"สมาย"ที่หมายถึงรอยยิ้มคือชื่อของเธอ เธอเป็นเด็กกำพร้าที่น่าสงสาร เธอถูกเพื่อนร่วมห้องรุมทำร้ายจนตายด้วยความอิจฉา เมื่อเธอฟื้นจากความตาย เธอจะจัดหนักให้ทุกคนที่ทำร้ายเธอ ครั้งนี้เธอกลับมาพร้อมความเทพ.

สมาย ชื่อหญิงสาวร่างบาง หุ่นนางแบบสูง 172 cm. ผมสีบรอนซ์ทองยาวสลวย ผิวขาวอมชมพูสุขภาพดี ปากเล็กจมูกหน่อย เธอสวยสมบูรณ์แบบมาก เธอเป็นหญิงสาวที่เรียกได้ว่าใครเห็นก็ต้องเหลียวหลังมองเป็นรอบที่สอง  

สมายเป็นเด็กกำพร้าที่พ่อแม่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ เธอใช้ชีวิตตามลำพังมาตั้งแต่อายุ 13 ปี 

ปัจจุบัน สมายเรียนอยู่โรงเรียนเวทย์มนต์แองเจิ้งโยเชฟ โรงเรียนเวทย์มนต์แองเจิ้งโยเชฟเป็นโรงเรียนหญิงล้วนอันดับหนึ่งที่หลายคนใฝ่ฝันอยากจะเข้ามาศึกษา  

สมายกำลังเรียนอยู่เกรด 10 อายุได้ 15 ปี เธอใช้ชีวิตมาตามลำพังได้สองปีเต็มแล้ว และที่เธอยังสามารถใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดีก็เพราะทรัพย์สมบัติที่พ่อและแม่ของเธอได้ทิ้งเอาไว้ให้ สมายไม่มีพี่น้อง ดังนั้นทรัพย์สินต่าง ๆจึงตกเป็นของเธอเพียงผู้เดียว  

โลกที่สมายอยู่ตอนนี้เป็นโลกแห่งเวทมนตร์ เด็กทุกคนเกิดมาล้วนมีพลังเหนือธรรมชาติ ยกเว้นสมาย เธอแตกต่างจากคนอื่นตรงที่พลังในตัวไม่สมดุลกัน ทำให้การเรียนของเธอค่อนข้างลำบากกว่าคนอื่นหลายเท่า สมายพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด การเรียนในส่วนของทฤษฎีแทบจะไม่มีใครสู้สมายได้ สมายเป็นคนเรียนดีระดับต้น ๆของโรงเรียน แต่กลับเป็นคนอ่อนแอที่สุดในการฝึกปฏิบัติเช่นเดียวกัน  

อาณาจักรที่สมายอาศัยอยู่คือ อาณาจักรกรีนแลนด์ อาณาจักรแห่งนี้เป็นอาณาจักรที่อุดมไปด้วยความเขียวชอุ่มของต้นไม้ โรงเรียนที่มีชื่อเสียงในกรีนแลนด์มีอยู่สองโรงเรียนด้วยกันคือโรงเรียนแองเจิ้งโยเชฟที่เป็นโรงเรียนหญิงล้วน และโรงเรียนฮันเตอร์กรีนแลนด์เป็นโรงเรียนที่มีทั้งชายและหญิง การแบ่งเกรดการเรียนการสอนจะแบ่งตามอายุ ดังนี้  

Grade 1-6 (อายุ 6-11 ปี) / Grade 7-9 (อายุ 12-14 ปี) / Grade 10-12 (อายุ 15-17 ปี)  

สมายเป็นหญิงสาวที่สมบูรณ์แบบไปหมด หากไม่นับเรื่องความอ่อนแอของเธอ แต่ก่อนที่พ่อและแม่ของเธอจะตายมีแต่คนเข้าหาเพื่อหวังผลประโยชน์ เพราะที่บ้านของสมายทำธุรกิจเกี่ยวกับการขายเครื่องเพชร ชีวิตของสมายพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที ตั้งแต่ที่พ่อและแม่ของเธอตายจากไป จากที่มีเพื่อนเยอะแยะมากมาย กลายเป็นคนไร้เพื่อน ไม่มีใครคบ มีแต่คนรังแกเพราะความอิจฉาในความสวยและสมบูรณ์แบบของเธอ  

โรงเรียนแองเจิ้งโยเชฟเป็นโรงเรียนกินนอน สองปีที่ผ่านมาสมายใช้ชีวิตด้วยความทุกข์ทน ไม่มีวันไหนเลยที่เธอจะไม่ถูกเพื่อนรุมทำร้าย เธอมักจะตื่นไปเรียนไม่ได้ในระยะหลัง เพราะเธอบาดเจ็บหนักเกือบทุกรอบที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เธอเคยฟ้องอาจารย์แล้ว แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นเธอที่ถูกลงโทษเองเพราะพ่อและแม่ของอีกฝ่ายมีอำนาจมากกว่าเธอ  

สมายฝืนทนเพื่อที่จะเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ให้จบ และสอบเข้ามหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของอาณาจักรให้ได้ แต่ความโชคร้ายที่วันนี้เธอต้องมาหมดลมหายใจลงด้วยการรุมทำร้ายที่แสนจะหนักหน่วงของเพื่อนร่วมห้อง  

กลุ่มที่ชอบรุมทำร้ายสมายมีอยู่ด้วยกันสามคน ส้มโอ เปรี้ยว และหวาน สมายเองก็ไม่รู้ว่าเธอไปทำอะไรให้กลุ่มคนพวกนี้แค้นเคืองหรือชิงชังเธอ เพราะเธอไม่เคยไปยุ่งวุ่นวายกับใครก่อน มีแต่คนกลุ่มนี้ที่เข้ามาหาเรื่องเธอก่อนตลอด 

สมายจดจำความเจ็บปวดครั้งสุดท้ายที่เธอได้รับ เธอถูกเพื่อนร่วมห้องสามคนทำร้ายโดยอัดพลังเวทย์ใส่เธอจนกระเด็นลอยออกไปไกล หญิงสาวทั้งสามนึกว่าสมายจะทนได้เหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ร่างกายของสมายอ่อนแอจนเกินจะรับไหว จึงทำให้สมายหมดลมหายใจ และตายไปท่ามกลางความตกใจของกลุ่มคนที่รุมทำร้ายเธอ 

ก่อนตายสมายได้ยินทั้งสามปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรดี เธอค่อย ๆปิดเปลือกตาของเธอลงและไม่รับรู้อะไรอีกเลย

“ตื่นเถิดแม่หนู” 

สมายได้ยินเสียงเรียก เธอจำได้ว่าตัวเองได้ตายไปแล้ว ที่นี่คงเป็นโลกหลังความตาย สมายลืมตาขึ้นและจ้องมองไปยังชายชราที่เรียกให้เธอตื่น

“ท่านเป็นใครคะ” 

สมายถามออกไปด้วยความสงสัย

“ข้าคือเทพเจ้า”  

สมายเมื่อได้ฟังก็ทำหน้าไม่เข้าใจ  

“เรียกข้าว่าท่านเทพก็ได้ มานั่งตรงนี้สิข้าจะได้อธิบายให้เจ้าฟัง”  

สมายลุกขึ้นนั่งและเขยิบเข้าไปใกล้ท่านเทพ 

“ท่านเทพหนูตายแล้วเหรอคะ”  

สมายถามแต่ยังคงนิ่ง การกระทำของสมายทำให้ท่านเทพถึงกับสงสัยว่าเหตุใดหญิงสาวผู้นี้ถึงไม่มีอาการตื่นตกใจออกมาให้เห็น 

“ใช่ เจ้าตายแล้ว”  

เทพเจ้าบอกหญิงสาวตรงหน้า และสังเกตอาการของหญิงสาวอีกครั้ง เขาก็ยังคงเห็นเป็นอย่างเดิมคือไม่มีอาการอันใดเลย  

สมายพยักหน้าให้ท่านเทพอย่างเข้าใจ 

“ค่ะ”  

สมายตอบท่านเทพเสียงเบา 

“เจ้าไม่เสียใจหรือที่ต้องตายแบบนี้”  

สมายเมื่อได้ยินคำถามก็ส่ายหน้ากลับทันที 

“เสียใจแล้วยังไง ดีใจแล้วยังไง เมื่อตายแล้วก็คือตาย ฟื้นคืนกลับไปไม่ได้อยู่ดีค่ะ”  

เสียงใสของสมายพูดอย่างเข้าใจชีวิต เธอปลงได้แล้ว เธอผ่านความเศร้าโศกเสียใจกับความตายของพ่อและแม่มาแล้ว เมื่อถึงเวลาของเธอ เธอก็ต้องตายอยู่ดี  

ท่านเทพเจ้ายิ้มให้กับความคิดที่โตเกินกว่าอายุของสมาย หลายร้อยปีมาแล้วที่ท่านไม่เคยเจอใครที่ทำให้ท่านยิ้มออกมาได้ ท่านรู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวตรงหน้าเป็นอย่างมาก 

“ข้าจะบอกเจ้าว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาของเจ้า”  

ท่านเทพเจ้าบอกกับสมายและได้อธิบายว่า เมื่อสิบห้าปีก่อนเขาได้ทำงานผิดพลาดจนทำให้เด็กคนหนึ่งไปเกิดโดยที่มีพลังอ่อนแอมากกว่าคนอื่น ทำให้พลังในตัวไม่มีความสมดุลกันจึงไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ เมื่อสมายได้ยินมาถึงตรงนี้เธอถึงกับตาโต อย่าบอกนะว่าเด็กที่ท่านเทพพูดก็คือเธอ เธอจ้องไปที่ท่านเทพอย่างต้องการคำตอบ 

“ใช่แล้ว เพราะความผิดพลาดของข้าเอง จึงทำให้ชีวิตของเจ้าเป็นเช่นนั้น ที่จริงพรสวรรค์ที่เจ้าได้ต้องเป็นพรสวรรค์ที่สูงส่ง เพราะพ่อและแม่ของเจ้าเป็นคนดีมิใช่น้อย แต่เพราะข้าเอง”  

สมายตั้งใจฟังท่านเทพเจ้าพูด ตอนนี้เธอยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องตาย แต่ที่เธอหมดลมหายใจก็เพราะความอ่อนแอของร่างกายที่มันอ่อนแอกว่าคนปกติหลายเท่า  

สมายยิ้มออกมาอย่างมีความหวัง เธอไม่ได้เป็นคนโง่  

‘แสดงว่าท่านเทพต้องกลับมาเพื่อแก้ไขความผิดพลาดของตัวเอง’ 

สมายคิดในใจ 

“เจ้าเข้าใจได้ถูกต้องแล้ว”  

สมายตกใจและถามออกไปว่า 

“ท่านอ่านใจได้หนูเหรอคะ”  

ท่านเทพพยักหน้าให้ สมายยิ้มแล้วพูดกลับไปว่า 

“ไหน ๆท่านก็อ่านใจหนูแล้ว ท่านจะชดเชยให้หนูแบบไหนคะ”  

สมายถามออกไปโดยไร้ความแค้นเคืองใด ๆ 

“เจ้าไม่โกรธข้าหรือ”  

เทพเจ้าถามหญิงสาวตรงหน้าด้วยความไม่เข้าใจ ตอนแรกเขาเตรียมใจเอาไว้แล้วว่าอาจจะถูกมนุษย์ผู้นี้ต่อว่า 

“ไม่ค่ะ คนเราถ้ารู้ว่าผิดพลาดแล้วแก้ไขก็ควรจะได้การให้อภัย”  

สมายตอบกลับด้วยความรู้สึกที่แท้จริงของตนเอง  

เทพเจ้าถึงกับชะงักไป เขาส่งยิ้มให้กับหญิงสาวตรงหน้าอย่างอ่อนโยน 

“ข้าจะให้พรแก่เจ้าห้าข้อ จงคิดให้ดีก่อนที่จะขอออกมา”  

สมายเมื่อได้ยินก็ยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้น  

“หนูจะได้กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมใ่ช่ไหมคะ”  

สมายถามท่านเทพเจ้าเพื่อให้มั่นใจว่าตัวเองคิดไม่ผิด 

“ใช่ เจ้าจะได้กลับไปที่เดิม และจะได้รับพรจากข้าอีกห้าข้อ”  

ท่านเทพเจ้าบอกกับสมายให้เธอได้มั่นใจ  

สมายนิ่งคิดอย่างถี่ถ้วนและพยักหน้าให้กับท่านเทพ 

“ขอเลยนะคะท่านเทพ”  

สมายบอกท่านเทพ และท่านก็พยักหน้ากลับมา 

“หนูขอ…”  

สกายขอพรว่า 

1. ขอให้หนูมีความสามารถในการเรียนรู้ได้ไวกว่าคนอื่นหนึ่งร้อยเท่า 

2. ขอให้หนูมีดวงตาที่วิเศษกว่าคนอื่น สามารถตรวจสอบคนหรือสิ่งของได้ทุกอย่างบนโลก 

3. ขอให้หนูมีพลังเวทย์ไม่จำกัด 

4. ขอให้หนูมีมิติเป็นของตัวเอง มิตินั้นสามารถเก็บของเข้าไปได้และหนูสามารถเข้าไปอยู่ในมิติได้ด้วย 

5. ขอให้หนูมีร้านค้าส่วนตัวที่หาซื้ออะไรก็ได้บนโลกใบนี้ 

เมื่อท่านเทพได้ฟังคำขอทั้งห้าข้อของสมายทำให้ท่านถึงกับชมสมายในใจ นางหนูคนนี้เป็นคนฉลาดมาก ท่านลูบเคราของตัวเอง 

“ข้าให้พรทั้งห้าข้อที่เจ้าปรารถนา และข้ามีของให้เจ้าเพิ่ม เจ้าสามารถเห็นข้อมูลของตัวเองได้เหมือนหน้าจอแสดงผล”  

สมายเมื่อได้ฟังเธอกำลังจะถามว่ามันคืออะไร แต่ท่านเทพไม่เป็นโอกาส

“ขอให้เจ้าโชคดีกับการเกิดใหม่ จงย้อนเวลากลับไป ณ บัดนี้”  

หลังจบประโยคของท่านเทพ สมายก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย 

เปลือกตาคู่สวยของสมายค่อย ๆขยับขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป  

“โอ้ย เจ็บจังเลย”  

สมายเปร่งเสียงออกมาด้วยความยากลำบาก เธอลองยกมือสองข้างขึ้นและขยับมันไปมา เธอยิ้มกว้างด้วยความดีใจ สมายสำรวจร่างกายของตัวเองอย่างละเอียด เธอมองไปรอบ ๆเห็นว่าเธอยังอยู่ที่เดิมก่อนที่เธอจะสิ้นใจ เธอกลับมาแล้ว 

“ยินดีต้อนรับชีวิตใหม่สมาย”  

สมายพูดกับตัวเอง  

ตอนนี้ภาพที่ปรากฏ คือภาพผู้หญิงสวยคนหนึ่งที่ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดกำลังยิ้มออกมาอย่างมีความสุข นัยตาของเธอแฝงไปด้วยความดุดัน เธอยิ้มอย่างเย็นชา เธอจำได้ดีว่าใครดีกับเธอ และใครบ้างที่ทำร้ายเธอ  

“หึ..” 

หมายเหตุ - โลกใบนี้เป็นโลกเวทมนตร์ที่สมมติขึ้น ชื่อและอาณาจักรไม่มีอยู่จริง เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น  

ค่าเงินที่ใช้คือเพชร เวลาที่ใช้คือเวลาสากลปัจจุบัน  

การผจญภัยบทใหม่ของผู้หญิงที่ชื่อสมาย เธอกลับมาพร้อมกับความเทพที่ทำให้เธอเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ และการกลับมาครั้งนี้ของเธอ เธอจะแก้แค้นให้หมด สำหรับคนที่รุมทำร้ายเธอมาตลอดสองปี แล้วเจอกันกับสมายคนใหม่ ที่เกิดใหม่และฟื้นขึ้นมาจากความตายพร้อมกับพรห้าข้อและของแถมจากท่านเทพ  

เป็นกำลังใจให้น้องสมายด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ ด้วยรัก…มินตราวดี 

  

  

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว