“ยัยส้มซ่า! เอาอีกแล้วเรอะ” เสียงทุ้มของพ่อเลี้ยง ‘ทิวเขา’ วัยสามสิบปีโวยวายเมื่อรถคันโปรดของเขาถูกปล่อยลมยางทั้งสี่ล้อจนแบนแต๊ดติดพื้นเป็นหนที่สี่ของเดือน! และคนร้ายก็ไม่ใช่ใครที่ไหนด้วยชายหนุ่มรู้ตัวคนกระทำความผิดนี้อยู่แกใจดี ไม่ต้องเปิดกล้องวงจรปิดเพื่อหาตัวด้วยซ้ำ
“เกิดอะไรขึ้นคะพ่อเลี้ยง เสียงดังโวยวายไปถึงด้านในเลย” แม่บ้านประจำของเขาที่ทำงานมาตั้งสมัยบิดามารดาของเขายังสาวๆ จนตอนนี้พากันเข้าวัดเข้าวาบ้านช่องไม่กลับ หายหน้าหายตาไปหลายเดือนกว่าจะได้เจอกันสักครั้ง
“แม่ตัวดีเอาอีกแล้วครับ สงสัยปีนรั้วบ้านเข้ามาอีกแหง”
“อุ๊ยตายแล้ว จริงหรือคะเนี่ย แหม...ซนจริงๆ เด็กคนนี้” ป้าจันทร์พูดกลั้วหัวเราะอย่างเอ็นดู
“ซนเหรอครับป้า รุ่นนี้ไม่เรียกซนแล้วครับ นี่มันเด็กบ้าชัดๆ คราวนี้ผมต้องเอาเรื่อง ไม่อย่างนั้นจะได้ใจแล้วก่อเหตุซ้ำซาก” บอกด้วยน้ำเสียงคุกรุ่นก่อนจะเดินออกจากบ้านไปยังอีกฝั่งของถนนซึ่งเป็นบ้านของ ‘เด็กบ้า’ ที่ชายหนุ่มพูดถึง
‘ส้มซ่า’ วัยยี่สิบสอง เด็กสาวเพิ่งเรียนจบกลับมาอยู่บ้านได้เพียงสองเดือนกำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่อย่างอารมณ์ดี เสียงผิวปากเป็นทำนองเพลงบ่งบอกได้ว่าเจ้าตัวมีความสุขแค่ไหน แหงล่ะ...เธออุตส่าห์ลุงทุนปีรั้วเข้าไปในบ้านของพ่อเลี้ยวทิวเขาตอนตีสองแล้วปล่อยลมยางรถอีกฝ่ายทั้งหมด จะไม่ให้สดชื่นแจ่มใสได้อย่างไร
พลั่ก
“ว้าย!” คนตัวเล็กถูกเจาะยางด้วยการแทงเข่าเข้ามาที่ข้อพับของเธอจนทรุด ทำเอาทรงตัวไม่อยู่หน้าเกือบทิ่ม โชคดีที่คว้ารั้วบ้านเอาไว้ได้ทันก่อนจะหันมามองหน้าคนทำ ทิวเขายืนยิ้มมุมปากอย่างสะใจอยู่ “พี่ทิวเขา! ทำอะไรเนี่ย”
“เธอเจาะยางรถฉันใช่ไหมยัยตัวแสบ ฉันก็แค่มาเจาะคืน”
“เจาะคืนบ้าอะไรล่ะ รถฉันจอดอยู่นู่นต่างหาก พี่ไปเจาะยางรถสิ ไม่ใช่มาเจาะยางฉัน” คำพูดที่ไม่ทันได้คิดอะไรทว่ากลับทำให้คนฟังรวมถึงตัวคนพูดเองรู้สึกทะแม่งๆ ชอบกล
“เอาเป็นว่า...ครั้งนี้ฉันไม่ยอมอีกแล้ว เธอต้องลากรถฉันไปที่ร้าน”
“ฉันไม่ทำ” หล่อนกอดอกเชิดหน้าไม่สะทกสะท้าน พ่อเลี้ยงทิวเขากัดฟันกรอดพยายามระงับอารมณ์สุดฤทธิ์ ถ้าไม่ติดว่าเธอเป็นน้องสาวของเพื่อนสนิทเขาและเห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ ชายหนุ่มคงเขกกะโหลกให้หายซ่าไปแล้ว
เมื่อก่อนยังคอยวิ่งตามเขาต้อยๆ เป็นเด็กดีน่ารัก พูดอะไรก็เชื่อฟังแท้ๆ ทว่าพอขึ้นมัธยมปลายเท่านั้นกลับกลายเป็นคนละคน เอาแต่หาเรื่องแกล้งแถมยังชอบตีฝีปากใส่กันประจำจนเขารู้กันทั้งอำเภอแล้วว่าพ่อเลี้ยวทิวเขาเจ้าของไร่ส้มที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกับส้มซ่า ลูกสาวคนเล็กของเจ้าของร้านขายของฝากที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนั้นเป็นคู่กัดกัน
“แต่เธอต้องทำ มานี่เลย” ไม่พูดเปล่า เขายังคว้าแขนเล็กแล้วออกแรงจะลากกลับบ้านให้ได้ ส้มซ่าไม่ยอม ทั้งถีบทั้งผลักเขาแต่สู้แรงคนตัวโตกว่าไม่ไหว เลยตัดสินใจเอาสายยางในมือหันไปทางร่างสูงแล้วฉีดน้ำใส่ซะ
“นี่แน่ะๆๆ ไม่ปล่อยใช่ไหม งั้นก็อาบน้ำไปเลย”
“หยุดเดี๋ยวนี้ยัยเด็กบ้า ฉันบอกให้หยุด!” มือข้างหนึ่งยกขึ้นบังหน้าเอาไว้เพื่อไม่ให้น้ำฉีดเข้าใส่ ส่วนมือข้างที่จับแขนหล่อนไว้ยังคงจับแน่นไม่ปล่อย เขาเดินฝ่าแรงดันน้ำเข้าไปประทั่งถึงตัวเด็กแสบก่อนตัดสินใจกระชากคนตัวเล็กเข้ามาหาแบบเต็มแรงจนส้มซ่าตั้งตัวไม่ทัน
หมับ!
เธอเซถลาเข้าสู่อ้อมกอดของเขา ใบหน้าซุกลงบนแผงอกกว้าง ส่วนมือของเขาเลื่อนลงไปโอบเอวเล็กไว้แทน ส้มซ่าแหงนหน้าขึ้นมองคนตัวสูงกว่าอย่างตกใจเช่นเดียวกับทิวเขา ชายหนุ่มไม่ได้ตั้งใจจะสร้างความใกล้ชิดแบบนี้ เพียงแต่ต้องการจะหยุดความแสบของเธอให้ได้ก็เท่านั้น
“ปะ...ปล่อยฉันนะ”
“ถ้าฉันปล่อย เธอจะหยุดบ้าไหม”
“ไม่”
“งั้นฉันไม่ปล่อย” เมื่อได้รับการปฏิเสธกลับมา ร่างสูงจึงกระชับวงแขนแน่นขึ้น แถมยังเพิ่มจากหนึ่งเป็นสองอีกด้วย ตอนนี้หล่อนถูกเขาล็อกไว้ด้วยการกอดจนต้องใช้สองมือวางแนบไปกับอกแร่งเต็มไปด้วยมัดกล้ามเพื่อสร้างช่องว่างระหว่างกัน ถ้าไม่ทำแบบนี้...
...หัวใจของเธอคงเต้นแรงจนแทบระเบิดแน่ๆ