เมื่อทนายความเริ่มอ่านพินัยกรรม ทุกอย่างก็เป็นไปตามคาด มรดกทั้งหมดถูกยกให้ธีธัช
“...โดยมีเงื่อนไข”
คิ้วเข้มของธีธัชกระตุกทันที
“เงื่อนไขคือ นายธีธัช จะต้องรับหน้าที่เป็นผู้ปกครองร่วมกับ นางสาวจ้าวใจ เพื่อดูแล เด็กหญิงพิมพ์มาดา หรือ น้องพุดดิ้ง เป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม”
จ้าวใจเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ ขณะที่แววตาของธีธัชวูบไหวไปครู่หนึ่ง เขาทุบปลายนิ้วลงบนโต๊ะเบาๆ ชื่อของเด็กคนนั้น เขาเคยได้ยินผ่านๆ มาบ้าง
“พุดดิ้ง” เขาทวนชื่อด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ลูกสาวของธนิกน่ะเหรอ”
คำถามของเขาเหมือนเป็นการยืนยันมากกว่าต้องการคำตอบ ทนายความพยักหน้ารับ “ใช่ครับ...น้องพุดดิ้งคือบุตรสาวของคุณธนิก น้องชายต่างมารดาของคุณธีธัชที่เสียชีวิตไปพร้อมกับภรรยาเมื่อสามเดือนก่อนครับ”
ราวกับมีสายฟ้าฟาดลงกลางห้อง การยืนยันนั้นทำให้ชื่อของ ธนิก กลายเป็นเหมือนสวิตช์ที่จุดชนวนความเกลียดชังในใจของธีธัช เขาเกลียดน้องชายคนนี้และโดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ของน้องชาย ที่เข้ามาทำลายครอบครัวของเขาจนแตกเป็นเสี่ยงๆ
“ผมไม่เลี้ยง!” ธีธัชตวาดลั่น “ผมไม่มีวันเอาเลือดของผู้หญิงคนนั้นมาเลี้ยงดูเด็ดขาด”
“ใจเย็นก่อนครับคุณธีธัช” ทนายพูดต่อ “พินัยกรรมระบุไว้ชัดเจนว่า เมื่อครบหนึ่งปี หากน้องพุดดิ้งมอบ ขวดนมคู่ใจ ให้กับใคร คนนั้นจะได้รับอำนาจในการบริหารมรดกทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว แต่หากทั้งสองท่านทำไม่สำเร็จ หรือไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้ มรดกทั้งหมดจะถูกยกให้กับการกุศลทันที