คิดคดก่อกบฏล้มล้างราชวงศ์ ตระกูลซูหนึ่งในสามตระกูลใหญ่แคว้นเจ้า ร่วมก่อตั้งแคว้นตั้งแต่รัชกาลแรกสร้างรากฐานตั้งแต่เริ่มก่อเกิด ร้อยปีผันผ่านจากมีคุณเปลี่ยนเป็นมีภัย รากฐานแน่นหนาสร้างรอยกังขา อำนาจมีผู้ใดบ้างไม่ต้องการ ทรัพย์สมบัติมีผู้ใดบ้างไม่อยากได้ หากตระกูลซูล่มสลายขุมอำนาจหายไปหนึ่ง ย่อมมีผู้คนเฝ้ารอทดแทน
สิบปีก่อนฮูหยินซูรับบุตรีของน้องสาวต่างแม่มาชุบเลี้ยงคนหนึ่งด้วยความเวทนา เลี้ยงดูอย่างดีไม่ต่างจากบุตรชายหญิงของตน ผู้ใดจะรู้ว่าความเมตตาครั้งนั้นจะนำมาสู่การล่มสลายของตระกูลซู
จางฟางเซียนร่วมมือกับผู้อื่นใส่ร้ายตระกูลซู นำพาตระกูลซูสู่ความวิบัติ ซูโยวเหลียนบุตรีคนโตครั้งหนึ่งเคยนึกเอ็นดูจางฟางเซียนผู้นี้ไม่ต่างจากน้องสาวแท้ ๆ รักใคร่เอ็นดู ให้ทุกสิ่งอย่างเท่าเทียมกับซูหลิงอี้ แต่แท้จริงแล้วจางฟางเซียนกลับชิงชังซูโยวเหลียนเป็นที่สุด
ครั้งแรกสร้างข่าวลือเน่าเหม็นสาดโคลนให้ซูโยวเหลียนเสื่อมเสียชื่อเสียง
ครั้งสองยื้อแย่งคนรักที่กำลังจะหมั้นหมายกับซูโยวเหลียน
ครั้งที่สามสร้างสถานการณ์ทำให้ชาวเมืองเข้าใจผิดคิดว่านางเป็นสตรีอุ่นเตียงคนขายหมู จนภรรยาของเขาเข้ามาทุบตีด่าทอกลางตลาด สตรีแพศยาแห่งเมืองชิงเฉิง นั่นคือชื่อที่ผู้อื่นเอ่ยถึงนาง และครั้งสุดท้ายร่วมมือกับผู้อื่น ใส่ร้ายตระกูลซูจนต้องโทษประหารทั้งตระกูล
***********
“เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร!”
เสียงนางสั่นเครือ ทั้งตกใจทั้งตื่นตระหนก
เขายิ้มเย็น ดวงตาคมกริบดั่งคมมีดจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของนาง
ก่อนจะตอบช้า ๆ ด้วยเสียงต่ำเยือกเย็นจนน่าขนลุก
“คิดว่าเจ้าจะหนีพ้นหรือ? ข้าบอกเจ้าไปแล้ว แม้เจ้าจะตาย ข้าก็จะลากเจ้ากลับมา!”
“แต่เรา... หย่ากันแล้ว!” นางแทบตะโกนออกไป
“หย่า?”
เขาหัวเราะเบา ๆ อย่างดูแคลน
“ข้าไม่เคยหย่ากับเจ้า ซู โยว เหลียน”
น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือก ดุดันราวกับพายุ
“รีบจัดการเรื่องหมั้นหมายนั่นซะ ก่อนที่ข้าจะลงมือเอง”
เขาก้าวเข้าหานางช้า ๆ ทุกคำพูดแฝงแรงคุกคามจนแทบหายใจไม่ออก
“ข้าไม่รับประกันหรอกนะ... ว่าถ้าข้าต้องลงมือเอง ข้าจะทำสิ่งใดลงไปบ้าง”
ดวงตาเขาคมเฉียบ เสียงของเขาเรียบนุ่ม ทว่านางรู้ดีที่สุดว่าน้ำเสียงเช่นนี้เขามักจะใช้ในยามที่กดข่มอารมณ์จนสุด ก่อนลงมือสังหารใครสักคน
“เจ้ารู้ดีข้าสนเพียงผลลัพธ์ ไม่เคยสนวิธีการ”
“ฉะนั้น หากเจ้าคิดจะทำสิ่งใด... รีบลงมือ ก่อนที่ข้าจะหมดความอดทน”
ฝากจิ้มติดตามเพจด้วยนะคับบบ