My Best(Boy) Friend
0
ตอน
4.4K
เข้าชม
99
ถูกใจ
8
ความคิดเห็น
17
เพิ่มลงคลัง

สวัสดีค่ะ วันนี้ไรท์เตอร์จะมาลงฟิคเรื่องแรกของไรท์เตอร์เองค่ะ เป็นฟิครีบอร์น ฟิคสั้นค่ะ พอดีว่าคิดถึง เปิดไปเจอคอนในยูทูปมาเป็นฟิค ชxช สายตัว Y นะคะ ถ้าหลงเข้ามาแล้วเนียะ ก็ลองอ่านและขอคอมเม้นให้กำลังใจกันสักนิดนึงน้า แลกเปลี่ยนกันนะคะ จะเป็นอะไรที่น่ารักมากเลย ^^

ถ้าพูดถึงราชินีเคะของอนิเมะครูพิเศษจอมป่วน รีบอร์น ก็ขอให้นึกถึง บอสมาเฟียที่โด่งดังวองโกเล่ ‘ซาวาดะ สึนะโยชิ’

แต่…

วันนี้สายโมเอ้ของเรา จะมาเป็นเมะ(ห๊ะ) และก็จะเมะกับคนที่ชื่อว่า โคซาโตะ เอ็นมะคุง อร๊าย > < อันนี้ไรท์เตอร์ก็จะลองแต่งดูค่ะ(ความชอบส่วนตัว) คือเห็นสึนะเคะมาเยอะแล้วอ่ะ อยากลองให้เมะบ้างไรเงี๊ยะ แล้วเอ็นมะก็หน้าสวยนะ ตัวก็เล็ก ถ้าลองให้สึนะสูงกว่าเอ็นมะ ตาคมเหมือนในไฮเปอร์โหมด ฮีจะดาร์คขึ้นมาทันที(หล่ะมั้ง) ได้ข่าวว่าสนิทกันด้วยสองคนนี้ ก็เลยลองแต่งฟิคนี้ มันเลยกลายเป็น 2700 ค่ะ

 

จะเป็นไงน้า ลองไปอ่านกันเล้ย

 

Fic Reborn 

 

Tsuna X Enma 2700

 

 

My Best(boy) Friend

 

 

 

 

 

 

เขาคือเพื่อนของผม เพื่อนสนิทของผม แต่กลับกลายเป็นผมที่คิดเกินคำว่าเพื่อนกับเขา เพราะว่า “ ผมรักเขา ”

 

ฮ้าวววว วันนี้ผมเดินมาโรงเรียนเช้ากว่าปกติ(มาก) เหตุเพราะผมดันตั้งนาฬิกาปลุกผิดเวลา(สมฉายาห่วยที่ยังหลงเหลืออยู่) ผมกะว่าจะนอนต่อสักหน่อย ไอ้เจ้ารีบอร์นก็ดันตื่นขึ้นมา และออกคำสั่งอย่างเด็ดขาดว่าห้ามนอนต่อ เดี๋ยวจะตื่นสาย ถ้าคำขู่นั่นเป็นแค่ปากป่าวผมคงต่อลองหล่ะนะ แต่เจ้านั่นดันเอาเจ้าเลออนที่เป็นกระบอกปืนเขียวปี๋มาจ่อขมับผมซะนี่

‘ถ้าแกนอนต่อ พ่อจะเป่าให้กระจุยเลย สึนะ’

และนั่นคือสาเหตุที่ผมรีบอาบน้ำ แต่งตัวมาโรงเรียนตั้งแต่ หกโมง! จริงๆมาเช้าก็ดีเหมือนกันนะอากาศสดชื่น แต่มันจะไปสู้ห้องรกๆกับที่นอนหนานุ่มในบ้านได้ไง แล้วอีกอย่าง มาเช้าๆก็ไม่รู้จะทำอะไรนี่สิ และผมก็จ้ำอ้าวเดินต่อไป เมื่อพ้นประตูโรงเรียนมาแล้วเป้าหมายคือห้องเรียน ผมรีบมุ่งหน้าตรงขึ้นบันได(อย่างรีบร้อน) จะได้มีเวลางีบสักชั่วโมง นี่ก็พึ่งจะหกโมงครึ่ง แต่อีกสักพักก็คงจะเริ่มมีคนทยอยมารบกวนเวลานอนผมแล้ว ผมเปิดประตูเข้ามาในห้อง และเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่ยังไม่มีใครมาเลยสักคน ผมจึงมุ่งหน้าไปที่โต๊ะเรียน ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแก้มปริ สักงีบเถอะ ตื่นตีห้ามันผิดปกติมากสำหรับผม แต่ยังไม่ทันได้ฟุบหน้าดี ก็มีคนเปิดประตูเข้ามาซะก่อน ไม่นะ ความสุขของผม ผมจึงหันไปทักทายคนที่เดินเข้ามาในห้อง แต่นั่นกลับทำให้ผมลืมความง่วงไปทันที รู้สึกดีซะอีกที่มาโรงเรียนเช้า กลับไปต้องขอบคุณรีบอร์นสักหน่อยแล้ว (เมื่อกี๊ยังบ่นง่วง:ไรท์โดนถีบ) คนที่เดินเข้าห้องมา คือคนที่ผมคิดถึงอยู่ตลอดเวลา และอยากเจอมากที่สุด

“เอ็นมะคุง อรุณสวัสดิ์”

ผมทักเอ็นมะยิ้มๆ

“อืม อรุณสวัสดิ์”

เอ็นมะตอบผมกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย และผมก็เริ่มมองการกระทำของเอ็นมะคุง ที่เริ่มเดินไปบริเวณมุมเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด

“วันนี้เวรนายหรอ”

“อื้ม”

เอ็นมะตอบผมทั้งๆที่ยังไม่เงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยซ้ำ ก็ดีแล้ว ผมจะได้แอบมองเอ็นมะอย่างงี้ไปนานๆ ใบหน้าที่เรียบเฉย แต่แฝงไปด้วยความไร้เดียงสา ภายนอกที่แสดงออกมาดูเย็นชาแต่กลับเป็นคนที่อบอุ่น ตัวเล็กบอบบางหน้าทะนุถนอม(ในฟิคนี้ สึนะตัวสูงและโตกว่าเอ็นมะนิดหน่อยนะ ให้มโนแบบนี้นะคะ จะได้ดูเหมือนเมะขึ้นมาหน่อย ทั้งๆที่มันยากหน่ะนะ) แววตาที่นิ่งเฉยฉายแววเหมือนคนอมทุกข์อยู่ตลอดเวลา ใบหน้าหวานคล้ายเด็กผู้หญิงที่เต็มไปด้วยพลาสเตอร์ แต่ดูมีเสน่ห์อย่างหน้าประหลาด ริมฝีปากอวบอิ่มหน้าสัมผัส และ....

“สึนะคุง มีอะไรรึป่าว?”

เสียงเอ่ยเรียกของเอ็นมะทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์ คนตัวเล็กนี่มองหน้าผมตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย

“เอ่อคือ ไม่มีอะไรหรอก อ้อ!ให้ฉันช่วยนะ งานจะได้เสร็จไวๆ มาเช้าๆก็ไม่มีอะไรทำด้วย”

“สึนะคุงไม่ง่วงแล้วหรอ ก็ตอนเดินเข้ามาเห็นสึนะคุงฟุบอยู่ที่โต๊ะ ”

“ใครง่วง แค่พักสายตาเฉยๆ”

ผมแกล้งแถ

“อ่อ อื้ม ขอบคุณนะ”

ตึกตัก ตึกตัก

เสียงหัวใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะ เอ็นมะกำลังยิ้มให้ผม ถึงจะเป็นยิ้มบางๆ แต่ถ้าออกมาจากคนที่ยิ้มยากแบบเอ็นมะแล้ว มันเลยดูมีเสน่ห์มาก ผมอยากให้เอ็นมะ ยิ้มให้ผมบ่อยๆจัง ผมแอบมองเอ็นมะ ตั้งแต่ที่เริ่มกวาดห้อง แล้วเดินชนตรงนู้นทีตรงนี้ทีไม่หยุด ผมก็แอบหลุดขำออกมานิดๆเหมือนกัน ผมมองเอ็นมะแล้วทำให้ผมนึกถึงตัวเองสมัยก่อน ทั้งห่วย ไม่ได้เรื่อง ไม่เอาไหน แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนไปแล้ว(อาจมีความห่วยหลงเหลืออยู่บ้างนิดหน่อย ดูได้จากการกระทำเมื่อเช้า) โดยเฉพาะความรู้สึกของผมตอนนี้ มันได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ตอนแรกๆก็สับสนอยู่เหมือนกันว่าผมชอบผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่ มีคนมาขอผมคบอยู่หลายคน ตั้งแต่ผมเปลี่ยนจากสึนะจอมห่วย กลายมาเป็นขวัญใจสาวๆโรงเรียนนามิโมริ เคียงคู่กับโกคุเดระและยามาโมโตะ ผมไม่ได้โม้นะ ก็คนโหวตให้ผมเอง แต่ผมก็ไม่คิดจะคบกับใครแล้วก็ไม่เคยสนใจใครด้วย ตั้งแต่เอ็นมะย้ายมาเรียนที่นี่ จากวันนั้น ผมก็เฝ้าจับตาดูคนๆนี้มาโดยตลอด มันเหมือนมีแรงดึงดูดให้ผมเข้าหาคนๆนี้ในฐานะ

“โอ้ย!”

“เอ็นมะคุง!”

ผมรีบวิ่งไปหาเอ็นมะทันที เมื่อเจ้าตัวเดินสะดุดขาตัวเองล้ม(ซุ่มซ่ามพอๆกับดีโน่ - -)

“เป็นอะไรรึป่าว”

ผมถามเอ็นมะด้วยความเป็นห่วง

“มะ ไม่เป็นอะไร”

เอ็นมะหน้าแดงแจ๋ อายหล่ะสิ เหมือนผมเมื่อก่อนจริงๆเลย คนๆนี้

“สะ สึนะคุง จะทำอะไร”

“เอ็มนะคุง นาย...”

ผมเว้นช่วง แล้วจ้องมองใบหน้าหวานที่อยู่ไม่ห่างจากผมเท่าไหร่ แล้วค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่าง ให้ผมจ้องมองริมฝีปากบางเฉียบสีแดงน่าลิ้มลองนั่น

“น่ากินจัง”

//////

ผมค่อยๆบรรจงจูบคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบา ผมรู้สึกได้ว่าคนตรงหน้าตกใจกับการกระทำของผม แววตาที่เคยฉายแววนิ่งเฉยเบิกกว้างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มือน้อยๆพยายามดันหน้าอกผม แต่การกระทำเหล่านั้น กลับเพิ่มอารมณ์บางอย่างในตัวผม ผมต้องการคนๆนี้ ต้องการมากกว่านี้

จากจูบที่อ่อนหวาน แผ่วเบา กลับกลายเป็นจูบที่ร้อนแรง ลิ้นร้อนเกี่ยวพันลิ้นเล็กที่พยายามหลบหนี แรงบดขยี้บริเวณริมฝีปากที่หนักหน่วงทำให้คนตัวเล็กสั่นน้อยๆ จูบที่รุนแรงไม่มีท่าทีว่าจะหยุดง่ายๆกลับทำให้คนตัวเล็กกว่าอ่อนระทวย เรี่ยวแรงที่พยายามดันคนตรงหน้าให้ออกห่างกลับหายไป สึนะมองคนตัวเล็กในอ้อมกอด ซึ่งเอ็นมะก็พยายามมองสึนะตอบด้วยสายตาที่ฉ่ำปรือ และ .... หวาดกลัว สึนะชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆถอนริมฝีปากออก ร่างสูงมองร่างบางตรงหน้าที่หอบหนักๆ พร้อมกับสูดอากาศหายใจเข้าเต็มปอดอย่างยั่วยวน คนตรงหน้าดูเซ็กซี่มากในสายตาเขา ตอนนี้ความรู้สึกเดียวที่มีอยู่ คือ ต้องการคนตรงหน้า เอ็มนะเมื่อรู้ว่าถูกสึนะมองตั้งแต่เมื่อกี๊ รีบถอยกรูจนติดกำแพงห้อง คนตัวสูงไม่รอช้า จับข้อเท้าของคนตัวเล็กกว่า และลากให้ลงมาอยู่ในระดับที่เขาขึ้นคร่อมได้พอดิบพอดี

“สะ สึนะคุง จะทำ อะ อะไร อ๊ะ!”

เอ็นมะเบิกตากว้าง เมื่อสึนะเริ่มซุกไซร้ซอกคอระหงส์ของตน ความรู้สึกของเอ็นมะตอนนี้คือกลัว ทำไมคนตรงหน้าถึงทำกับเขาแบบนี้ สึนะเป็นผู้ชาย เขาก็เป็นผู้ชาย เขาสองคนเป็นเพื่อนกัน แล้วที่ทำอยู่คืออะไร

“Make love ไงที่รัก”

เหมือนโดนอ่านใจ เอ็นมะสะดุ้งน้อยๆและดันคนข้างบนที่พยายามถอดเสื้อนักเรียนของเขาที่ตอนนี้ยับยู่ยี่จากการกระทำเมื่อครู่

“นายรู้มั้ยว่าทำไมฉันถึงทำแบบนี้เอ็นมะคุง”

“?”

“เพราะฉันชอบนาย คงกลายเป็นรักไปแล้ว และตอนนี้ฉันต้องการนาย ฉันคิดเกินเพื่อนกับนายตั้งแต่รู้จักกัน นายทำให้ฉันเลิกสนใจเคียวโกะจัง ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนเลยด้วยซ้ำ หลังจากที่ฉันแอบชอบเธอมานานกว่าสามปี นายนี่มันสุดยอดจริงๆ”

ผมเบิกตากว้าง นี้ใช่สึนะคุงที่ผมรู้จักรึป่าว แล้วเขาพูดจริงหรอ ความรู้สึกตอนนี้ของผมมันยากที่จะอธิบาย มันทั้งสับสน วุ่นวาย และ หวาดกลัว ผมกลัวคนตรงหน้านี่ ผมมองสึนะคุงที่กำลังจ้องมองผมเช่นกันด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกระหาย เฮือก! นี้มันอะไรกันเนี่ย!!!

 

ตอนนี้ผมกำลังจ้องหน้าเอ็นมะ อารมณ์บางอย่างในตัวผมที่มีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ผมจัดการปลดเนคไทของผมออกและผูกข้อมือที่ทั้งสองข้างของเอ็นมะอย่างรวดเร็ว

“หยุดนะ สึนะคุง!”

เอ็นมะตะคอกใส่ผม ทำให้ผมที่กำลังปลดกระดุมเสื้อของเอ็นมะชะงักไป

“หืม มีอะไรหรอ เอ็นมะคุง”

ผมแกล้งทำเสียงอ้อนๆส่งไปให้คนตัวเล็กอย่างยั่วยวนอีกครั้ง

“ผมเป็นเพื่อนกับสึนะคุงนะ เพื่อนกันเค้าทำไม่ทำกันแบบนี้หรอก!”

เอ็นมะยังคงขึ้นเสียงกับผม ดื้อจริงๆ

“ก็จริงอยู่ที่เพื่อนกันเค้าไม่ทำกันแบบนี้ แต่ฉันบอกนายไปแล้วไม่ใช่หรอ ว่าฉันคิดเกินเพื่อนกับนายไปแล้ว”

“เพราะงั้น เรามาเปลี่ยนสถานะกันมั้ยหล่ะ”

“ไม่!”

เอ็นมะพยายามผลักผมออกและดิ้นอย่างสุดแรง ดิ้นอีกสิ ดิ้นเข้าไปอย่าหยุดนะ เอ็นมะ ผมแสยะยิ้มที่มุมปากและมองเอ็นมะด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ผมตรึงข้อมือเอ็นมะที่มีเนคไทของผมผูกอยู่ไว้เหนือหัว ด้วยมือของผมเพียงข้างเดียว และจัดการปลดกระดุมของเอ็นมะออกทีละเม็ดอย่างไม่รีบร้อน

“สึนะคุง อย่า”

ผมหยุดชะงัก น้ำเสียงของเอ็นมะสั่งเครือ ผมจึงเงยหน้าขึ้นไปสบตากับคนตรงหน้า ทำให้ผมรู้ว่า เอ็นมะกำลัง... ร้องให้

ร่างบางเมื่อเห็นว่าร่างสูงหยุดการกระทำเมื่อครู่ จึงรีบขยับหนีคนด้านบนอย่างรวดเร็ว ร่างบางจ้องมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่โกรธ เสียใจ และ กลัว เขากำลังหวาดกลัวคนตรงหน้า คนที่เป็นเพื่อนสนิทเขา คนที่เขาไว้ใจมากที่สุด แต่กำลังจะทำเรื่องอย่างว่ากับเขา

“ฮึก สึนะคุงเป็นผู้ชายนะ แถมยังเป็นเพื่อนสนิทของผม ฮึก สึนะคุงคิดอะไรอยู่ผมไม่รู้ แต่อย่าทำแบบนี้เลย”

สึนะค่อยๆขยับเข้าใกล้เอ็นมะเรื่อยๆ แขนแกร่งทั้งสองข้างดันกำแพงไว้ เพื่อไม่ให้คนตรงกลางหนีไปไหน ก่อนที่จะก้มลงจูบซับน้ำตาคนตัวเล็กกว่าอย่างแผ่วเบา

“ขอโทษนะเอ็นมะคุง”

สึนะมองเอ็นมะด้วยสายตาที่รู้สึกผิดก่อนที่จะค่อยๆติดกระดุมเสื้อให้คนตรงหน้าช้าๆพร้อมปลดเนคไทที่ข้อมือให้เอ็นมะเป็นอิสระ แล้วจึง ลุกเดินออกจากห้องไป โดยไม่หันกลับมามองคนข้างหลังอีกเลย

“ขอบคุณนะ สึนะคุง”

เอ็นมะยิ้มบางๆด้วยความดีใจที่คนตรงหน้ายังเห็นความเป็นเพื่อนระหว่างพวกเขาทั้งคู่อยู่



"ขอบคุณนะ สึนะคุง"

ผมได้ยินเสียงของเอ็นมะพูดขึ้น ขณะที่ผมกำลังเดินออกมานอกห้อง เมื่อกี๊ผมทำอะไรลงไป เอ็นมะพูดถูก เพื่อนกันเขาไม่มีทางทำกันแบบนี้หรอก

“ผมขอโทษนะเอ็นมะคุง”

ผมยืนพิงระเบียงหน้าห้องพร้อมกับถอนหายใจแรงๆ ผมรู้สึกผิดจริงๆที่ทำแบบนั้นกับเอ็นมะ

“ผมขอโทษที่เราจะไม่ได้เป็นเพื่อนกันอีกต่อไป”

ผมพูดพลางมองคนในห้องที่กำลังทำความสะอาดห้องเรียนต่อ เหมือนเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

“เพราะว่าผม จะทำให้เอ็นมะคุง เป็นคนรักของผมแทน รอก่อนนะที่รัก”

ผมแสยะยิ้มที่มุมปาก ก่อนที่จะเดินลงไปชั้นล่าง หึ คงคิดว่าผมจะเลิกง่ายๆสินะ ถ้าเป็นอย่างงั้น ผมคงต้องกลับไปใช้ฉายา ‘ห่วย’ ตามเดิม ไม่มีทางหรอก ครั้งนี้นายรอดไปได้ แต่ครั้งหน้านายอย่างหวังเลย เอ็นมะ

 

ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ ผมกับสึนะคุง เรายังคงเป็นเพื่อนสนิทกันเหมือนเดิม พูดคุยกันปกติ  ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผมกันสึนะคุง และเราก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้น และวันนี้ก็เป็นอย่างเช่นทุกวัน เราเดินกลับบ้านด้วยกันตามปกติ

“รุ่นที่สิบ ผมไปก่อนนะครับ แกห้ามทำอะไรรุ่นที่สิบนะเฟ้ย โคซาโตะ”

“ไปก่อนนะ สึนะ โคซาโตะ”

“เจอกันพรุ่งนี้”

“อื้ม”

ผมและสึนะคุงบอกลาคุณโกคุเดระและคุณยามาโมโตะ ก่อนที่ทั้งสองคนนั้นจะเดินกลับบ้านพร้อมกัน(แอบส่อ 8059 อร๊างงง > <) จึงเหลือแค่ผมกับสึนะคุง 2 คนที่กลับบ้านทางเดียวกัน

“เอ็นมะคุง”

“มีอะไรหรอ สึนะคุง”

“อาทิตย์หน้ามีสอบคณิต ฉันยังไม่ค่อยคล่องวิชานี้เลย นายช่วยติวให้ฉันหน่อยได้มั้ย”

“อะ อื้ม ได้สิ”

ผมตอบสึนะคุงกลับด้วยความเต็มใจ และไม่ติดใจอะไร ก็สึนะคุงเป็นเพื่อนสนิทผม เพื่อนกันมีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว ผมกับสึนะคุงเดินคุยกันจนมาถึงบ้าน และตรงขึ้นห้องทันที

“นั่งก่อนสิ โอ๊ย!”

ร่างสูงผลักคนตรงหน้าลงบนเตียงและตามขึ้นคร่อมทันที(แกไปเนียนได้ยามะมาใช่มั้ย สึนะ?)

“สึ สึนะคุง อื้อ”

คำพูดถูกกลืนลงคอเมื่อร่างสูงจัดการประกบจูบคนตรงหน้าก่อนจะขบเบาๆที่ริมฝีปาก ทำให้เอ็นมะสะดุ้งและเผยอปากออกน้อยๆ ลิ้นร้อนแทรกเข้าไปในโพรงปากขอร่างบางอย่างง่ายดายพร้อมกับถ่ายเทบางอย่าง และบังคับให้ร่างบางกลืนลงคอด้วยจูบที่ร้อนแรง

“แคกๆ สึนะคุง นั่นอะไร แฮกๆ”

“หึ เดี๋ยวนายก็รู้เอง”

“ทำไมถึง อึก ทำแบบนี้”

สึนะยิ้มบางๆ ก่อนที่จะเขี่ยปอยผมของร่างบาง พร้อมกับก้มลงไปกระซิบข้างหูคนตรงหน้า

“นายรู้มั้ย ว่าชั้นอดทนมานานแค่ไหน เอ็นมะคุง”

เอ็นมะเริ่มมีอาการร้อนรุม เม็ดเหงื่อเริ่มผุดขึ้นบริเวณใบหน้า ทั้งๆที่เครื่องปรับอากาศยังคงทำงานตามปกติ

“ทำคนอื่นอารมณ์ค้างคามาเป็นอาทิตย์ นิสัยไม่ดีเลยน้า นายเนี่ย”

“พะ พูด อึก อะ ไร แฮกๆ”

“แต่ไม่เป็นไร เพราะวันนี้ฉันจะได้ปลดปล่อยแบบเต็มที่ งั้นคืนนี้ ขอคิดทบต้นทบดอกเลยนะคับ ที่รัก”

“ยะ อย่า อะ อือออ”

เอ็นมะพยายามกัดริมฝีปากจนห้อเลือดเพื่อสกัดกั้นเสียงน่าอายที่เล็ดลอดออกมา อาการร้อนรุมในร่างกายเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวพร้อมๆกับความต้องการบางอย่างในตัวเขา สึนะมองการกระทำของคนตรงหน้าอย่างพอใจ พร้อมกับค่อยๆปลดอาภรณ์ของคนตัวเล็กออก เผยให้เห็นผิวขาวเนียนไร้ร่อยรอยไดๆ ‘สวย’ ในความคิดของสึนะ

“ถ้ามันอึดอัดก็ไม่ต้องกั้นไว้ก็ได้ เพราะยังไงนายก็ต้อง ‘คราง’ ให้ฉันฟังอยู่ดี”

“มะ หมาย อึก ความ วะ ว่าไง อา”

“ก็หมายความว่า ยาที่ฉันให้นายกิน เป็นยาปลุกอารมณ์อย่าง ‘รุนแรง’ ยังไงหล่ะ”

“!”

“ก็อย่างที่บอก ว่าจะคิดทบต้นทบดอกเลย แต่ฉันสัญญานะ ว่าจะไม่ทำให้นายเจ็บ ครั้งแรกฉันจะทำให้ดีที่สุด เรามาสนุกกันเถอะ”

“อะ อย่า สึนะคุง อ๊ะ”

ร่างสูงพรมจูบไปทั่วเรือนร่างของคนตรงหน้าซ้ำไปซ้ำมาทำให้เกิดรอยแดงจนทั่ว สึนะมองผลงานของตนเองอย่างพอใจ ก่อนที่จะควานหาเนคไทที่ตกอยู่บริเวณนั้น เพื่อนำมาผูกที่ข้อมือของร่างบางที่พยายามดันเขา ไว้กับหัวเตียง

“มาต่อกันเลย”

 

NC Scene

 

“อึก อ่าา”

เสียงครางกระเส่าของร่างบางปลุกอารมณ์ของร่างสูงได้เป็นอย่างดี สึนะเริ่มซุกไซร้ซอกคอขาว ของคนตรงหน้าอย่างกระหาย และค่อยๆลากลิ้นร้อนลงมาเรื่อยๆอย่างเชื่องช้า จนร่างบางตัวสั่นคลอ พยายามบิดตัวหนีสัมผัสที่คนตรงหน้ามอบให้ แต่ความต้องการมีมากกว่า ทำให้เอ็นมะได้แต่เปล่งเสียงครางหวานออกมา ร่างสูงลากลิ้นลงมาจนถึงแผ่นอกสวย ก่อนจะขบเม้มและใช้มืออีกข้างที่ว่างสะกิดเบาๆ และบีบเค้นแรงๆ เรียกเสียงครางจากคนตรงหน้าได้เป็นอย่างดี(พอดีไรท์เตอร์ไม่รู้จะเรียกมันว่าอะไรอะคะ เรียกไม่ค่อยถูก)

“อืมมม”

สึนะครางเบาๆในลำคอ ก่อนที่จะลากลิ้นลงมาจนถึงหน้าท้องและโลมเลียอย่างชำนาญ สึนะคอยสังเกตอาการของเอ็นมะ เป็นระยะๆ เมื่อรู้สึกว่า คนตรงหน้าเริ่มจะทนไม่ไหว คงถึงเวลาที่เขาจะจัดการกับสิ่งนั้น เมื่อคิดได้ดังนั้น จึงค่อยๆ พรมจูบร่างบางลงมา จนถึงแก่นกายกลางลำตัวที่ดันกางเกงบ็อกเซอร์ของร่างบางขึ้นเรื่อยๆ อย่างเห็นได้ชัด

“อะ ยะ อย่านะ สึนะคุง”

“ห้ามทำไมหล่ะ ฉันกำลังจะช่วยปลดปล่อยนายนะ เอ็นมะคุง”

“ผม จัดการ อะ เองได้”

“หึ ไม่มีทางหรอก โคซาโตะ เอ็นมะ”

ร่างสูงจัดการรูดกางเกงบ็อกเซอร์ของคนตรงหน้าออก เผยให้เห็นแก่นกายที่ตั้งชันขึ้นเพราะความต้องการ เอ็นมะรีบหุบขาทั้งสองข้างของตนทันที แต่สึนะไวกว่า จับขาทั้งสองข้างของคนตรงหน้าให้อ้าออกพร้อมกับค่อยๆพรมจูบขาอ่อนด้านใน โดยที่ยังไม่แตะต้องส่วนกลางลำตัวของร่างบาง เพื่อนต้องการจะกลั่นแกล้งคนตัวเล็กนี่

“อะ อื้อออ”

เอ็นมะพยายามกัดริมฝีปากอีกครั้ง เพราะคนตรงหน้ากำลังอมสิ่งที่ติดอยู่กับตัวตนของเขาไว้ในปาก และดูดเม้มหนักเบาสลับกัน จนร่างบางตัวกระตุกเกร็ง พร้อมกับปล่อยของเหลวสีขุ่นใส่หน้าคนขี้แกล้งเต็มๆ เอ็นมะหน้าขึ้นสีเรื่อเพราะความอาย

“ผะ ผม ขอโทษ”

“รีบไปไหนหล่ะ โคซาโตะ เอ็นมะ ฉันยังไม่ได้ ‘อม’ ของนายเลย”

“อึก มะ ไม่ต้อง อะ อ๊าาา”

เอ็นมะเบิกตาโพรงเมื่อสึนะจัดการอมตัวตนของเขาไว้ในปาก พลางดูดเม้นส่วนปลาย จนทำให้เขามีอารมณ์ขึ้นมาอีกครั้ง ภายในเวลาเพียงไม่ถึง 1 นาทีด้วยซ้ำส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะฤทธิ์ยา ก่อนที่จะปลดปล่อยเข้าไปในโพรงปากของคนตรงหน้า ร่างสูงก็ไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจ แต่กับกลืนกินมันเข้าไปจนหมด  และจูบเบาๆ ก่อนที่จะถอนริมฝีปากออก

“พอเถอะ สึนะ คุง ไม่ต้องแล้ว”

“ได้ไงหล่ะครับ ฉันเป็นคนทำให้นายทรมาน ฉันก็ต้องเป็นคนทำให้นายหายทรมานสิ”

สึนะแสยะยิ้มร้ายให้เอ็นมะ ก่อนที่จะ พรมจูบร่างบางอีกครั้งทั่วร่างกาย  และจึงพลิกตัวของร่างบาง เอ็นมะได้แต่กัดฟันกรอด สกัดกั้นอารมณ์ในตัวเขาที่มีเพิ่มขึ้นมาอีก เป็นครั้งที่สาม ร่างสูงจัดการพรมจูบแผ่นหลังขาวเนียนของคนตรงหน้า จนเกิดรอยแดงทั่ว

“พร้อมรึยัง ที่รัก”

“อะ อย่า อึก”

“ปากตอบปฏิเสธแต่ร่างกายตอบสนองแบบนี้ คืออะไรครับ โกหกหรอ หืม”

“พะ พูดบ้าอะ ไร”

“โกหกก็ต้องถูกทำโทษ ตอนนี้ฉันก็จะทนไม่ไหว ขอเลยก็แล้วกันนะ”

“อะ อ๊าาาา”

เอ็นมะเบิกตาโพลง เมื่อรู้สึกถึงสิ่งแปลกปลอมที่ค่อยๆดันช่องทางด้านหลังของเขาเข้ามาเรื่อยๆ

“ผ่อนคลายหน่อยสิ ซีดด เอ็นมะคุง”

“อื้อ เอาออกไปนะ!”

เอ็นมะน้ำตาคลอเบ้า ความรู้สึกเจ็บมีมากขึ้นเมื่อร่างสูงพยายามดันตัวตนของเขาเข้ามาเรื่อยๆ ถึงจะไม่เห็น แต่เอ็นมะก็เดาได้ไม่ยากว่ามันคงจะขนาดใหญ่มาก

“อ๊ะ!”

เอ็นมะหน้าหงายเริดขึ้น เมื่อสึนะจัดการดันทีเดียวจนสุด ของเหลวสีแดงสดไหลย้อนออกมาตามง่ามขาของร่างบาง ซึมลงผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาด ร่างสูงค้างคาไว้อย่างนั้นก่อนเพื่อให้ร่างบางปรับตัว แต่ตรงกันข้าง ร่างบางตอดรัดไม่หยุด จนร่างสูงที่มีอารมณ์มากขึ้นตั้งแต่เริ่มทำทุกอย่างให้ร่างบางใกล้ปลดปล่อยและจึงเริ่มขยับเข้าออกช้าๆ ปรับจังหวะให้เร็วขึ้น พลางช่วยขยับมือรูดขึ้นลงที่แก่นกายของคนตัวเล็กไปด้วย

“อา อืม”

“อ๊าาา”

เสียงครางของทั้งสองดังสลับกับเสียงเนื้อกระทบกันไม่หยุด จังหวะที่เพิ่มเร็วขึ้น ทำให้ร่างสูงตัวกระตุกเกร็ง ร่างสูงปลดปล่อยเข้าไปในตัวร่างบางจำนวนมากตามอารมณ์ ร่างบางที่ทนไม่ไหวก็ปลดปล่อยออกมาเช่นกัน

“แฮกๆ”

เสียงหอบของทั้งสองดังสลับกัน ร่างบางทรุดลงกับเตียงแต่ร่างสูงไวกว่า ใช้แขนแกร่งรวบตัวร่างบางไว้และพลิกตัวร่างบางให้นอนหงาย ช่วงล่างที่ยังเชื่อมติดกันเกิดเสียดสีอีกครั้ง ทำให้ร่างบางเริ่มมีอารมณ์เป็นครั้งที่สาม

“อึก ทำไมถึงไม่ แฮกๆ ทำให้ตัวเอง สร็จก่อน ละ แล้วค่อยมาช่วย อ่า ผม อ๊ะ”

ร่างสูงยิ้มบางๆให้คนตรงหน้า พร้อมกับเริ่มขยับอีกครั้ง

“เพราะว่าฉันรักนายไง อืม เอ็มมะคุง ใครจะไปทนเห็นคนที่ตัวเองรัก ทรมานได้หล่ะ อ่าา”

เอ็นมะพยายามมองหน้าสึนะ ทำไมกันนะ ทำไมครั้งนี้เขาถึงไม่รู้สึกอยากจะปฏิเสธคนตรงหน้าเหมือนเมื่อครั้งที่พวกเขาอยู่ที่โรงเรียน จะว่าเพราะฤทธิ์ยาคงไม่ใช่แน่นอน เพราะยาปลุกอารมณ์ไม่มีส่วนช่วยในเรื่องของความรู้สึก รัก ชอบ ช่วยได้แต่เรื่องของ ความต้องการ เท่านั้น แต่ความรู้สึกของเขาตอนนี้เหมือนจะเริ่มหวั่นไหวกับคนตรงหน้าขึ้นมาทีละนิด มันไม่ได้เกินขึ้นแค่ในช่วงเวลานี้ แต่มันเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น เอ็นมะยังคงนึกถึงสิ่งที่เพื่อนสนิทของเขาทำกับเขาอยู่ตลอดเวลา ความรู้สึกที่ควรจะเป็นโกรธ กลับกลายเป็นความรู้สึกหวั่นไหวเพราะความใกล้ชิด ‘หรือว่าเราจะชอบสึนะคุงขึ้นมาจริงๆ’ เอ็นมะได้แต่คิดในใจ แต่ความคิดเหล่านั้นก็ต้องจางหายไป เมื่อร่างสูงเร่งความเร็วขึ้นจนถี่ยิบ แขนแกร่งดันหัวเตียงไว้ และเร่งความเร็วขึ้นอีก จนเตียงไหวโยกไม่หยุด

“อ๊าาาาา”

“อาาาา”

ร่างสองร่างครางกระเส่าและปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน สึนะก้มลงจูบร่างบางอย่างอ่อนโยน และกระซิบที่ข้างหูร่างบางอย่าแผ่วเบา

“ฉันรักนาย โคซาโตะ เอ็นมะ ฉันรู้ว่านายก็มีความรู้สึกนี้ แต่แค่นายไม่ยอมรับก็เท่านั้น”

“พะ พูดอะไร คุณหน่ะคิดไปเอง”

“หึ ฉันว่าฉันไม่ได้คิดไปเองนะเอ็นมะคุง ดูจากการกระทำของนายช่วงหลังๆนี้มันแปลกๆ เหมือนเขิลอายอะไรฉันอยู่ และวันนี้ก็ได้ข้อพิสูจน์”

“นายมันบ้า สึนะคุง”

เอ็นมะเบือนหน้าหนีสึนะทันทีเพราะจู่ๆก็รู้สึกร้อนบริเวณใบหน้า สึนะเห็นดังนั้นจึงแกล้งขบที่ใบหูร่างบางเบาๆทำให้เอ็นมะสะดุ้ง

“ดื้อนักนะเอ็นมะคุง ไว้นายพร้อมเมื่อไหร่ค่อยพูดคำนั้นกับฉันก็ได้  ไปอาบน้ำกันเถอะ”

“ไม่หล่ะ ผมลุกไม่ไหว เพราะสึนะคุงนั้นแหละ”

เอ็นมะตอบปฏิเสธด้วยใบหน้าที่แดงฉาน ‘ให้ตายเหอะ แค่นี้ก็อายจะแย่อยู่แล้ว ยังจะให้ไปอาบน้ำด้วยกันอีก นายมันบ้าที่สุด’

“อ๊ะ จะทำอะไร ปล่อยผมลงนะสึนะคุง”

เอ็นมะพยายามดิ้นเล้าๆในอ้อมกอดของคนขี้แกล้ง แต่ความรู้สึกเจ็บจากทางด้านหลังทำให้เขาต้องอยู่นิ่งๆ จนสึนะแอบหัวเราะให้กับความดื้อของคนตัวเล็กนี่

“น่าเสียดายนะ ที่ยามันออกฤทธิ์แค่หนึ่งชั่วโมง ไม่งั้นนายกับฉันคงไม่ได้นอนไปยันเช้าแน่ๆ”

“สึนะคุง!”

เอ็นมะทุบอกแกร่งแรงๆหนึ่งที สึนะหัวเราะร่าก่อนที่ทั้งคู่จะเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ แต่ก็ไม่วายที่สึนะจะแอ้มคนที่เขาพามาด้วยจนเสร็จไปอีกสามเซต

“ก็บอกแล้ว ผมคิดทบต้นทบดอกนะครับ เอ็นมะคุง อาาา”

“สึ สึนะคุง นายมัน จะ เจ้าเล่ห์ อ๊าาาา”

และนั่นคือเสียงที่ดังทะลุห้องน้ำออกมา

 

End Nc Scene

 

ผมลืมตาตื่นขึ้นมา เพราะรู้สึกถึงแรงสั่นน้อยๆของคนตรงหน้าคงเพราะอากาศค่อนข้างหนาว ผมจึงดึงเอ็นมะคุงเข้ามากอดแน่นขึ้นไปอีก

“ตอนนี้นายเป็นของฉันแล้วนะเอ็นมะคุง”

และผมก็เข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง เพราะความเมื่อยล้าจากกิจกรรมเมื่อไม่นานมานี้

 

รุ่งเช้า

ผมถูกปลุกให้ตื่นจากเสียงนาฬิกาปลุกของเอ็นมะ ก่อนที่จะกดปิดมันและหันไปมองคนในอ้อมกอด ลมหายใจที่สม่ำเสมอบ่งบอกว่าคนตรงหน้ายังคงหลับอยู่ ใบหน้ายามหลับของเอ็นมะดูไร้เดียงสา ต่างจากเวลาตื่นขึ้นมาที่ชอบทำหน้าเฉยชาลิบลับ ผมก้มลงไปจูบหน้าผากคนตัวเล็กอย่างแผ่วเบา พร้อมกับลุกไปอาบน้ำ

“เอ็นมะคุง ลุกไหวไหม”

เมื่อผมทำธุระส่วนตัวเสร็จ ผมจึงเดินไปปลุกเอ็นมะที่ยังคงนอนขลุกอยู่ใต้ผ้าห่ม

“อื้อ”

เอ็นมะค่อยๆลืมตาขึ้น พร้อมกับหันมามองผม พรางหน้าแดงแจ๋ ก่อนที่จะรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าทันที น่ารัก

“นายอายอะไร เมื่อคืนก็เห็นกันมาหมดแล้ว”

“สึนะคุง! หยุดพูดนะ”

เสียงที่แสดงถึงความไม่พอใจของคนตัวเล็กนี่ดังทะลุผ้าห่มออกมา ทำให้ผมยิ้มขำ

“ฮ่ะๆๆ ครับๆ รีบไปอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน เดี๋ยวฉันไปทำอาหารเช้ารอก็แล้วกัน”

ผมแกล้งเดินไปกระซิบข้างหูคนตัวเล็กที่ได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก

“อย่าให้รอนานหล่ะ เพราะไม่งั้น นายกับฉันคงไม่ได้ไปโรงเรียนแน่ๆ”

และชิงหอมแก้มเอ็นมะไปหนึ่งที พร้อมกับเดินออกจากห้องไป

ผมรีบอาบน้ำ แต่งตังทันที ความเจ็บปวดบริเวณด้านหลัง ทำให้ผมเดินไม่ค่อยสะดวก ภาพความทรงจำต่างๆไหลย้อนเข้ามาในหัว ทำให้ใบหน้าของผมแดงขึ้น ความรู้สึกของผมตอนนี้คือความสับสน ตอนที่ผมมองหน้าสึนะคุง ผมไม่ได้รู้สึกรังเกียจหรือโกรธสึนะคุงเลย แต่ผมรู้สึกเขิลและใจเต้นแรง ความรู้สึกของผมมันอาจจะยังไม่ชัดเจน แต่ที่แน่ๆคือมันไม่เหมือนเดิม ความรู้สึก ที่เหมือนจะล้ำเส้นคำว่า ‘เพื่อนสนิท’ ไปแล้ว

“ลงมาช้าจัง ไม่อยากไปโรงเรียนแล้วหรอ”

ผมแทบอยากจะเอากระเป๋าฟาดหน้าสึนะคุงให้หายแค้น สัญญาไม่เป็นสัญญา บอกว่าจะเบาๆแต่เล่นซะผมระบมไปหมด แถมยังมาแซวให้ผมเขิลแต่เช้าอีกต่างหาก สนุกมากนักรึไง

“ป่าว อะ อื้อออ”

สึนะเดินเข้ามาหาผมพลางดึงผมเข้าไปประกบจูบ ทำให้ผมขาอ่อนทันทีแต่ก็ได้แขนแกร่งของคนตรงหน้ามาประคองเอาไว้

“กินข้าวแล้วไปโรงเรียนกันครับ ที่รัก”

สึนะส่งยิ้มให้ผม เป็นยิ้มที่เจ้าเล่ห์มาก ทำนองว่า ‘ถ้าดื้อ เดี๋ยวโดนอีก’ อะไรประมาณนั้น

ระหว่างที่เราสองคนเดินมาโรงเรียน ผมรู้สึกมีความสุขที่มีคนๆนี้อยู่เคียงข้างผม ตอนนี้ถ้าจะถามความรู้สึกผม ก็คงบอกได้ว่า เริ่มเปิดใจรับคนๆนี้เข้ามาทีละนิด ผมอาจจะชอบสึนะคุงเข้าซะแล้ว แต่ว่าผม คงคิดแบบนั้นไม่ได้ เพราะว่าผมต้องไปเรียนต่อที่อิตาลี่ อาทิตย์หน้า เราอาจจะไม่ได้เจอกันอีก

“เอ็มนะคุง เฮ้อ เหม่ออะไร ถึงโรงเรียนแล้ว”

ผมก็ขอใช้เวลาเพียงไม่กี่วันที่เหลืออยู่ มีความสุขกับเพื่อนสนิทของผมคนนี้

“อื้ม”

ผมขอเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับก็แล้วกัน เพราะในเมื่อผมไป ผมจะไม่กลับมาที่ญี่ปุ่นอีกแล้ว

‘ลาก่อนนะ สึนะคุง ถ้าคุณเชื่อเรื่องพรมลิขิต ผมหวังว่าสักวันเราจะได้พบกันใหม่’

ผมส่งยิ้มบางๆไปให้คนตรงหน้า ก่อนที่จะเดินจับมือของสึนะคุงเข้าโรงเรียนไป

 

ผ่านมาสามวันแล้ว ผมยังไม่เห็นเอ็นมะคุงมาโรงเรียนเลย ไปหาที่บ้านก็ไม่อยู่ ติดต่อก็ไม่ได้ เป็นอะไรรึป่าวนะเอ็นมะคุง

“รุ่นที่สิบคร้าบ เป็นอะไรรึป่าวครับ”

“ช่วงนี้ฉันไม่เห็นเอ็นมะคุงเลย ไปไหนของเค้าหน่ะ”

ผมตอบโกคุเดระกลับไป พลางถอนหายใจอย่างหน่ายๆโกคุเดระกับยามาโมโตะทำหน้าเหมือนงงอะไรสักอย่าง

“อ่าว สึนะ เอ็นมะไม่ได้บอกนายหรอ ว่าเค้าจะไปเรียนต่อที่อิตาลี่หน่ะ”

“ห๊ะ!”

ผมช็อคมากเมื่อยามาโมโตะพูดออกมาแบบนั้น

“แล้วนายรู้มั้ยว่าเอ็นมะคุงพักอยู่ที่ไหน”

“ก็.....”

 

ผมยืนอยู่ที่ระเบียงห้อง ลมเย็นๆพัดมาอย่างแผ่วเบาช่วยให้ผ่อนคลาย ตอนนี้ผมกำลังคิดถึงใครบางคน ที่ผมจากมาโดยที่ไม่ได้บอกลาเขาสักคำ ถ้าถามว่าผมรู้สึกผิดไหม แน่นอนว่ารู้สึกผิดเต็มๆ

ติ๊งต่อง

เสียงกดกริ่งหน้าห้องทำให้ผมเดินไปดูว่าใครมา สงสัยจะเป็นแม่บ้านผมจึงเดินไปเปิดประตูให้โดยไม่ส่องที่ช่องประตูก่อน

“Ciao Kozato Enma”

ผมเบิกตากว้าง เมื่อคนที่อยู่ตรงหน้าผมคือ

“สะ สึนะคุง”

สึนะดันผมให้เข้ามาในห้องพลางล็อกประตูทันที คนตรงหน้ามองผมด้วยสายตาที่เย็นชาและน่ากลัว

“ผม ผมคิดว่า ถ้าไม่บอกมันจะดี กะ กว่า”

สึนะเดินเข้ามากอดผม ทันที ผมทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ยืนนิ่งอยู่อย่างงั้น

“ทำไมนายไม่บอกฉัน นายรู้มั้ย ว่าตลอดเวลาฉันพยายามติดต่อนายตลอด ไปหาที่บ้าน กลัวว่านายจะเป็นอะไรไป ฉันเป็นห่วงนายมากรู้มั้ย”

“คือว่าผม ผมขอโทษนะ สึนะคุง”

ผมกอดสึนะคุงตอบ ผมคิดผิดจริงๆที่ทำแบบนั้น

“นายสำนึกผิดแล้วใช่มั้ย เอ็นมะคุง”

ผมได้แต่พยักหน้าตอบกลับไป ตอนนี้ผมมั่นใจแล้ว ความรู้สึกของผมมันชัดเจนแล้ว เวลาเพียงไม่กี่วันที่ผมไม่ได้เจอสึนะคุง ทำให้ผมคิดถึงเขาไม่ว่าจะทำอะไร ใบหน้าของคนๆนี้มักจะหวนกลับเข้ามาในความทรงจำผมเสมอ ผมควรจะบอกเขา

“ผมรักสึนะคุง”

คำพูดของผมทำให้สึนะคุงชะงัก ผมจึงเงยหน้าไปสบตากับเขาตรงๆ สึนะยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน และ เปลี่ยนมาเป็นยิ้มเจ้าเล่ห์แทน จนผมต้องรีบผละออกจากเขาทันที เมื่อประโยคต่อมาที่ผมได้ยิน ทำให้ผมพอจะรู้ชะตากรรมตัวเอง

“ไม่พอหรอกนะ เอ็นมะคุง”

เฮือก!!

“คนทำความผิด รู้มั้ยว่าจะโดนอะไร”

“มะ ไม่รู้ สึนะคุง จะทำอะไร”

“ซื่อจริงๆ หนีฉันมาแบบนี้แล้วก็ต้องโดนทำโทษสิ”

ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าผมจะโดนทำโทษแบบไหน ผมรีบวิ่งหนีสึนะคุงออกนอกห้องทันที ไม่นะ ตอนนี้ผมยังไม่พร้อม แต่คนห่วยๆอย่างผมหรือจะไปหนีรอดคนอย่างสึนะคุงได้ ผมโดนหิ้วปีกกลับมาและโดนโยนไว้ที่เตียง สึนะตามขึ้นคร่อมผมทันทีตามสเต็ป อึก

“ความผิดของนาย มันหลายเรื่องเลยนะเอ็นมะคุง”

สึนะก้มลงมากระซิบที่ข้างหูผม(อีกแล้ว) และขบเบาๆ

“งั้นคืนนี้ ก็อย่าหวังว่าจะได้นอนเลยนะครับเอ็นมะ ที่รักของผม”

ไม่นะ!

 

The End

100%

 

สวัสดีค่ะ นี่เป็นการอัพและรีไรท์ครั้งสุดท้ายของไรท์เตอร์ฝึกหัดคนนี้แล้วนะค่ะ เอา NC มาลงให้แล้วนะคะ มันอาจจะไม่ได้สนุกหรือฟิล มากมาย(เพราะไรท์เตอร์มันแต่ง NC ไม่ค่อยได้เรื่อง) ยังไงก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้ด้วยนะคะ ถ้าใครอยากให้ไรท์เตอร์แต่งเป็นฟิคยาวก็บอกได้นะ ใครอยากเม้นอะไรเม้นเลยค่ะ ไรท์เตอร์รับได้ ขอบคุณทุกคนที่คอยอ่านเรื่องสั้น(ที่โคตรยืดเยื้อ)เรื่องนี้นะคะ ถ้ามีคำผิดตรงไหนหลงอยู่บ้างก็ขออภัยค่ะ เพราะไรท์เตอร์มันเป็นประเภทที่ว่า พิมพ์ผิดเยอะ พิมพ์ซ้ำบ่อยมาก แย่ค่ะ ยอมรับเลย(ตอนอยู่ที่โรงเรียนมันก็เป็นค่ะ โดนคัดไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ ห่วย กว่าไอ้พวกนี้อีก - -) ส่วนเรื่องภาษาอังกฤษ ถ้าไรท์เตอร์ผิดตรงไหนก็ของอภัยด้วยนะคะ ยังไงก็ต้องขอบคุณนักอ่าน คนเม้น คนกดไลค์ ขอบคุณจริงๆค่ะ บ๊ายบายย

 

 

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว