— โกสุมาธิราช : บุปผาแห่งหายนะ —
“ในวังหลวง...ไม่มีใครบ้า
มีแต่คนที่เรียนรู้จะ ‘บ้าอย่างงดงาม’
เมื่อไฟแห่งสุริยาเทวีผลิบานกลางราชสำนัก
กลิ่นหอมของการทรยศจึงอบอวลทั่วแผ่นดิน
และความรัก...กลายเป็นพิธีกรรมของการสังเวย”
ความงามกำลังจะกลืนบัลลังก์
อำนาจกำลังเผาใจผู้ครองมันเอง...
🌕 — โกสุมาธิราช
กลางฟ้าหม่นต้นรัตติกาลรุ่ง
มีกลิ่นปรุงดอกไม้ในห้องทอง
เสียงระฆังปลุกเงานิรันดรครอง
ปลายกระจกต้องเลือดแห่งคำภีร์
แผ่นดินงามดังมณีต้องแสงฟ้า
แต่ทุกคราพร่างพราวด้วยราคี
อำนาจซ่อนอยู่ใต้ผ้ากัมพลสี
และรอยยิ้มมีคมเท่าคมดาบ
ในวังนั้นใครจักอยู่เหนือโชค
เมื่อเงาโลกเริ่มพาดบัลลังก์คราบ
บุปผาเพลิงกำลังผลิบานซาบ
ใต้พระอาทิตย์ราบที่ร่ำไห้
ดินจะสั่น ลมจะหวน น้ำจะหลั่ง
ไฟจะสว่างด้วยบาปที่ซ่อนไว้
และเสียงหนึ่งจากใต้ฟ้าไกล
จะกลืนทั้งเมืองไว้ในกลิ่นหอมเดียว
---
> “จงอย่าถามว่าผู้ใดคือราชา...
เพราะในวังนี้—ทุกคนต่างเฝ้าครองอำนาจในหัวใจตนเอง”
👑 พระมหากษัตริย์หัสดินธราธิราช องค์เหนือภพ
> “ข้าปกครองด้วยสายตา...
เพราะเมื่อใจเอียงเพียงนิดเดียว แผ่นดินจะล่มสลาย”
องค์เหนือภพ คือกษัตริย์ผู้เกิดภายใต้เงาแห่งสุริยะ
สืบสายหัสดิน ผู้ถือกลิ่นสุริยะเข้มข้นที่สุดในราชวงศ์เทวาวรรณ
พระองค์ขึ้นครองราชย์ท่ามกลางสงครามและการสูญเสีย จึงเรียนรู้ว่าความรักคือพิษชนิดหนึ่ง — งามแต่ทำลาย
เบื้องหลังพระเนตรที่นิ่งสงบคือรอยแผลลึกของผู้ถูกบังคับให้ “สมบูรณ์แบบกว่ามนุษย์”
พระองค์ทรงสร้างวังให้แข็งดั่งเหล็ก แต่ภายในกลับว่างเปล่าดั่งสุสาน
จนวันที่บุปผาเพลิงจากแดนใต้ก้าวเข้ามา... และทำให้เหล็กทั้งวังเริ่มละลาย
---
> “ราชาไม่อาจรักได้ — แต่ก็ไม่อาจหยุดหลงในสิ่งที่ควรประหาร”

🔥 สุริยาเทวี — โกสุมแห่งไฟจากทิศใต้
> “ข้าไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นสนม...
แต่เพื่อเผาแผ่นดินนี้ให้เหลือเพียงความจริงของข้า”
นางคือโกสุมแห่งไฟ ผู้ถูกบิดาและโชคชะตาบังคับให้ถวายตัวต่อบัลลังก์ทองแห่งกรุงศรีเทวาวรรณ
เลือดในกายหลอมรวมกับกลิ่นบุปผาจันทรา แต่เปลวในใจคือสุริยะเพลิงที่ไม่มีผู้ใดดับได้
ทุกย่างก้าวของนางคือการลุกไหม้—ทั้งวังหลวงและหัวใจของผู้ครองมัน
นางจะรักเพื่อทำลาย หรือทำลายเพราะรัก ไม่มีใครรู้
รู้เพียงว่า...เมื่อบุปผาเพลิงผลิบาน ฟ้าทั้งหล้าจะสั่นสะเทือน

🌿 ปาราเทวี — โกสุมแห่งดิน
> “ข้าเชื่อในระเบียบของฟ้า…
และจะไม่ยอมให้ไฟใดเผาทำลายแผ่นดินนี้”
ปาราเทวี คือโกสุมแห่งดินจากทิศเหนือ
พระสนมเอกผู้ครองวังด้วยความนิ่งสงบและศรัทธาในระเบียบแห่งราชา
นางเติบโตในวังฝ่ายเหนือที่ยึดขนบธรรมเนียมเหนือสิ่งอื่นใด
เชื่อว่าความรักไม่อาจยิ่งใหญ่กว่าหน้าที่ และศักดิ์ศรีคือสิ่งเดียวที่ต้องรักษาไว้
เบื้องหลังความอ่อนช้อยคือรากแห่งอำนาจ — แข็งแกร่ง มั่นคง และดื้อรั้นยิ่งกว่าหินผา
นางรักพระมหากษัตริย์อย่างบริสุทธิ์ แต่เมื่อไฟแห่งสุริยาเทวีผลิบาน
ความรักของนางจึงแปรเป็นความหวง และความหวงนั้น...กลายเป็นคำสาปของวังทั้งวัง
---
> “ดินไม่เคยลุกเป็นไฟ —
จนวันที่ไฟเดินเข้ามาเหยียบมันด้วยเท้าเปล่า”

🌪️วาราเทวี — โกสุมแห่งลม
> “ลมหายใจของข้า...คือคำลวงที่หอมที่สุดในวังนี้”
วาราเทวี คือโกสุมแห่งลมจากทิศตะวันออก ผู้ถือกลิ่นแห่งรัญจวนอันบางเบาแต่ร้ายกาจ
นางเป็นหญิงที่หัวเราะเบา ๆ แล้วปล่อยข่าวแรงกว่าอาวุธใดในราชสำนัก
เติบโตในวังที่ไม่มีใครมองเห็นค่า — จึงเรียนรู้ว่าความสนใจคืออำนาจ
เสียงกระซิบของนางสามารถปลุกศึก หรือทำให้คนรักกันแตกแยก
เธอคือนักแสดงชั้นครูที่ใช้ “ความจริงครึ่งหนึ่ง” เป็นอาวุธ
ไม่มีใครรู้ว่าเบื้องหลังรอยยิ้มอ่อนโยนคือความกลัว หรือคือความกล้า
---
> “ลมไม่เคยมีรูปร่าง...แต่มันพัดพาเถ้าของอาณาจักรได้ทั้งแผ่นดิน”

🌊 จันทราเทวี — โกสุมแห่งน้ำ
> “ข้าไม่ต้องการครองวัง…
เพียงขออยู่ข้างไฟนั้น แม้ละลายก็ยอม”
จันทราเทวี คือโกสุมแห่งน้ำจากทิศตะวันตก
หญิงผู้เงียบงามและอ่อนโยนที่สุดในบรรดาสี่โกสุม
กลิ่นจันทราของนางหอมเยียบเย็นเหมือนแสงเดือนเหนือผืนน้ำ — งามเกินแตะต้อง
นางมิได้แสวงหาอำนาจ แต่ยอมยื่นหัวใจให้ไฟที่พร้อมจะเผาผลาญ
ภายนอกดูสงบสุขุม ทว่าในใจกลับเต็มไปด้วยคลื่นแห่งความหวังและความสิ้นหวังที่ไม่มีวันหยุด
นางคือเสียงกระซิบอ่อนสุดท้ายของวังหลวง ผู้รักอย่างบริสุทธิ์…จนกลายเป็นบาป
---
> “ในยามน้ำสะท้อนจันทร์ — เธอเห็นเพลิงไหม้อยู่ใต้ผิวนั้นเสมอ”

