*****ภาพโดย คุณนักวาด Kirin****
บัวตองเป็นนายคณิกาขี้เหร่ฉิบหาย
(ทองเอก 24 X บัวตอง 18)
“นายคณิกาตัวดำเยี่ยงควาย ขี้เหร่ก็ปานจักเปรียบเปรย มีแต่ชื่อที่ฟังดูว่างาม เหตุใดพวกผู้ชายจึงยอมเสียอัฐซื้อมันกันหนา”
*********
“ตายจริง... ดำเยี่ยงนี้จักให้ฉันจับมันขัดอย่างไรให้งามได้เล่ายายแจ่ม”
“เอาน่า ขัดบ่อย ๆ มันก็ผิวผ่องเองนั่นแล เงยหน้าสิบัวตองให้ข้าดูหน้าสักหน่อย”
“เอาแค่วันนี้ก่อนเถิดแม่เยื้อน ทำเยี่ยงไรให้มันผ่องพอจักรับใช้คุณเขาได้
มิต้องเอาน้ำร้อนลวกขูดผิวมันเยี่ยงถอนขนไก่ต้มดอกรึ”
********
เขาผู้มีกลิ่นกายหอม นำมาสู่การถูกขายเข้าโรงชำเราบุรุษ
“เขาว่าเอ็งมีกลิ่นหอม กลิ่นของเอ็งมันหอมเยี่ยงไรรึ”
.....
..
“แม่บอกว่า กลิ่นหอมเหมือนดอกบัวหลวงต้องสายฝน”
..
********
เมื่อจัดการอาบน้ำขัดตัวเรียบร้อยแม่กุหลาบก็เปิดหีบใหญ่เลือกผ้านุ่งมาหลายผืน แม่เยื้อนเลือกสีอ่อนเพราะผิวของบัวตองนั้นค่อนไปทางคล้ำ รูปร่างรึก็หนาไม่เหมือนแม่หญิง ก็คงเพราะเป็นผู้ชายนั่นแหละ แม่กุหลาบถอนหายใจอีกครั้งเพราะหยิบเอาผืนไหนก็ดูจะเล็กไปเสียทุกผืน
“ตายจริงแม่เยื้อน.. เห็นที่จักไม่มีสไบผืนไหนยาวพอจักห่มอีบัวตองแล้วหนา” แม่กุหลาบก้มลงรื้อหา
“ไม่ต้องสไบดอกแม่กุหลาบ หาผ้าแถบสีหวานพันอกกับผ้านุ่งพันเป็นผ้าถุงก็พอได้ดอก” ยายแจ่มเอ่ย
“เฮ้อ... ตัวไม่ใช่เล็ก ๆ เลยหนาบัวตองเอ๊ย เอ็งทั้งสูงใหญ่ผิดเผ่าพันธุ์เขาหรือไม่นี่ยายแจ่ม” แม่เยื้อนนึกสงสัย ยายแจ่มเคี้ยวหมากพลางยิ้มเอ็นดูบัวตองก่อนจะเอ่ยตอบคนถามอย่างไม่ให้คนตัวโตต้องใจเสีย
“บางคนก็ตัวเล็ก แต่พวกตัวโต ๆ เยี่ยงนี้นะหายาก แลเป็นไปได้ว่าอาจจักมีกลิ่นกายหอมเป็นพิเศษก็ได้ดอกหนาบัวตอง ยอดอกของเองก็เต่งตึงสีหวาน เอวของเอ็งก็คอดกิ่วรับสะโพกผายเยี่ยงนั้น ข้าว่าเอ็งก็มีความงามในแบบของเอ็ง” ยายแจ่มเอ่ยชมกันซึ่งหน้าให้บัวตองยกยิ้มแก้มแดงด้วยความขวยเขินและดีใจ
********
เรือนร่างอวบอิ่มแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อบางของบัวตาต้องตาผู้ชายหลายคน ดวงตาสีอำพันของบัวตองทำให้หลายคนเริ่มคาดเดาในความคิดว่าน่าจะเป็นเพศพิเศษ รูปร่างหนาที่เอวคอดเล็กกิ่วเท่าเด็กที่เพิ่งแตกเนื้อสาวพาให้หลายคนจับตามอง ที่โรงชำเราบุรุษสิ่งที่หาได้ยากคือนายคณิกา เพราะส่วนมากมักผูกขาดเลี้ยงเป็นลูกหาบลูกสวาทออกหน้ากันส่วนมาก ครั้นใครใคร่จะลิ้มลองจึงมีราคาแพงหากไม่เลี้ยงดูไว้ในเรือน
“นี่.. นั่งกับฉันสักประเดี๋ยวเถิดพ่อคุณ งามคมขำเยี่ยงนี้ราคากี่อัฐกัน” นายช้างเจ้าท่าโรงสีข้าวคว้าจับยึดข้อมือเล็กของบัวตองเอาไว้ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนทอประกายเขินเช่นเด็กสาวแม้จะยื้อข้อมือกลับแต่หาได้หลุดจากการยื้อยึดเอาไว้
“ว่าเยี่ยงไร ชื่อของเอ็ง” ชายร่างสันทัดสวมทองเส้นใหญ่เอ่ยถามอีกครั้ง
“บัวตอง ชื่อของมัน” แม่กุหลาบตอบแทนอย่างเอาใจ
“บัวตอง.. ชื่อน่าจักหอมหวาน” เขายิ้มกริ่มเมื่อนึกถึงความหวาน
“กี่อัฐกันแม่กุหลาบ” นายช้างเอ่ยถามอีกครั้ง
********
“ยังมิขายดอกเจ้าค่ะ อีบัวตองมันยังใหม่อยู่มิรู้ประสา”
คุณผกาตอบแทนเสียงดังฉะฉานให้หลายคนต้องส่งเสียงโห่แผ่วดูผิดหวัง
เสียงของเหล่าผู้ชายพาให้บัวตองรู้สึกเขินอายด้วยหัวใจพองโต
หากว่าเขาขายได้นั่นหมายถึงอัฐจำนวนมากที่จะได้มาไถ่ตัวเอง
********
“อีกไม่นานจักประมูลบัวตอง ถึงเวลานั้น
ฉันจักแจ้งกับทุกคนเองไม่ต้องกังวลว่าจักไม่ได้ร่วมประมูล”
********
คำเตือน
นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาแนว (Mpreg) ผู้ชายท้องได้
มีความอ่อนไหวเกี่ยวกับการ ค้าประเวณี และซื้อขายทาส
และเนื่องจากเป็นพีเรียดไทย อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ในรัชกาลที่ 3
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งนิยมให้แม่หญิงออกเรือนได้หลังจากตัดจุกแล้ว
ดังนั้น ผู้หญิงไทยในสมัยโบราณจึงออกเรือนตั้งแต่วัย 15 ย่าง 16 ปีขึ้นไป
ตัวละครในเรื่อง ชื่อ บัวตอง ผู้เขียนได้ขยับอายุให้เป็น 18 ปี
เพื่อให้เลี่ยงปัญหาการถูกแย้งเรื่อง เปโด
ดังนั้นเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันเกี่ยวกับเนื้อหานิยายที่อาจสุ่มเสี่ยงนี้
จึงชี้แจ้งมา ณ. ที่นี้ ขอให้อ่านนิยายให้สนุกนะคะ
**กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยคำสุภาพ**
.....
..
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม
โดย นามปากกา Volettra
********
**นิยายเรื่องนี้อัพให้อ่านฟรี จนจบนะคะ**
7-14 วันแรก วันละตอน หลังจากนั้นจะเป็นอาทิตย์ละ 2 ตอน
อ่านฟรีก่อนติดเหรียญและกุญแจหลังจากลงแต่ละตอนครบ 3 วันนะคะ
********
“แล้วเอ็งมาทำกระไร ดึกดื่นมืดค่ำจักต้องให้ข้าล่ามเอ็งไว้กับเรือนเทียวรือ” คุณผกาถามเสียงดุ
“ไปได้แล้ว กลับเรือนเอ็งไปเสีย คราวหน้าอย่าได้โผล่มาที่นี่ในเวลามืดค่ำแบบนี้อีกเป็นเด็ดขาด
ไม่เช่นนั้นข้าจักลงหวายเอ็งให้หลังลายเลยเทียว”
********
“ใครบอกกันว่าจักให้เอ็งเป็นนายคณิกา บัวตองเอ็งนี่มันช่างซุกซนนัก”
- บัวตองเป็นนายคณิกาขี้เหร่ฉิบหาย-