...
ทุกเสียงที่เคยถูกฆ่า
จะกลับมาอีกครั้ง
ไม่ใช่เพื่อพูด
แต่เพื่อให้โลกได้ฟัง
ว่าความเงียบก็มีชีวิต
หมึกค่อย ๆ ไหลบนกระดาษ
เหมือนเลือดที่ย้อนเข้าหัวใจหลังสิ้นลมหายใจ
แสงเทียนสั่น…
เงาเต้นระยับอยู่บนผนัง
และโลกทั้งใบเริ่มขยับ — เบา…แต่แน่น
...
บทนำ — เสียงของสิ่งที่ยังไม่ตาย
“ผี”
ไม่ได้หมายถึงวิญญาณของคนตาย
แต่คือเสียงของสิ่งที่ถูกลืมในหัวใจที่ยังไม่ยอมตาย
มันไม่เคยออกมาหลอกหลอน
มันแค่ “อยู่ตรงนั้น” —
ในจุดเดียวกับที่ความทรงจำเคยอุ่น
ในจุดเดียวกับที่คำว่า “รัก” เคยสั่น แล้วดับไป
ทุกครั้งที่โลกพยายามเขียนทับเรา
มันจะสะกิดให้หัวใจหยุดหนึ่งจังหวะ
เหมือนถามอย่างอ่อนโยนว่า
“เจ้าลืมสิ่งนี้จริงหรือ?”
ไม่มีใครได้ยินมันด้วยหู
แต่ทุกคนเคยสะดุ้ง โดยไม่รู้สาเหตุ
เคยรู้สึกเหมือนมีใครมองอยู่จากอีกฝั่งกระจก
และในวินาทีนั้น — เสียงของมันเบาเหมือนลมหายใจคนที่เรายังรัก
ผี…จึงไม่ใช่เงาแห่งความตาย
แต่มันคือเงาแห่งความรักที่ไม่ยอมตาย
เสียงที่อยู่นิ่งในช่องว่างระหว่าง “ลืม” กับ “จำ”
และเตือนให้รู้ว่า สิ่งที่หายไป ไม่เคยหายจริง
เพราะทุกครั้งที่เราคิดถึงใครบางคน
โลกจะสะเทือนเบา ๆ เหมือนมีใครลืมตาขึ้นในอีกภพหนึ่ง
นั่นคือบาปที่อ่อนโยนที่สุดของมนุษย์ —
บาปของการลืมสิ่งที่เคยรัก
และบุญเดียวที่ยังเหลืออยู่
คือการกล้าฟังเสียงนั้นอีกครั้ง
เมื่อเจ้าฟังมัน
เจ้าจะได้ยินหัวใจของตัวเอง
ที่ยังมีชีวิตอยู่…
ในคนที่จากไปนานแล้ว
ติ๋ง...
เสียงหยดหมึกสุดท้ายกระทบพื้นกระดาษ
สั่นสะท้อนเหมือนเม็ดฝนแรกของคืนใหม่
ผี…เริ่มหายใจ
หมอกคลุมเมือง
ลมหายใจแรกของโลกกลับมา
คืนนี้เงียบเกินไป
จนฝนยังไม่กล้าเอ่ยชื่อเธอ
— จุดเริ่มของการคืนเสียง
ของผู้ที่โลกเคยลบชื่อทิ้ง
