เธอหลงรักและฝันใฝ่ที่จะแต่งงานกับเขามาเนิ่นนาน แต่พอความปารถนาสมหวัง ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ เขาและครอบครัวรังเกียจเธอเสียยิ่งกว่าอะไรดี แถมเมียอีกคนของเขาก็ยังกลั่นแกล้งกันไปเสียสารพัด เธอจึงพยายามเป็นนางร้ายแต่สุดท้ายเขาก็ไม่เคยเข้าข้างเธอ
เคยชังน้ำหน้ายิ่งกว่าสิ่งใดในแผ่นดิน
บัดนี้…
เพียงมิได้กลิ่นกายไว้ใกล้ตัว
ก็รู้สึกปางตายดั่งสิ้นชีวา
———————————————
“เจ้าคิดจักหนีผัวรึ?”
เขาเรียกแทนตัวเองได้เต็มปากเต็มคำ แต่แม่หญิงปทุมมากลับไม่ตอบอะไร ความเงียบนี้ยิ่งทำให้เขาโมโหหนัก
“ เจ้าเป็นเมียข้าแล้ว อย่าคิดจักหนีข้า เพราะต่อให้อยู่เหนือฟ้าหรือใต้ดิน ข้าก็จักตามรังควานไม่จบไม่สิ้น เฉกเช่นดั่งพ่อเจ้า หากข้ารู้ว่าหนีไปอยู่ที่ใด ข้าก็จักตามไปฟันคอเสีย ”
“ นั่นพ่อข้าหนาเจ้าคะ! ”
“ แล้วอย่างไร! ”
ถึงเธอจะเถียงทันควัน แต่เขาก็ตะคอกกลับทันควันกว่า สองมือเล็กกำแน่น น้ำตาก็เริ่มจะคลอจนเอ่อล้นออกมา
“ คนที่นี่เหยียบย้ำหัวใจข้า ข้าทนได้ แต่หากเป็นคุณพี่…คุณพี่ที่เป็นสามีข้า ข้าทนไม่ได้ ”
“ ข้าไปเหยียบย่ำหัวใจเจ้าตั้งแต่เมื่อใด? ”
“ ก็ทำอยู่อย่างไรเล่าเจ้าคะ คุณพี่ทำอยู่ตลอด อย่าคิดว่าข้ามิรู้ว่าเมื่อก่อนจะลงมาที่นี่ คุณพี่ก็คงไปหารือเรื่องแต่งงานกับอีนางเกสรนั่น! ”
นิสัยเดิมของแม่หญิงตรงหน้าเริ่มกลับมา มันเป็นนิสัย น้ำเสียง และสายตาที่เขาโคตรไม่ชอบ แล้วเขาก็ไม่อยากเห็นเธอแสดงท่าทางกริยาเช่นนี้
“ หยุดทำกริยาต่ำสถุนเรียกแม่เกสรว่าอีเสียที นางเป็นถึงลูกเจ้าพระยา มิใช่บ่าวไพร่ที่เจ้าจักจิกหัวเรียกเมื่อใดก็ย่อมได้! ”
“ อย่าคิดว่าแต่งเข้ามาแล้วจะอยู่กันอย่างสงบสุข หากคุณพี่คิดเช่นนั้น คุณพี่คิดผิด ”