วารันนคราดำรงอยู่ได้เพราะเทพไม่เคยถูกมองว่าเป็นคนจนสายตาของหญิงแปลกหน้าทำให้ศรัทธาทั้งเมืองเริ่มคลาดจังหวะ

โลกใบนี้โหดร้ายเกินกว่าจะปล่อยให้ฤดูกาลดำเนินไปตามยถากรรม นั่นคือสิ่งที่บรรพบุรุษจารึกไว้ในก้อนหิน และฝังรากลึกในความหวาดกลัวของผู้คนแห่งลุ่มน้ำวารัน 

เพราะฝนที่มากเกินไปคืออุทกภัย ไฟที่ร้อนเกินไปคือความตาย และแผ่นดินที่ไหวเอนคือสัญญาณแห่งการลงทัณฑ์ มนุษย์ตัวเล็กจ้อยไม่อาจต่อรองกับธรรมชาติ... เว้นแต่จะมีใครสักคนยอมสละความเป็น "คน" เพื่อเป็นภาชนะรองรับอารมณ์ของโลก 

บนยอดหอคอยหินสีดำที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางนคร ร่างสูงใหญ่ของบุรุษผู้หนึ่งยืนนิ่งงันประดุจรูปสลักที่ไร้ชีวิต สายลมกรรโชกแรงพัดผ้าคลุมไหล่สะบัดไหว แต่แผ่นหลังของเขาไม่เอนเอียงแม้แต่องคุลีเดียว 

"คีร" ไม่ได้รับอนุญาตให้รู้สึกหนาว เขาไม่ได้รับอนุญาตให้รู้สึกเจ็บปวด และที่สำคัญที่สุด... เขาไม่ได้รับอนุญาตให้ "สั่นไหว" 

เบื้องล่างหอคอยนั้น ดวงตานับพันคู่ของชาววารันกำลังจ้องมองขึ้นมาด้วยความศรัทธาอันแรงกล้า พวกเขาไม่ได้มองเห็นชายหนุ่มวัยยี่สิบเจ็ดปีที่มีเลือดเนื้อ พวกเขามองเห็น "อู-ตรา"—เสาหลักแห่งความมั่นคง ผู้ค้ำยันท้องฟ้าไม่ให้ถล่มลงมาทับเมือง 

หากเขาล้ม เมืองจะแตก หากเขามีบาดแผลจากความอ่อนแอ ผู้คนจะสิ้นหวังและฆ่าฟันกันเองเพื่อแย่งชิงความอยู่รอด 

คีรสูดลมหายใจลึก กลิ่นของฝนที่กำลังก่อตัวเจือจางอยู่ในอากาศ เขาขยับไหล่กว้างที่มีรอยแผลเป็นพาดผ่าน—รอยแผลเดียวที่โลกอนุญาตให้เขามีได้ นั่นคือรอยแผลจากการปกป้อง ไม่ใช่รอยแผลจากการพ่ายแพ้ ดวงตาคมกริบมองทอดไปยังแนวป่าดงดิบสุดลูกหูลูกตา ความเงียบงันคือเกราะที่เขาใช้ห่อหุ้มวิญญาณมาตลอดชีวิต 

เขาเคยเชื่อว่าตนเองสมบูรณ์แบบ เขาเคยเชื่อว่าหัวใจที่เต้นอยู่นี้ เป็นเพียงจังหวะของกลองศึกเพื่อรักษาพิธีกรรม 

จนกระทั่งวินาทีที่ท้องฟ้าเบื้องบนเกิดรอยแยกประหลาด... รอยแยกที่ไม่ได้นำมาซึ่งพายุฝนหรือเปลวไฟ แต่นำมาซึ่งหญิงสาวคนหนึ่ง... ผู้ที่จะเดินเข้ามามองตาเขาโดยไม่คุกเข่า และถามคำถามที่สั่นคลอนรากฐานของวารันนครา 

"คุณเจ็บไหม... ที่ต้องยืนแบกโลกไว้แบบนี้?" 

นั่นคือรอยร้าวแรก... ที่น่ากลัวยิ่งกว่าแผ่นดินไหวครั้งใดในหน้าประวัติศาสตร์. 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว