จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ "อสูรขยะ" ที่ทุกคนดูแคลน...กลับกลายเป็นไพ่ตายที่จะสั่นสะเทือนบัลลังก์ทวยเทพ!
หลินเย่ คือทายาทคนสุดท้ายของตระกูลผู้พิทักษ์ที่ล่มสลาย เขาหวนกลับมาเกิดใหม่ในยุคที่อำนาจตัดสินกันด้วย "อสูรอัญเชิญ" พร้อมกับความทรงจำที่ขาดหายและความสามารถ "โกง" หนึ่งเดียวที่ไม่มีใครในโลกนี้มี: การหลอมสร้างและซ่อมแซมวิญญาณอสูรที่บกพร่อง!
ในสถานศึกษามังกรครามที่เต็มไปด้วยอัจฉริยะและตระกูลสูงศักดิ์ การที่หลินเย่ทำสัญญาได้เพียง "จิตวิญญาณหลิว" อสูรไม้ระดับสามัญที่มีตำหนิจนไม่มีวันเติบโต ทำให้เขากลายเป็นตัวตลกที่ถูกเหยียดหยาม แต่ใครจะรู้ว่าภายใต้สายตาดูแคลนเหล่านั้น เด็กหนุ่มกำลังปลุกพลังที่แท้จริงของอสูร "ขยะ" ให้กลายเป็นตำนาน!
จากเด็กหนุ่มผู้ถูกทอดทิ้ง สู่การเดินทางเพื่อเปิดโปงแผนการสมคบคิดที่ทำลายล้างตระกูล ท้าชนกับ "จินฮุย" คู่แข่งอัจฉริยะผู้หยิ่งผยอง และต้องปะทะกับ "นิกายไร้วิญญาณ" ลัทธิชั่วร้ายที่มองอสูรเป็นเพียงเครื่องมือใช้แล้วทิ้ง
มาร่วมเป็นพยานในการเดินทางของหลินเย่ ที่จะใช้ความรู้จากชาติก่อนและสองมือของเขา พลิกชะตาสรรพสิ่ง เปลี่ยนอสูรชั้นต่ำให้กลายเป็นอสูรเทวะ ท้าทายโชคชะตา และประกาศนามให้สะเทือนไปทั้งสามภพ! นี่คือตำนานของจอมอสูรที่จะทำให้แม้แต่ทวยเทพยังต้องหวาดกลัว!
โลกแห่งชางหลาน (沧澜界) และกฎแห่งจักรวาล
คำอธิบาย: ชางหลาน คือชื่อของดินแดนมนุษย์ มหาทวีปอันกว้างใหญ่ที่ถูกล้อมรอบด้วยสี่มหาสมุทร โลกใบนี้ขับเคลื่อนด้วยกระแสแห่งพลังวิญญาณ (魂力) และกฎแห่งธาตุต่างๆ โครงสร้างของมิตินี้เชื่อมโยงอย่างลึกซึ้งกับมิติวิญญาณที่สูงกว่า อันเป็นต้นกำเนิดของอสูรอัญเชิญทั้งมวล
กฎแห่งจักรวาล - หลักการแห่งเสียงสะท้อน (The Echo Principle): แนวคิดหลักของโลกนี้คือ สรรพสัตว์ที่ถูกอัญเชิญมายังดินแดนชางหลานเป็นเพียง "เสียงสะท้อน" หรือ "เงาฉาย" ของตัวตนที่แท้จริงซึ่งสถิตอยู่ในมิติวิญญาณที่สูงกว่า เช่น มิติวิญญาณ หรือมิติสวรรค์
ประวัติศาสตร์แห่งยุคสมัย: จากยักษ์ไททันสู่สถานศึกษา
ยุคบรรพกาลแห่งความโกลาหล (混沌时代): ยุคแห่งความว่างเปล่าไร้รูปแบบ ซึ่งถูกแทนตัวตนด้วยอมนุษย์นามว่า ฮุ่นตุ้น (Hundun) ยุคนี้สิ้นสุดลงพร้อมกับการถือกำเนิดของสิ่งมีชีวิตแรก
ยุคแห่งอสูรเทวะ (神兽时代): โลกเริ่มก่อร่างสร้างตัว ปกครองโดยจตุรเทพสัตว์มงคล อันได้แก่ มังกรคราม วิหคชาด พยัคฆ์ขาว และเต่าดำ พวกมันคือบรรพบุรุษของเผ่าพันธุ์อสูรหลักทั้งปวง (สัตว์มีเกล็ด สัตว์มีปีก สัตว์มีขน และสัตว์มีกระดอง) ซึ่งเป็นการสร้างที่มาของสรรพสัตว์ในโลกที่ชัดเจนและสอดคล้องกับตำนาน
ยุคแห่งจอมมาร (修罗时代): จตุรอสูร (เถาเที่ย, เถาอู้, ฉงฉี และร่างที่แท้จริงของฮุ่นตุ้น) ได้ทำลายผนึกออกมาและก่อสงครามกับเหล่าอสูรเทวะ ผลักดันให้โลกเข้าสู่ยุคแห่งการทำลายล้าง สงครามครั้งนี้จบลงด้วยการผนึกพวกมันอีกครั้งโดยความร่วมมือของมนุษย์ยุคโบราณและอสูรฝ่ายคุณธรรม ทิ้งไว้ซึ่งดินแดนต้องสาปและเขตต้องห้ามซึ่งจะกลายเป็นสถานที่ผจญภัยที่สำคัญในภายหลัง
ยุคแห่งจักรพรรดิ (帝王时代): มนุษยชาติรุ่งเรืองขึ้น จักรพรรดิองค์แรกได้เรียนรู้การทำพันธสัญญากับอสูร ก่อตั้งราชวงศ์และระบบการปกครองที่จำลองมาจากโครงสร้างของจีนโบราณ ตระกูลหลิน บรรพบุรุษของตัวเอก เป็นบุคคลสำคัญในยุคนี้ พวกเขาเป็นที่รู้จักในนาม "ผู้พิทักษ์แห่งผนึก" ซึ่งคอยดูแลผนึกของจตุรอสูร
ยุคปัจจุบัน - ยุคแห่งสถานศึกษา (学院时代): วิธีการอัญเชิญถูกจัดระบบและถ่ายทอดในสถานศึกษาขนาดใหญ่ อำนาจได้เปลี่ยนจากตระกูลจักรพรรดิที่สืบทอดทางสายเลือด ไปสู่การผสมผสานระหว่างตระกูลเก่าแก่ กลุ่มอำนาจการค้าใหม่ และสถาบันที่ทรงอิทธิพลอย่างสมาคมผู้อัญเชิญ ฉากหลังนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับตัวเอกหนุ่มที่จะไต่เต้าขึ้นมาด้วยความสามารถ ไม่ใช่เพียงเพราะชาติกำเนิด
ศาสตร์แห่งการอัญเชิญ (召喚術): ห้าวิถีศักดิ์สิทธิ์
1. พันธสัญญาวิญญาณ (灵契): วิธีที่แพร่หลายที่สุด ผู้อัญเชิญใช้พลังวิญญาณของตนเพื่อสร้างสายสัมพันธ์โดยความยินยอมกับอสูรในธรรมชาติ ความแข็งแกร่งและความเข้ากันได้ของจิตวิญญาณของผู้อัญเชิญจะเป็นตัวกำหนดคุณภาพของอสูรที่สามารถทำสัญญาได้ นี่คือพื้นฐานสำหรับนักเรียนส่วนใหญ่ในสถานศึกษา
2. สัตย์สาบานโลหิต (血誓): วิธีการที่สืบทอดกันมาในตระกูลโบราณ สายเลือดที่เฉพาะเจาะจงจะถูกปรับให้เข้ากับสายพันธุ์อสูรที่เฉพาะเจาะจง (เช่น ตระกูลเหยียน (炎) สามารถทำพันธสัญญากับอสูรธาตุไฟเท่านั้น) วิธีนี้ทรงพลังแต่ก็มีข้อจำกัด เป็นรากฐานของอำนาจและความหยิ่งทะนงของเหล่าขุนนางยุคเก่า
3. สื่อวัตถุอาคม (法器媒介): การใช้วัตถุเฉพาะทาง เช่น เกล็ดมังกรโบราณ, ขนนกฟีนิกซ์, หรือเทวรูปปีศาจต้องสาป เพื่ออัญเชิญตัวตนที่เฉพาะเจาะจงหรือเกี่ยวข้องกับวัตถุนั้นๆ นี่เป็นวิธีหลักในการได้มาซึ่งอสูรที่หายาก แปลกประหลาด หรือแม้กระทั่งอสูรจากต่างโลกที่ไม่มีในชางหลาน ซึ่งจะเป็นตัวขับเคลื่อนเนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับการสำรวจ การบุกสุสาน และการประมูล
4. การหลอมสร้างวิญญาณ (炼魂): ความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของหลินเย่ที่ได้มาจากการกลับชาติมาเกิด เขาสามารถรับรู้ถึง "รหัสต้นกำเนิด" ของวิญญาณอสูร ทำให้เขาสามารถระบุและซ่อมแซม "ตำหนิแห่งวิญญาณ" (魂之瑕疵) ได้ ความสามารถนี้ทำให้เขา:
สามารถฝึกฝนอสูรที่ถูกมองว่าเป็น "ขยะ" หรือ "มีตำหนิ" และปลดล็อกศักยภาพที่ซ่อนอยู่ของพวกมัน
สามารถรักษาอาการบาดเจ็บทางวิญญาณที่รุนแรงของอสูรได้ ทำให้ได้รับความภักดีจากพวกมัน
สามารถข้ามข้อกำหนดความเข้ากันได้ตามปกติ ทำให้เขาสามารถทำสัญญากับอสูรธาตุตรงข้ามได้ นี่คือ "ความสามารถโกง" หลักของเขาและเป็นที่มาของความขัดแย้งและความอิจฉาริษยามากมาย
5. ศาสตร์มรณะต้องห้าม (禁忌死灵术): ศาสตร์ของนิกายไร้วิญญาณ เกี่ยวข้องกับการใช้คาถาอัญเชิญวิญญาณและคาถาปลุกเสก เพื่อบังคับผูกมัดวิญญาณของผู้ตาย หรือกดขี่ตัวตนจากมิติปีศาจให้เป็นทาส เป็นเส้นทางที่ทรงพลังแต่ก็นำมาซึ่งความเสื่อมทราม ทำลายดวงวิญญาณของผู้ใช้และสร้างอสูรกายที่น่าเกลียดน่ากลัวและไม่เสถียร
กระแสแห่งพลังวิญญาณ (魂力): สิบระดับขั้นแห่งการบำเพ็ญเพียร
ระบบการพัฒนาที่ชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ระบบนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากระดับพลังใน พงศาวดารภูตเทพ แต่ใช้ชื่อเรียกที่เฉพาะเจาะจงทางวัฒนธรรมมากขึ้น แต่ละระดับขั้นจะแบ่งออกเป็น 5 ดาว (1 ดาว ถึง 5 ดาว)
ทองแดง (铜阶): ระดับเริ่มต้นสำหรับผู้อัญเชิญทุกคน
เงิน (银阶): ระดับมาตรฐานของนักเรียนในสถานศึกษา
ทอง (金阶): นักเรียนชั้นยอดและทหารยามประจำเมือง
ทองคำดำ (黑金阶): ผู้อาวุโสประจำเมือง สมาชิกตระกูลที่ทรงพลัง
ตำนาน (传奇阶): ระดับของวีรบุรุษที่รู้จักไปทั่วทั้งทวีป การไปถึงระดับนี้ถือเป็นก้าวสำคัญ
ชะตาสวรรค์ (天命境): ตัวตนที่เริ่มเข้าใจกฎแห่งจักรวาล
บรรพชนนักรบ (武祖境): ผู้ที่สามารถก่อตั้งราชวงศ์หรือนิกายที่ยิ่งใหญ่ได้
กึ่งเทวะ (半神境): ตัวตนที่อยู่เหนือโลกมนุษย์ ไม่ค่อยปรากฏตัวให้เห็น
เทพวิญญาณ (灵神境): ผู้เป็นอมตะอย่างแท้จริง สามารถขึ้นไปสู่มิติที่สูงกว่าได้
จักรพรรดิเทวะ (神帝境): ระดับสุดท้ายในตำนาน ตัวตนที่สามารถสร้างกฎเกณฑ์และโลกของตนเองได้
เมทริกซ์แห่งธาตุ: แปดเสาหลักแห่งพลัง
ด้วยแรงบันดาลใจจากธาตุทั้งห้าของจีน (อู่สิง) และธาตุในแฟนตาซีตะวันตก ได้มีการสร้างระบบที่เอื้อต่อปฏิสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์ที่ซับซ้อน
ธาตุหลัก: ไฟ (火), น้ำ (水), ดิน (土), ลม (风), สายฟ้า (雷), โลหะ (金), ไม้ (木)
ธาตุหายาก: แสง (光), เงา (暗)
การจำแนกและการเติบโตของอสูร
ระดับความหายาก: สามัญ (凡), ไม่สามัญ (良), หายาก (珍), มหากาพย์ (史诗), ตำนาน (传说), เทพนิยาย (神话) ระดับความหายากจะเป็นตัวกำหนดค่าสถานะพื้นฐานและขีดจำกัดสูงสุดของศักยภาพของอสูร
การปลุกพลัง (觉醒): พิธีกรรม "ปลุกพลัง" ได้ การปลุกพลังจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ของอสูร, เปลี่ยนชื่อ (เช่น "หมาป่า" กลายเป็น "เฟนริร์"), ปลดล็อกทักษะติดตัวหรือทักษะใช้งานใหม่ที่ทรงพลัง และเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอกอย่างมาก นี่คือการเพิ่มพลังครั้งสำคัญและเป็นเป้าหมายหลักของผู้อัญเชิญ
ตัวเอก: หลินเย่ (林夜) - ทายาทคนสุดท้าย
นามสกุล: หลิน (林) หมายถึง "ป่า" ซึ่งเชื่อมโยงเขากับธาตุไม้และมรดกของตระกูล
ชื่อ: เย่ (夜) หมายถึง "กลางคืน" ซึ่งบอกเป็นนัยถึงความสัมพันธ์ที่ซ่อนอยู่กับธาตุเงาและธรรมชาติที่เงียบขรึมและช่างสังเกตของเขา
ประวัติ: กลับชาติมาเกิดจากโลกยุคปัจจุบัน แต่มีความพิเศษคือดวงวิญญาณของเขาได้หลอมรวมเข้ากับเศษเสี้ยววิญญาณของตัวตนบรรพกาลจาก "ยุคแห่งจอมมาร" ของชางหลาน สิ่งนี้ทำให้เขามีความทรงจำที่กระจัดกระจายเกี่ยวกับเทคนิคโบราณ ตำนานที่หายสาบสูญ และความสามารถ "การหลอมสร้างวิญญาณ" แต่ในขณะเดียวกันก็แบกรับภาระความรับผิดชอบและความเกลียดชังที่หยั่งรากลึกต่อเจ้าแห่งนิกายไร้วิญญาณ
บุคลิก: สุขุม, ช่างวิเคราะห์ และมองโลกตามความเป็นจริงจากชาติก่อน แต่ก็ภักดีอย่างยิ่งต่อคนที่เขาห่วงใย เขามักจะถูกประเมินค่าต่ำไปเพราะเริ่มต้นด้วยอสูร "ขยะ" แต่เขาใช้ความรู้และทักษะพิเศษของเขาเพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังและหยิ่งยโสกว่า
อสูรเริ่มต้น: จิตวิญญาณหลิวพันปี (千年柳精) อสูรธาตุไม้ระดับสามัญที่มีตำหนิทางวิญญาณรุนแรงจนไม่สามารถวิวัฒนาการได้ หลินเย่ได้ซ่อมแซมตำหนินี้ ทำให้มันกลายเป็นคู่หูที่ภักดีที่สุดและทรงพลังอย่างน่าประหลาดใจ
ตระกูลหลินที่ล่มสลาย (林家)
ประวัติ: ครั้งหนึ่งเคยเป็นตระกูลขุนนางผู้ยิ่งใหญ่ "ผู้พิทักษ์แห่งป่าบูรพา" มีหน้าที่ปกป้องผนึกของอสูร เถาอู้ (梼杌) พวกเขาถูกใส่ร้ายว่าพยายามทำลายผนึกโดยตระกูลคู่แข่ง (ตระกูลจิน) ที่ร่วมมือกับนิกายไร้วิญญาณ นำไปสู่ความอัปยศและการสังหารหมู่
มรดก: พวกเขาเป็นปรมาจารย์ด้านอสูรธาตุไม้และธาตุชีวิต เชี่ยวชาญในเทคนิคการเติบโต การรักษา และการพันธนาการ มรดกตกทอดของตระกูลคือ "เมล็ดพันธุ์แห่งอิกดราซิล" ซึ่งเป็นสื่อวัตถุอาคมระดับเทพนิยายที่หลินเย่ต้องตามหากลับคืนมา
ตัวละครสมทบที่สำคัญ
คู่แข่ง: จินฮุย (金辉) - "ประกายทอง" ทายาทแห่งตระกูลจิน (金 - โลหะ/ทองคำ) ตระกูลที่แย่งชิงตำแหน่งของตระกูลหลินไป เขาเป็นคนหยิ่งยโส ทรงพลัง และเชี่ยวชาญในอสูรประเภทโลหะที่ดุดันและเฉียบคม เช่น
"อินทรีดาบขนนกทองคำ" เขาทำหน้าที่เป็นปฏิปักษ์หลักในช่วงภาคสถานศึกษา
นางเอก: ซูเยว่ (苏月) - "จันทร์ฟื้นคืน" เด็กสาวลึกลับและมีความสามารถสูงจากตระกูลพ่อค้า ไม่ใช่ตระกูลขุนนาง เธอเป็นอัจฉริยะด้านการอัญเชิญด้วยสื่อวัตถุ สามารถระบุและจัดหาสื่อวัตถุที่หายากได้ อสูรประจำตัวของเธอคือ "กระต่ายจันทรา" (月兔) อสูรที่ดูเหมือนไม่มีพิษมีภัย แต่แท้จริงแล้วเป็นอสูรสนับสนุนธาตุแสงที่หายากและมีความสามารถในการรักษาและเสริมพลังอย่างไม่น่าเชื่อ เธอกลายเป็นพันธมิตรคนสำคัญและคนรักของหลินเย่ ชื่อของเธอ "ซู" หมายถึง "ฟื้นคืน" ซึ่งบอกเป็นนัยถึงความเชี่ยวชาญในการรักษาของเธอ
อาจารย์: ผู้อาวุโสเฝิง (冯长老) - ผู้อาวุโสที่แปลกประหลาดแต่เปี่ยมด้วยปัญญาในสถานศึกษามังกรคราม เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่มองข้ามอสูรเริ่มต้นที่อ่อนแอของหลินเย่และตระหนักถึงความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในวิญญาณอสูรของเขา เขาคอยชี้แนะหลินเย่อย่างลับๆ ให้ความรู้และทรัพยากรที่สำคัญแก่เขา นามสกุลของเขา เฝิง (冯) สามารถหมายถึง "แช่แข็ง" หรือ "ควบม้า" ซึ่งบ่งบอกถึงธรรมชาติที่ซ่อนเร้นและทรงพลัง
ฝ่ายปฏิปักษ์: นิกายไร้วิญญาณ (无魂教)
อุดมการณ์: พวกเขาเชื่อว่าวัฏจักรแห่งการเวียนว่ายตายเกิดเป็นคำสาป และอิสรภาพที่แท้จริงอยู่ที่การเป็นอมตะในสภาพไร้ชีวิตหรือการหลอมรวมกับตัวตนจากมิติปีศาจ พวกเขามองว่าอารมณ์และสายสัมพันธ์ของมนุษย์เป็นจุดอ่อน เป้าหมายของพวกเขาคือการทำลายผนึกของจตุรอสูรเพื่อผลักดันให้โลกเข้าสู่สภาวะพลังงาน "บริสุทธิ์" อันโกลาหล ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าจะทำให้บรรลุถึงการอยู่เหนือทุกสรรพสิ่งได้
วิธีการ: พวกเขาฝึกฝนศาสตร์มรณะต้องห้าม สร้างกองทัพ
เจียงซือ (僵尸) ,
กูล (食尸鬼) และอสูรปีศาจพันธุ์ผสมที่บิดเบี้ยว เหล่าผู้นำของพวกเขาสร้างพันธสัญญากับปีศาจและเดวิลที่ทรงพลัง