปกติ ผมจึงค่อยๆเดินเข้าไปหาแสงไฟกลุ่มนั้น มันดูสวยงามมาก เหมือนมีคนตั้งใจทำมันขึ้นมา และผมก็ต้องหยุดสายตาไว้ที่ต้นไม้รอบข้าง มีรูปหลายใบ และไฟสีส้มดวงน้อยๆ ติดอยู่ตามรูปภาพ แต่รูปภาพเหล่านั้นทำให้ผมแปลกใจ มันเป็นรูปภาพของผม ที่อยู่ในที่ต่างๆที่ตลอดสามเดือนผมได้ไปมา ใครเป็นคนแอบถ่ายกัน!

“พี่กัส”

ผมค่อยๆหันไปตามเสียงเรียกของคนที่ผมคุ้นเคย และทำให้ผมเบิกตากว้าง ท็อปที่กำลังเดินมาหาผม ส่งยิ้มมาให้ผม อย่างที่เคยทำมาโดยตลอด

“ป๊ากับม๊าเค้าเข้าใจผม เค้าอนุญาตที่จะให้เราคบกัน ผมคิดถึงพี่อยู่ตลอดเวลา เมื่อไม่มีพี่อยู่ข้างๆ เรากลับมาคบกันอีกได้มั้ยครับ กัส”

ท็อปเดินเข้ามาใกล้ผมขึ้นเรื่อยๆ และมองหน้าผมตรงๆแววตาที่เต็มไปด้วยความหวังของท็อป ทำให้ผมลังเล แต่คำพูดที่ท็อปพูดออกมาผมสามารถเชื่อได้แค่ไหน ในเมื่อวันนั้น

“แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้น”

“ฟ้าเป็นเพื่อนผม”

“และฟ้าก็มีแฟนแล้วด้วยค่ะ พี่กัสไม่ต้องห่วง”

ผมมองเด็กสาวหน้าตาน่ารักที่เดินออกมาจากทางด้านหลังต้นไม้ พร้อมกับเด็กผู้ชายอีกคน ทั้งสองมองมาที่ผมยิ้มๆ

“มีคนมายืนยันแล้ว พี่กัสว่าไงครับ”

ท็อปยังคงจ้องมองมาที่ผม สายตาที่แน่วแน่ของท็อปทำให้ความรู้สึกของผมเหล่านั้นหวนกลับคืนมา หัวใจเต้นแรง ทั้งรัก และคิดถึงเด็กคนนี้ ในเมื่อมีโอกาสแล้วไม่ไขว่คว้าไว้นั้นเท่ากับคนโง่ ผมจึงตอบท็อปไป พร้อมกับน้ำตาที่รื้อขึ้นมาเสียดื้อๆ

“อื้ม”

ผมมองหน้าท็อปและส่งยิ้ม ท็อปมองหน้าผมตอบย่างดีใจและเดินเข้ามากอดผม เพื่อปลอบใจผม ผมกำลังร้องให้อยู่ในอ้อมกอดของเด็กคนนี้ ท็อปกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก ผมจึงค่อยๆกอดท็อปตอบ

“ผมรักที่กัสมากๆนะครับ”

“พี่ก็รักท็อปนะ”

ในเวลาที่แสนจะมีความสุขสำหรับผม และบรรยากาศที่แสนโรแมนติกนี้ก็ถูกขัดจังหว่ะด้วยกลุ่มบุคคลที่สาม ที่พากันโหร้องเสียงดังจนผมสะดุ้ง แต่ยังไม่ยอมออกจากอ้อมกอดของท็อปนะ ก็คนมันคิดถึงอ่ะ

ฮิ้ววววว

“ขอแสดงความยินดีกับอีเพื่อนสาวที่ได้เป็นแม่อีกคนสำหรับงานวันนี้ค้าาา”

เปิดตัวด้วยเสียงอีช้างลากอย่างอีกอล์ฟ

“และขอให้คบกันนานๆอย่าได้มีปัญหาแบบนี้อีกนะคะ อีลำไย”

ตามด้วยอีคิมมี่ เพื่อนตุ๊ดที่ยังไม่ยอมปล่อยแขนผัวคนใหม่ของนางตั้งแต่แยกย้ายกัน

“และก็ขอให้น้องท็อป มอบของสิ่งนี้แทนความพยายามที่ผ่านมาให้เพื่อนพี่ด้วยนะคะ”

ปิดท้ายด้วยอีแหนด แต่เดี๋ยว? ของอะไร ผมมองไปที่มืออีแหนดก็เห็นสมุดไอดาร์รี่เล่มหนึ่ง

“ขอบคุณนะพี่แนตตี้ พี่กัสครับ รูปภาพที่อยู่ตามต้นไม่เหล่านี้ ผมเป็นคนถ่ายเอง และสมุดไดอารี่เล่มนี้ ผมเป็นคนทำขึ้นมาเอง และผมตั้งใจทำมาให้พี่”

ผมรับสมุดไดอารี่จากท็อปมาอย่างอึ้งๆ เด็กผู้ชายทำของแบบนี้เป็นด้วยหรอ ผมค่อยๆเปิดสมุดไดอารี่เล่มนั้นดู ทุกๆหน้าจะมีรูปของผมกับท็อปที่เราถ่ายด้วยกัน และจะมีคำบรรยายไว้ใต้ภาพ มันทำให้ผมใจเต้นแรง และยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว

“อาๆ ในเมื่อน้องเค้าทำให้มึง งั้นเล่มนี้ที่มึงทำ มึงก็ให้น้องเค้าด้วยละกัน”

“อีกอล์ฟ!!”

“ว้ายยย ท็อปรับไป”

อีช้างโยนสมุดไดอารี่ของผมส่งให้ท็อป ทำให้ผมหน้าแดงแปร๊ด ก็สมุดเล่มนั้น ผมเขียนความรู้สึกของผมทุกช่วงเวลาเอาไว้หน่ะสิ และแน่นอนว่ามันน่าอายสุดๆ ผมรีบเข้าไปแย้งสมุดจากท็อปทันทีแต่ก็รู้ๆกันอยู่ ส่วนสูงมันต่างกัน ท็อปเปิดอ่านสมุดไดอารี่ของผมไปทีละหน้า และทำเหมือนจะยิ้มขำ ท็อปมองผม ผมจึงเบือนหน้าหนี

“พี่กัส”

“อะไร”

ท็อปยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆผม ทำให้ผมหลับตาปี๋ ผมรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ค่อยๆเลื่อนเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ และทาบลงมาที่ปากผมอย่างแผ่วเบา ปากของท็อป...ซะที่ไหนหล่ะ สมุดไดอารี่ของผมถูกท็อปยื่นมาปิดปากผมไว้ แกล้งงั้นหรอ

“ขอบคุณนะ”

จุ๊ป ///

แต่คราวนี้ของจริง ท็อปยื่นหน้ามาใกล้ผม และจุ๊ปที่ปากผมเร็วๆหนึ่งที และกลับมายิ้มตาหยี่เหมือนเดิม ผมอึ้งและรู้สึกเขิลมาจนทำตัวไม่ถูก ไอ้เด็กฉวยโอกาศ!

แต่ตอนนี้ผมขอไขข้อข้องใจก่อน ผมมองหน้าท็อป และมองไปที่อีก 3 คน และอีก 3 หน่อเพื่อนรักที่ยืนเป็นแบล็คกราวน์ข้างหลังท็อป

“ใครคิด”

ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ บอกเลย ไม่เนียนยะ

“อีช้าง”

“ป๊าวว”

เสียงสูงเชียวนะมึง

“อีคิม”

“เหอะๆๆ”

ส่ายหน้าลัวๆแล้วเกาะแขนผัว หน้าหมั่นไส้

“อีแหนด”

“หืม อะไรหรอ”

แอ๊บใสนะ อีพริตตี้ตกอับ ผมหันไปเค้นคำตอบกับคู่รักเด็กเรียนข้างหลัง แต่เสียงอีช้าง ก็ดังขัดขึ้นมาซะก่อน

“เออๆๆ พวกกูเองแหละ ก็กูสงสารมึง และกูเห็นท็อปพยายามเพื่อมึงขนาดนี้ กูก็อยากช่วย”

ยอมรับสักที ผมค่อยๆเดินไปหาอีสามหน่อกับอีกหนึ่งคน ผัวอีคิมนั่นแหละ ก็มันไม่ยอมปล่อย

“ขอบใจนะ ถ้าไม่มีพวกมึงอาจจะไม่มีวันนี้”

ผมกอดอีสามเพื่อนรักซึ่งตอนนี้อีคิมยอมปล่อยแขนผัวแล้วเนื่องจากไม่อยากให้ผมโดนตัวนาง

“จ๊ะ อีคุณเพื่อน นู้นผัวมึงยืนมองอยู่โน้นแล้ว ไปๆ”

และมันทั้งสามคน ก็ช่วยกันพลักผมไปหาท็อป ผมเงยหน้าไปมองท็อป ซึ่งท็อปก็มองผมตอบ และยังไม่เลิกยิ้มสักที ยิ้มอะไรนักหนา มันหน้ารักมากรู้มั้ย ผมเลย…

“โอ้ยยยย พี่กัส เจ็บ”

ดึงแก้มนางเล่น ท็อปเลยจับมือผมไว้และออกแรงดึงจนผมเซถลาไปอยู่ในอ้อมกอดของเด็กนี่อีกครั้ง จะทำอะไรอี๊กกก

“โอ้ย อิจฉาค่ะอิจฉา งั้นพวกกูกลับละ ไม่อยากเห็นอะไรเลี่ยนๆ ส่วนมึง มีผัวแล้วอีคิมไปยิ้มกันไกลๆนู้น น้องสองคนนั้นกลับกันเถอะ”

ยังไม่ทันไร อีช้างก็เอ่ยปากชวนตัวคิดแผนทั้งหลายกลับ เดี๋ยวๆ กระเป๋าตังมึงอยู่กับกู แต่ก็ไม่ทันแล้ว ทุกคนบอกลาผมกับท็อปและแจ้นกลับบ้านทันที เฮ้อ เดี๋ยวค่อยคืนวันหลังละกัน ตอนนี้จึงเหลือแค่เรา 2 คน ที่จะหลอมรวมกันเป็นหนึ่งอยู่แล้ว เมื่อท็อปกอดผมแน่นมาก ปล่อยนะ ////

“ผมรักพี่กัสมากๆนะครับ พี่กัสหละรักผมมั้ย”

ไอ้เด็กบ้า ถามเฉยๆก็ได้ มากระซิบข้างหูทำไมมันจั๊กจี้

“ระ รักสิ รักมากๆเลยด้วย”

ผมตอบท็อปกลับไป แล้วเอาหน้าซุกหน้าอกท็อปแก้เขิล

“ผมรักพี่กัสแล้วจะรักตลอดไปนะครับ”

ท็อปค่อยๆจูบหน้าผากผมอย่างแผ่วเบา เป็นคนที่อบอุ่น อยู่ใกล้แล้วมีความสุขจริงๆ ผมดีใจที่ได้เจอกับเด็กคนนี้ ถึงมีปัญหาอะไร ผมจะไม่เดินหนีอีกแล้ว ผมพร้อมจะยืนข้างๆเด็กคนนี้ แล้วก้าวไปด้วยกัน

“พี่ก็รักท็อปนะ แล้วจะรักตลอดไป”

ท็อปยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน ผมจึงยิ้มตอบท็อปกลับไป นานเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ในเวลานี้ ผมรู้สึกมีความสุขมากๆเลยหล่ะ

บทสรุประหว่างเราสองคน คือ การเริ่มต้นใหม่ที่ไม่มีวันสิ้นสุด ผมจะรักท็อป และผมก็มั่นใจแล้ว ว่าท็อปจะรักผมเช่นเดียวกัน จากนี้ และ ตลอดไป...

 

100%

 

 

The End

 

 

จบแล้ว ฮิ้ววว แฮปปี้ เป็นยังไงกันบ้างคะ สนุกไม่สนุกบอกได้น้า ขอบคุณคนที่เข้ามาอ่าน ขอบคุณคนที่คอมเม้นนะคะ ขอบคุณคนกดไลค์ให้คะแนนด้วยน้า ขอบคุณที่ยังติดตามผลงาน(อันล่าช้า)ด้วยนะคะ

อันนี้แถมค้า เอาลงได้แล้ว เย้!

 


 

ต้นสุดหล่อ แฟนฟ้าค้า(ตัวจริงไม่รู้ชื่ออ่า)

 

 

ฟ้าสุดสวย แฟนต้นไง พี่มิ้นน่ารักมาก ^^

 

 

คนนี้เลย แฟนสุดหล่อของคิมมี่เอง พี่ไอซ์ซึ

 

รูปท็อปกัสบ้างหล่ะ พี่เจเจกับพี่เผ่าเพชร คู่รักสุดฟิน >///<

 

 

ฟิลไหม >< น่ารัก  ทั้งรูปบนรูปล่างเล้ย

 

 

ไรท์ชอบรูปนี้มาก น่าร๊ากก แต่จำไม่ได้แล้วว่าไปเจอจากไหน แง่ว

 

 

ไปแล้วน้าา บ๊ายบายยยย

^^

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว