
ข้าถูกแย่งชิงโชคชะตาจากสตรีที่ทะลุมิติมาจากต่างโลก คนรัก ครอบครัว ชื่อเสียงเกียรติยศ ล้วนถูกพรากไปจนหมดสิ้น! หวนคืนกลับมาครานี้ข้าจะช่วงชิงทุกอย่างกลับคืน ดอกบัวขาวงั้นหรือข้าเองก็เป็นได้เช่นกัน!
++++++
“ข้าชอบม้าพยศ แต่ม้าที่ดีต้องไม่ทำร้ายเจ้าของ”
ตวนอ๋องเอ่ยพลางหยักยิ้มน้อยๆ เมื่อเห็นเรียวปากของนางบวมเจ่อ นวลแก้มระเรื่อไปด้วยเลือดฝาด แววตาของนางดูสิ้นหวังและยอมจำนนอยู่ในที
“ข้าไม่ใช่ม้า”
“อีกไม่นานเมื่อข้าขี่เจ้า เจ้าก็จะกลายเป็นม้า”
“ไอ้!”
ไม่ว่าชาติก่อนหรือชาตินี้สวี่ฝูเยว่ไม่เคยเจอบุรุษหน้าด้านไร้ยางอายเช่นนี้มาก่อนเลย เขากล้าพูดจาลามก กระทำกิริยาลามกราวกับคนหน้าหนากว่าฝ่าเท้าที่แตกระแหง
“กลับกัน...หากเจ้าต้องการข้าก็จะเป็นม้าให้เจ้าควบขี่เช่นกัน”
ตวนอ๋องหนานเหวินซือโน้มใบหน้าลงไปก่อนจะกระซิบที่ข้างหูอย่างหยอกเย้า
“ไร้ยางอาย! ไร้ยางอายที่สุดเลย!”
หญิงสาวสะบัดกายออกจากการรัด ก่อนจะดึงแหวนออกมาหมายจะเปิดหัวแหวนสะบัดยาพิษใส่ใบหน้าเขา ทว่าคนตัวโตกลับคว้าข้อมือของนางเอาไว้ ทำให้ฝูเยว่ไม่อาจฆ่าอีกฝ่ายได้ดั่งใจปรารถนา
“ยังคิดที่จะทำร้ายว่าที่สามีอยู่อีกหรือ”
ตวนอ๋องเอ่ยถามพลางทำหน้าทำตาน้อยอกน้อยใจ สวี่ฝูเยว่ไม่อาจรับมือกับความหน้าหนาระดับพระกาฬ นางฝึกฝนมาตลอดเพื่อที่จะรับมือกับมารยาเสแสร้งของสวี่จางลี่ โดยไม่คาดคิดเลยว่าชาตินี้จะมาเจอบุรุษหยาบช้าใจทรามเช่นเขา
“ใครกันว่าที่สามี!”
“ก็ข้าอย่างไรเล่า”
คำตอบตีขลุมของเขาทำให้นางถึงกับพูดไม่ออก แล้วโดยที่หญิงสาวยังไม่ทันตั้งตัวเขาก็ดึงแหวนซ่อนยาพิษในมือนางแล้วโยนทิ้งอย่างไม่ยี่หระ
‘นี่มันอะไรกัน! เขาหน้าด้านจนข้าไม่อาจต่อกรได้เลย ทั้งหน้าด้าน! หน้าหนา! หน้าทน! ไร้ยางอาย! ข้าควรจะทำอย่างไรกับบุรุษผู้นี้ดี!’
สวี่ฝูเยว่รับรู้แล้วว่าเขามิได้อันตรายต่อชีวิต ทว่าคนผู้นี้อันตรายต่อเยื่อพรหมจรรย์ของนาง เพราะหากเขาตั้งใจจะข่มเหงนางจริงๆ มีหรือที่นางจะขัดขืนได้



