องค์ชายเก้าจอมโฉดผู้นั้นข้าจะให้เขาเป็นสามี!
หวนคืนกลับมาครานี้ข้าขอตัดวาสนากับสามีเก่า
เดินหน้าแก้ไขชีวิตไปพร้อมๆ กับยั่วยวนว่าที่สามีใหม่
ทว่า...เหตุใดจึงกลายเป็นนางที่ถูกเขายั่วยวนเล่า!
“ให้ตายเถอะเจ้าตัวแสบ!”
องค์ชายเก้าถานซีหยางใช้มือข้างหนึ่งประคองร่างบางที่ถูกสกัดจุดจนสลบให้นอนลงบนฟูก ก่อนจะหันไปมองมือเล็กที่ยังคงกำกระบอกไม้ไผ่ของเขาเอาไว้แน่น
“ยุ่งยากแล้ว”
องค์ชายหนุ่มมีสีหน้าปั้นยาก ค่อยๆ แกะนิ้วมือที่เหนียวดั่งตีนตุ๊กแกของเจ้าลิงน้อยทีละนิ้ว ความอุ่นนุ่มของมือที่กุมแท่งหยกของเขานั้นยิ่งทำให้เอ็นอุ่นขยายใหญ่ขึ้นอย่างไม่อาจควบคุม
ปวดตุบๆ หน่วงไปทั้งหน้าขาด้วยต้องการปลดปล่อย ใบหน้าของเขาเหยเก ลมหายใจติดขัด ลอบมองคนเมาที่ยังคงหลับตาพริ้มเป็นระยะ
“ให้ตายเถอะ! เจ้าคิดว่าแท่งหยกของข้าเป็นกระบอกไม้ไผ่ไปได้อย่างไรกัน”
คิดแล้วก็ถึงกับเผลอหลุดหัวเราะออกมา ไม่คิดเลยว่าเฟิ่งเยว่สือยามเมามายจะทำเรื่องตลกน่าขบขันถึงเพียงนี้ แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องบิดเบี้ยวใบหน้าเหยเกเมื่อนิ้วชี้และนิ้วกลางที่แกะออกไปแล้วดีดกลับมากำรอบแท่งหยกของเขาเอาไว้อีกครา
“อา...”
องค์ชายถานซีหยางหน้าแดงก่ำ เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง พยายามควบคุมหัวใจไม่ให้เต้นกระโจนแรงไปมากกว่านี้
เขาตั้งใจแกะนิ้วตุ๊กแกออกอีกครั้งอย่างระมัดระวังยิ่งกว่าเดิม เพราะไม่เช่นนั้นคืนนี้ทั้งคืนเขาอาจต้องนั่งให้นางกุมกระบอกไม้ไผ่จนถึงรุ่งสาง
ครานี้เรื่องที่เขาปลอมเป็นสตรีคงได้ถูกเปิดโปงเป็นแน่!
แล้วในที่สุดเขาก็แกะนิ้วสุดท้ายของนางออก ทันทีที่แท่งหยกเป็นอิสระชายหนุ่มผงะถอยหลังไปหลายก้าวราวกับต้องการเวลาตั้งตัว เขายกมือลูบหน้าตนเองหลายๆ ครั้งเพื่อเรียกสติ จากนั้นจึงเดินวนไปวนมาในห้องจนแท่งหยกแข็งขึงค่อยๆ สงบลง
เมื่อแน่ใจว่านางจะไม่ตื่นขึ้นมาแน่ๆ แล้ว จึงได้เดินกลับเข้าไปหาแล้วห่มผ้าให้นางอย่างเบามือ
“ขยันทำให้ข้าเป็นห่วงเสียจริง”
ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยไปตามเส้นผมที่ระกรอบหน้าหวาน ก่อนจะสัมผัสเบาที่ใต้ตาแดงช้ำ หยาดน้ำตาของนางทำให้เขาเจ็บปวดใจยิ่งนัก
ชาติก่อนนางลำบากมากเหลือเกินแล้ว ชาตินี้เขาจะไม่ให้นางต้องพบเจอกับความลำบากอีก
“เจ้าลิงน้อย เจ้าจับแท่งหยกของข้าแล้ว อย่างไรเจ้าก็ต้องรับผิดชอบตัวข้า ต้องเป็นเจ้าสาวของข้า เข้าใจหรือไม่...”
เขาหัวเราะในลำคอก่อนจะโน้มใบหน้าลงไป สัมผัสเบาๆ ที่ริมฝีปากอวบอิ่มเย้ายวน อยากจะ ‘จูบ’ มากกว่าแค่ประกบปากสัมผัส แต่ก็จำต้องหักห้ามใจ
“ฝันดีนะเจ้าลิงน้อย”