‘ปริมรดา’กะ*รี่ตัวท็อปต้องมาดูแลหนุ่มหล่อบ้านรวยแต่ดันอกหักอย่าง ‘เวสารัช’ แต่เหมือนหัวใจจะไม่รักดี เมื่อเขาดันหลงเสน่ห์กะ*รี่อย่างเธอเข้าอย่างจัง
_____________
“ คุณจะมารักฉันได้ยังไง ”
“ ทำไมจะไม่ได้ ”
“ เพราะฉันเป็นกะ*รี่ไง ”
^°^
ปริมรดา ❤️
นักศึกษาปีสี่ฟาดตำแหน่งกะ*รี่ตัวท็อป สวยและปากร้าย ไม่ได้รักในอาชีพขายตัวแต่รักในครอบครัวเลยต้องมาเป็นกะ*รี่
เวสารัช 💙
ผู้ชายวับสามสิบบวก ธุรกิจอุตสาหกรรมบริโภคในเครือ ‘เทวาเทพ’ รวยระดับต้นๆของประเทศ แต่ดันอกหักถูกผู้หญิงทิ้งเลยมาปิ๊งหลงเสน่ห์กะ*รี่ซะได้
•••••••••
‘ปริมรดา’ ผู้หญิงที่ใครๆเรียกเธอว่ากะ*รี่ ต้องมารับหน้าที่นอกเหนืองานที่ทำคือดูแล ‘เวสารัช’ หนุ่มหล่อโปรไฟล์ดีแต่กลับอกหักรักพังจนแทบจะเสียผู้เสียคน แต่แล้วความใกล้ชิดก็ทำพิษ เมื่อความรู้สึกแปรเปลี่ยนเป็นความหวั่นไหว เขาดันหลงเสน่ห์กะ*รี่อย่างเธอเข้าอย่างจัง ราคะเข้าครอบงำจนยากที่จะถอนตัว มีทางเดียวที่เขาจะตอบสนองตัณหานี้ของตัวเองได้ นั่นคือได้ครอบครองตัวเธอ
แต่ด้วยสถานะหนุ่มหล่อบ้านรวยกับกะ*รี่ตัวท็อปย่อมเป็นของแสลง ไหนจะคำครหาติฉินนินทาที่ถาโถม แต่ด้วยหัวใจที่เรียกร้องเขาจึงต้องฟันฝ่าอุปสรรคและแหกกฎเหล็กห้ามรักลูกค้าของเธอ เพื่อที่เขาจะได้ครอบครองตัวเธอไว้ในปกครองของเขาแต่…เพียงผู้เดียว
❌คำเตือน ต้องอ่านนะคะ❌
นิยายเรื่องนี้⚠️18+ ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่าน ใครอ่อนไหวง่าย โลกสวยรักน้ำ รักปลา รักธรรมชาติ รักความบริสุทธิ์ใสๆต้องผ่านเรื่องนี้เลยนะคะ ทุกอย่างมีเหตุผลที่มาที่ไปขอบอกว่าพระเอกคลั่งรัก หึงโหด หวงแรงและเอาแต่ใจมาก
หนุ่มหล่อบ้านรวย VS กะหรี่ตัวท็อป จะรักกันได้ไหมต้องตามลุ้นกันนะคะ ขอให้เปิดใจอ่านกันนะคะ 🙏
กะ*รี่ที่ห้ามรักลูกค้า จะต้องมาเจอผู้ชายที่บังคับให้รัก ดูเหมือนงานนี้จะสนุกน้ำตานองๆแล้วสิคะ
>>> โปรยปราย <<<
ผู้หญิงทุกคนมีความฝัน อยากเดินตามเส้นทางสานความฝันของตัวเอง บางคนโชคดีได้ทำในสิ่งที่ฝัน แต่สำหรับบางคนแค่คิดจะมีความฝันมันก็เจ็บปวดแล้ว…
อาชีพที่ไม่ได้เลือกแต่ฟ้ากำหนดให้เลือก งานที่ปฏิบัติโดยการทำกิจกรรมทางเพศเพื่อแลกกับค่าตอบแทนในรูปแบบของเงินตรา บางคนการถูกบังคับขู่เข็ญเพื่อการค้า แต่สำหรับบางคนความรู้สึกอาจไม่เต็มใจแต่หัวใจบังคับให้ต้องทำ
ปริมรดา สวยสวยวัยยี่สิบสาม นักศึกษาปีสี่ วัยที่กำลังสนุกกับโลกกว้าง วัยที่มีฝันและอยากเดินตามความฝันของตัวเอง แต่สำหรับเธอกลับไม่มีเส้นทางฝันให้เดินมีแต่ทางเลือกเดียวให้เธอเดินนั่นคือ…ขายบริการ
เสาร์อาทิตย์ที่ใครเลือกจะเดินทางเพื่อไปพักผ่อนกับครอบครัวแต่สำหรับเธอกลับต้องใส่ชุดเดรสวาบหวิบ แต่งหน้าทำผมสวยสะพรั่ง ถือกระเป๋าใบหรูเพื่อรอใครบางคน
“ คุณปริมรดาหรือเปล่าครับ ”
ชายชุดดำเข้ามาเอ่ยถาม ที่เธอกำลังรอเขาอยู่
“ เชิญทางนี้ครับ ”
รถคันหรูหลายสิบล้านที่เธอไม่มีปัญญาซื้อเป็นของตัวเอง แต่เธอกลับสามารถได้นั่งอย่างหรูหรา โรงแรมระดับห้าดาวระดับพรีเมี่ยมที่ผู้หญิงฐานะอย่างเธอไม่มีวันเข้ามาย่างกรายเข้ามาที่นี่ได้ ห้องพักหรูหราเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันที่แค่โซฟาที่ทำมาจากหนังจระเข้วาสนาเธอคงไม่ได้สัมผัส แต่ทั้งนี้เธอได้พบเจอ เมื่อต้องไปหาผู้ชายแปลกหน้าที่นัดหมายไว้หรือเรียกง่ายๆว่า…ลูกค้า
“ สวัสดีค่ะเสี่ยเฉิน ”
ผู้ชายวัยเลขสี่ปลายๆที่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ถ้าไม่บอกก็คงจะคิดว่าอายุสิบต้นๆ เจ้าของโชว์รูมรถชื่อดัง ที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ต่างเสนอตัวเพื่อเป็นผู้หญิงของเขา แต่สำหรับปริมรดาเธอไม่ได้รู้สึกพึงปรารถนาเหมือนผู้หญิงคนอื่น เธอเลือกปฏิเสธการซื้อตัวจะเสี่ยเฉินหลายต่อหลายครั้ง แต่ครั้งนี้เขาทุ่มเงินหนาเพื่อให้ได้ตัวเธอที่ทำเธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธเขาได้
“ หนูปริมรดาสวยกว่าที่เสี่ยคิดไว้ซะอีกนะ ”
“ ขอบคุณค่ะเสี่ย ”
“ มานั่งข้างๆให้เสี่ยมองชัดๆหน่อยสิ ”
เสี่ยเฉินตบโซฟาเบาๆ เป็นการบอกทางอ้อมว่าทุกอย่างมันกำลังจะดำเนินไปแล้วนะ
เขาพึงลูบไล้ร่างกายของเธอราวกับอยากเชยชมจนแทบจะอดใจไม่ไหว ผิวขาวเนียนถูกชายวัยสี่สิบพรมจูบและปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอออกทีละชิ้น เธอทำได้แค่หลับตากัดฟันอย่างไร้ความรู้สึก เพื่อให้ลูกค้าได้สมปรารถนาในสินค้าอย่างร่างกายเธอ…
“ นี่คือรางวัลที่หนูปริมรดาทำให้เสี่ยมีความสุข ”
เสี่ยเฉินวางเงินปึกหนาลงบนเตียงอย่างพอใจ ก่อนจะปรี่มากอดและพรมจูบปริมรดาที่เธอทำหน้าที่ของตัวเองได้ถูกใจเขาเป็นอย่างมาก
ปริมรดามองเงาของตัวเองในกระจก ที่สะท้อนร่างเงาให้เห็นเมื่อผู้ว่าจ้างได้ออกไปแล้ว เธอลูบไล้ไปตามเรือนร่างของตัวเองด้วยสีหน้าสะอิดสะเอียนอยากจะอาเจียนออกมา เธอไม่ได้ปรารถนากับหน้าที่ แต่เธอไม่สามารถลิขิตชะตาชีวิตของตัวเองได้ การขายเรือนร่างจึงเป็นสิ่งที่เธอต้องทำ แม้มันจะรู้สึกสกปรกโสโครกมากแค่ไหน เธอทำได้แค่ปาดน้ำตายอมรับและหยิบเงินเดินออกมา…
แมนชั่นห้องพักแคบๆ มีเฟอร์นิเจอร์ไม่กี่ชิ้น ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก เตียงนอนแข็งๆที่แทบจะพลิกตัวไม่ได้ แต่มันกลับเป็นห้องแห่งความสุขของปริมรดา
“ หิวไหมมึง กูซื้อข้าวมาฝาก ”
ชีวา เพื่อนเพียงคนเดียวของปริมรดา ที่เข้ามาอยู่ในชีวิตของปริมรดาราวกับฟ้ากำหนด ด้วยเด็กต่างจังหวัดต้องทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนและส่งให้ทางบ้าน ชีวาจึงได้รับงานเหมือนกับปริมรดา ทั้งคู่จึงเข้าใจและได้มาเป็นเพื่อนสนิทกัน
“ มึงไม่มีงานเหรอ ”
“ มีพรุ่งนี้…แล้วมึงล่ะ เงินพอส่งให้ที่บ้านหรือเปล่า ถ้าไม่พอเอาของกูก่อนไหม ”
“ พอแล้ว ”
“ มีเงินพอส่งเงินให้น้ากาหลงแล้ว สบายใจเลยสิ ”
“ อืม เดือนนี้สบายใจแล้ว ”
“ กะ*รี่ยอดกตัญญูรางวัลนี้ต้องได้มึง ”
“ งั้น รางวัลกะ*รี่สู้ชีวิตก็ต้องเป็นของมึงดิ ”
“ ภูมิใจน้ำตาจะไหล ”
“ อีด*ก ”
“ ฮ่าฮ่าฮ่า ”
เพราะชีวิตไม่ได้มีทางเลือกมากมายนัก เส้นทางขายบริการอย่างผู้หญิงขายตัว ไม่ใช่เพราะความต้องการ สำหรับปริมรดาการเลือกอาชีพนี้ เพราะ…
จุดเริ่มต้นของอาชีพ…ขายตัว
“ น้ากาหลง เราจะทำยังไงกันดีคะ ”
ปริมรดากอดกาหลงผู้เป็นน้าสาวที่เปรียบเสมือนแม่ของเธออีกคนที่หน้าโรงพยาบาล เมื่อน้องชายวัยมัธยมประสบอุบัติเหตุขับรถตกแม่น้ำ ทำให้สมองตายต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทรา ไหนจะผู้เป็นแม่ของเธอป่วยด้วยโรคมะเร็งนอนติดเตียงมาร่วม 3 ปีแล้ว ทั้งคู่พักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลโดยมีค่าใช้จ่ายสูง ลำพังผู้เป็นแม่คงจะไม่หนักมาก แต่ตอนนี้ค่าใช้จ่ายยาคูณสอง อาชีพแม่ค้าของกาหลงที่เลี้ยงดูทุกคน กับอาชีพรับจ้างรายวันทั่วไปของปริมรดาและน้องชายก็น้อยนิดซะเหลือเกิน
“ น้าจะพาปริม พาทุกคนให้รอดให้ได้ ” ด้วยค่ายาที่มากโขพอสมควร ทำให้แทบจะไม่พอในแต่ละเดือน ปริมรดาที่ทนเห็นกาหลงวิ่งเต้นหาเงินแบบนี้ไม่ได้ เธอจึงต้องหาหนทางให้ทุกคนอยู่รอด
“ เงินค่ายาของแม่กับเปรมค่ะน้า ”
“ ปริม ลูกไปเอาเงินพวกนี้มาจากไหน ” กาหลงถึงกับตกใจ เมื่อเห็นก้อนเงินหนานี้ เธอคิดไปในทางที่ไม่ดีอย่างทันที
“ ปริมทำงานมาค่ะ ”
“ ทำงานอะไร ทำไมถึงได้เงินมากขนาดนี้ อย่าบอกนะปริมว่าลูก… ”
“ ปริมยอมเป็นกะ*รี่ ถ้าแม่กับเปรมมีเงินค่ายา ให้น้าไม่ต้องเหนื่อยมาก ปริมยอมค่ะน้า ”
“ โถปริม ฮึก… ”
เพราะโชคชะตาชีวิตที่แสนเลวร้าย ทำให้กาหลงผู้เป็นน้าสาวเปลี่ยนอะไรไม่ได้ เธอทำได้แค่ปาดน้ำตาตัวเองแล้วกอดหลานสาวไว้แน่นๆอย่างสงสาร ที่หลานควรจะสนุกกับการใช้ชีวิตในวัยนักศึกษาไม่ใช่มาแบกคำครหาไว้แบบนี้
ถึงจะเป็นอาชีพขายตัวแต่ปริมรดาไม่ได้ขายใจ เธอยอมแลกเกียรติและศักดิ์ศรี ยอมถูกคำครหานินทา ยอมแลกกับสายตาของบุคคลแปลกหน้าตัดสิน เพื่อครอบครัวของเธอจะรอดชีวิต…เธอยอม
~ ข่าวดังกระแสในตอนนี้คงหนีไม่พ้น ข่าวของคุณอัญญา นักแสดงสาวสวยชื่อดังที่มีรางวัลการันตีฝีมือการแสดงมากมาย เมื่อได้เปิดตัวว่ากำลังคบหากับลูกชายเจ้าของโรงงานอุตสหกรรมบริโภคขนาดใหญ่ของเทวาเทพมาร่วม 5 ปีแล้ว ช่างเป็นคู่กิ่งทองใบหยกเหมาะสมกันมากจริงๆ ~
ข่าวดังครึกโครมในหน้าจอโทรทัศน์ติดฝาผนังในห้องพักของปริมดา ชีวาเพื่อนสาวของเธอที่มองอย่างเคลิบเคลิ้ม ราวกับอิจฉาในบุญวาสนาของผู้ถูกกล่าวถึง แต่สำหรับผู้หญิงที่ชื่อ ‘ปริมรดา’ คนนี้ เธอได้แต่มองข่าวน่ายินดีด้วยสายตาที่เงียบเฉย ราวกลับว่าไม่รู้สึกอะไรเอาซะเลย
“ อิจจาคุณอัญญาเนอะมึง ได้คุณเวสารัชทั้งรวยทั้งหล่อเป็นแฟน ”
“ อิจฉาทำไม ” ปริมรดาเอ่ยพร้อมกินบะหมี่อย่างไม่ชายตามอง
“ อีปริม มึงไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ คุณอัญญาเธอดังมากนะ คุณเวสารัชก็รวยมากเจ้าของมาม่าที่มึงแดกอยู่เนี่ย”
“ รู้สึกทำไม กูไม่ได้รู้จัก ”
“ อีดอกปริม มึงไปอยู่ไหนมามาเนี่ย ”
เพราะชีวิตที่ต้องดิ้นรนในเส้นทางสายเปรอะเปื้อน ต้องถูกสายตาดูถูกเหยียดหยาม ต้องถูกคำครหาติฉินนิททาแทบทุกวัน ชีวิตของปริมรดาจึงไม่สนโลกภายนอกเสียแล้ว…
วันหยุดแสนสบาย แต่ต้องปริมรดาต้องมาตามคำสั่งเรียกหาของดุจดาว เจ้านายหรือเรียกง่ายๆว่าแม่เล้าของเธอ ผู้ที่มีพระคุณคอยจัดหาคิวงานให้กับเธอ สถานที่บริการแห่งนี้หรือเรียกอีกอย่างว่าอาบอบนวด ที่เป็นสถานที่ที่คนทั่วไปเรียกว่าการขายบริการแต่ใช้คำว่านวดแทนเพื่อให้ดูสุภาพ
“ วันหยุดแท้ๆ เรียกปริมมาทำไมเนี่ยเจ้ ” ปริมรดาเอ่ยด้วยแอบหงุดหงิดกวนใจ
“ ยัยปริม เจ้มีงานให้ทำ ”
“ วันหยุดปริมไม่รับงานนะเจ้ ” ปริมรดารีบย้ำ ด้วยนิสัยค่อนข้างเอาแต่ใจไม่ว่าลูกค้าคนนั้นจะเสนอเงินค่าตัวให้เธอมากโขสักแค่ไหน ถ้าเธอไม่ก็คือไม่
“ ไม่ได้ให้ทำงานแต่จะวานให้ช่วย เพื่อนเจ้อกหักไม่ออกมาเจอโลก ช่วยไปดูให้หน่อย ”
“ ปริมเป็นกะ*รี่ไม่ได้เป็นนักจิตวิทยาปลอบใครไม่ได้ ไม่ไปอะ ”
“ ยัยปริมช่วยเจ้หน่อย เจ้ต้องไปงานต่างจังหวัดไปไม่ได้ ถือว่าช่วยเพื่อนร่วมโลกเถอะ ” ด้วยบารมีของดุจดาวที่สะสมมา ทำให้ปริมรดาต้องเจียดเวลาวันหยุดของตัวเองเพื่อทำให้
“ ส่งโลเคชั่นมากัน ”
“ ใจสงบๆ อย่าไปด่าเพื่อนเจ้นะยัยปริม ”
“ ไม่รับปากอะไรทั้งนั้นอะ ”
กะหรี่ตัวท็อปกับหนุ่มหล่อเฮิร์ตหนัก จะปะทะคารมกันแค่ไหน รอให้นักอ่านที่น่ารักมาช่วยลุ้นตามกันนะคะ…
💙 ฝากกดหัวใจ กดติดตาม และคอมเมนต์ให้กำลังใจกันด้วยนะคะ 🙏💙