จวนตวนอ๋องในวันนี้มีงานมงคล ทั่วห้องโถงใหญ่ล้วนประดับประดาไปด้วยแถบผ้าและกระดาษสีแดงตัดเป็นลวดลายสวยงาม ภายในบริเวณนั้นยังเต็มไปด้วยกลุ่มคนที่กินดื่มและหัวเราะยินดี
“ตวนอ๋อง ยินดีด้วย"
“ขอแสดงความยินดี"
“ขอให้จวนอ๋องแผ่กิ่งก้านสาขา ส่งเสริมราชวงศ์เราสืบไป”
“ยินดีด้วย ยินดี”
เสียงอวยพรต่างๆ ดังขึ้นเมื่อปรากฏร่างของชายบุรุษหนุ่มในชุดสีแดงมงคลเดินเข้ามาทางประตูที่เชื่อมต่อกับห้องด้านใน
“ขอบคุณทุกท่าน" ชายหนุ่มวัยสามสิบหกปีประสานมือขอบคุณผู้ร่วมงาน สีหน้าของเขามีรอยยิ้มประดับอยู่ คนผู้นี้คือตวนองค์ โอรสองค์โปรดของจักรพรรดิองค์ปัจจุบันแห่งแคว้นต้าซ่ง ทั้งยังเป็นโอรสองค์เล็กในอุทธรณ์หวงโฮ่วน้องชายร่วมบิดามารดาขององค์รัชทายาท
ตวนอ๋องมีดำรงตนเช่นวาณิชย์ไม่ฝักใฝ่ในราชบัลลังก์ นับแต่ออกจากวังหลวงมาสร้างจวนเองก็เริ่มเดินหน้าทำการค้าด้วยความเฉลียวฉลาดอันเป็นเอกลักษณ์แห่งเชื้อพระวงศ์ทั้งได้รับการส่งเสริมจากพระบิดาพระมารดาและพี่ชายอย่างเต็มกำลัง ทำให้ยามนี้ตวนอ๋องนับเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในแคว้นต้าซ่ง มีกิจการมากมายหลายอย่าง ทว่ากิจการที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็นโรงเตี๊ยมเหล่าอาหาร เซียงเซียงเหยาเมิง
ยามแรกรุ่นเมื่อออกจากวังหลวงใหม่ ๆ ได้ออกเดินทางไปทั่วทุกมุมเมืองเพื่อไปคัดสรรสิ่งของชั้นดีขึ้นชื่อเพื่อที่จะนำมาใช้โรงเตี๊ยมด้วยตนเอง ด้วยสายตาอันเฉียบคมเช่นชนชั้นสูงทำให้โรงเตี๊ยมน้องใหม่ของตวนอ๋อง อย่าง เซียงเซียงเหยาเมิงยกระดับกิจการให้เติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็ว จนตอนนี้แตกแขนงขยายสาขาไปทั่วทุกหัวเมืองของต้าซ่งเรียบร้อยแล้ว ไม่เพียงแต่ต้องออกเดินทางไปเสาะแสวงหาของดีด้วยสายตาของตนเอง เขายังให้ความสำคัญแก่รักในเดือนสิบสายสัมพันธ์ของคนในแวดวงทุกชนชั้นเป็นอย่างมาก แม้นตนจะไม่ฝักใฝ่ในบัลลังก์ก็จริงทว่าด้วยเป็นน้องร่วมอุทธรณ์ในรัชทายาทซึ่งพี่น้องรักใคร่ปรองดอง ผู้น้องรักในการทำการค้าไม่ใฝ่หาอำนาจผู้พี่ก็ส่งเสริมไม่อิดออดตั้งแง่ เช่นนี้ผู้น้องมีหรือจะไม่มีใจช่วยเหลือสนับสนุน ฉะนั้นเรือนหลังวังตวนอ๋องจึงเต็มแน่นไปด้วยบุปผางามมากมายที่เขาใช้เป็นสายสัมพันธ์ส่งเสริมการค้าตนและส่งเสริมอำนาจผู้พี่ไปในตัว และที่มาของการจัดงานมงคลในวันนี้ ส่วนหนึ่งก็เพื่อเรื่องเช่นว่านี้ด้วยเช่นกัน
“ท่านอ๋อง งานมงคลของท่านครั้งก่อนข้าไม่ได้มาร่วมยินดี ต้องขออภัยด้วยจริง ๆ" หนึ่งในแขกผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานเข้ามาพูดคุยกับตวนอ๋องด้วยท่าทียิ้มแย้มคล้ายประจบไม่คล้ายสอพลอ
“อย่ากังวลไป ข้ายังต้องพึ่งพาอาศัยพืชพรรณธัญพืชในร้านท่านอยู่ดี" ตวนอ๋องยิ้มแย้มตอบรับกลับ เมื่อสี่ปีก่อนเขาก็เพิ่งจะมีงานมงคลไปครั้งหนึ่ง ครั้งนั้นเป็นการแต่งชายารองขั้นหกชั้นเอก อิ้งซื่อ*คนที่สี่ ในเรือนหลังวังตวนอ๋องมีชายาเอกชายารองอยู่ก่อนหน้านี้แล้วรวมทั้งหมดเจ็ดนาง ไม่นับรวมสาวใช้อุ่นเตียง นางกำนัลขั้นหนึ่งอีกนับไม่ถ้วน ทว่าสาวงามทุกนางกลับสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างดี พี่สาวดูแลน้องสาว น้องสาวเคารพเชื่อฟังพี่สาว เมื่อสาวงามคนใหม่นี้แต่งให้เข้ามาในฐานาชายารองอิ้งซื่อ ก็ต้องปฏิบัติตามธรรมเนียมเช่นกัน
“ได้ฤกษ์แล้ว พาตัวเจ้าสาวเข้ามาได้" เสียงตะโกนของผู้ทำพิธีทำให้การพูดคุยในห้องโถงหยุดลง แขกในห้องโถงต่างก็จ้องไปยังประตูใหญ่ของห้องที่มีแถบผ้าสีแดงผูกโยงจากกลางกรอบด้านบนแล้วแยกมาติดไว้ทุกกรอบประตูทั้งสองด้าน ประดับประดาด้วยดอกไม้ผ้าสีเดียวกัน ทุก ๆ คนต่างก็อยากเห็นเจ้าสาวว่าที่ชายารองคนใหม่ของจวนตวนอ๋องผู้ร่ำรวยทั้งสิ้น
เจ้าสาวในชุดสีแดงก้าวเข้ามาในห้องโถงตามการนำทางของสาวใช้แม้จะมีผ้าคลุมหน้าปิดส่วนของใบหน้าไว้ แต่ก็พอจะคาดเดาถึงความงามที่ซ่อนเอาไว้ได้ โครงหน้างามได้รูป รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น จะต้องเป็นหญิงสาวที่งดงามเป็นแน่ ท่วงท่าสง่างามของเจ้าสาวต่างก็ดึงดูดสายตาของคนในห้องโถงไว้ได้ทั้งสิ้น ตวนอ๋องที่มองเห็นปฏิกิริยาของคนในห้องก็ยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ สายตาของเขาไม่เคยมองพลาด เขารู้ดีว่าสินค้าตัวไหนดี สินค้าตัวไหนเลว กับอิสตรีก็เช่นกัน สาวงามคนใหม่แห่งวังตวนอ๋องนี้เขาก็เป็นผู้เลือกมาด้วยตนเอง
เจ้าสาวถูกพาตัวมายืนที่กลางห้องโถงเคียงข้างกับเจ้าบ่าว คนทั้งสองจับปลายผ้าแพรสีแดงคนละด้าน
“หนึ่ง...คำนับฟ้าดิน" ตวนอ๋องและสาวงามในชุดเจ้าสาวก้มศีรษะไปทางประตูที่เปิดโล่งสู่ด้านนอก
“สอง...คำนับบรรพบุรุษ" ผู้เป็นเจ้าสาวมีสาวใช้คอยช่วยประคองให้หันหน้าไปให้ถูกทิศ คนทั้งสองก้มศีรษะให้แก่แผ่นจำลองป้ายวิญญาณของบรรพชน
“สาม...บ่าวสาวคำนับกันและกัน" ผู้เป็นเจ้าสาวถูกจัดให้หันหน้าไปทางผู้เป็นเจ้าบ่าว คนทั้งสองก้มศีรษะให้กันและกัน
“ส่งตัวเจ้าสาวได้" สิ้นเสียงประกาศของพิธี ผู้เป็นเจ้าสาวก็ถูกจูงมือออกไปจากโถงพิธีอย่างรวดเร็ว เมื่องานพิธีเสร็จสิ้น แขกเหรื่อที่รออยู่แล้วต่างก็ยกจอกสุรามงคลเข้ามาล้อมเจ้าบ่าวเพื่อดื่มสุราแสดงความยินดีทันที
“ยินดี ยินดี ยินดีน้อมรับการคารวะสุราจากทุกท่าน" เมื่อมีคนยกจอกสุราคารวะ ตวนอ๋องก็ยิ้มอย่างยินดี เขายกจอกสุราของตัวเองดื่มลงไปจอกแล้วจอกเล่าโดยไม่อิดออดแม้แต่น้อย
แท้จริงแล้วการรับชายารองก็ไม่ต่างจากรับอนุคนหนึ่งไม่จำเป็นต้องจัดพิธีอะไรให้ใหญ่โตจะทำเพียงรับเข้ามาแล้วก็ผ่านไปเฉย ๆ ก็ยังได้ ทว่าในเมื่อเป็นชายารองในตวนอ๋องอีกทั้งการจัดงานเลี้ยงเชิญแขกมาร่วมกินดื่มย่อมดึงดูดสิ่งมงคลดีดีให้หลั่งไหลเข้ามา จวนตวนอ๋องจึงจัดพิธีแต่งงานขึ้นทุก ๆ การรับชายารอง แม้แต่รับอี๋เหนี๋ยงเล็ก ๆ บางคราวก็ไม่วายมีการจัดงานเลี้ยงน้ำชาสักหลายโต๊ะไม่ได้ด้วยเช่นกัน ก็เพื่อกิจการและแผ่ขยายความสัมพันธ์ให้ตนและพี่ชายทั้งนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับการให้เกียรติหรือยกย่องสตรีคนไหน ๆ แม้แต่น้อย
*ลำดับขั้นชายาในจวนอ๋อง ในที่นี้มีประกอบด้วย ชายาเอก หวังเฟย และชายารอง ซึ่งชายารอง แบ่งเป็นสองขั้น คือ ขั้นห้าชั้นเอก เรียกว่า หรูเหริน ตั้งได้สองคน และขั้นหกชั้นเอก เรียกว่า อิ้งซื่อ ตั้งได้สิบคน