พนักงานของรีสอร์ตราชันโดนกระจกบาดเท้าจนเป็นแผลใหญ่ต้องการหมอแต่หมอดันไม่อยู่
“หมอที่นี่มันยังไง อยู่ไม่ติดโรงพยาบาลกันเลย” ลดาบ่นออกมาเสียงดังเมื่อหมอไม่อยู่ที่โรงพยาบาลทั้งที่เป็นเวลาทำงานของหมอแล้ว
เสียงไซเรนดังก้อง รถพยาบาลเคลื่อนเข้ามาจอดก่อนที่เวรเปลและพยาบาลจะช่วยกันเข็นเตียงโดยที่มีหมอเพียงพอกำลังทำ CPR ทั้งที่ตัวเปียกปอน
สายตาคนที่บ่นเมื่อครู่จ้องมองหมอที่กำลังทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถและดูเหมือนว่าเขาจะพยายามอย่างมาก
‘ตัวเปียกอีกแล้ว’
สายตาที่เคยรังเกียจกลับแปลเปลี่ยนเป็นชื่นชมและหลงใหลในเสน่ห์ของเขาตอนที่พยายามอย่างสุดความสามารถ
ผ่านไปเกือบชั่วโมงคนเป็นหมอก็เดินออกมาเพื่อบอกกับญาติของชายที่เกิดอุบัติเหตุ
“เสียใจด้วยนะคะ หมอพยายามปั๊มหัวใจแล้วแต่เค้าก็ไม่กลับมา” ใบหน้าแสดงออกถึงความเศร้าที่ไม่อาจช่วยเอาไว้ได้ ความรู้สึกที่ยากลำบากที่สุดของหมอคงเป็นการแจ้งเรื่องเช่นชี้กับญาติ
เสียงร่ำไห้ของญาติไม่ต่างกับหยาดฝนที่โหมกระหน่ำซ้ำเติมความเศร้าตอนนี้
หมอเพียงพอออกมานั่งมองหยาดฝนพร้อมชาเก๊กฮวยร้อนในมือหลังจากโรงพยาบาลสงบลง
คงเพราะความเศร้าทำให้เขาไม่ได้สังเกตว่าลดอยู่ที่โรงพยาบาล คนร่างบางเดินมานั่งลงข้าง ๆ ทำหมอต้องหันมอง
“คุณ”
“เป็นหมอต้องเจอแบบนี้บ่อยไม่ใช่เหรอ”
“ไม่มีใครชินกับเรื่องแบบนี้หรอกค่ะ”
ลดามองชาเก๊กฮวยในมือหมอเพียงพอก่อนจะสงสัยว่าทำไมเขาถึงได้ดื่มชาเก๊กฮวยเพราะไม่ค่อยเห็นใครชอบดื่ม
“ชอบดื่มชาเก๊กฮวยเหรอ”
“ไม่ชอบค่ะ ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากดื่มมันเลย”
“แล้วทำไมวันนี้ดื่ม”
“มีคนจากไปในมือของฉัน เป็นการดื่มไว้อาลัยของฉันน่ะค่ะ” เขาอมยิ้มแต่แววตากลับดูเศร้า หมอเพียงพอยกแก้วดื่มจนหมดใบหน้าเขาก็เปลี่ยนไป “ว่าแต่วันนี้มาจีบฉันอีกแล้วเหรอคะ”
“เหอะ เปลี่ยนอารมณ์ไวจังเลยนะ”
“ฉันคิดถึงคุณทุกวันเลยนะ รอคุณตลอดเวลาเลย” คนร่างสูงที่สวมเสื้อกาวด์หมอขยับเข้ามานั่งใกล้ชิดลดาที่มาเพื่อปลอบใจจนลืมไปว่าตัวเองต้องทำท่าทางเกลียดเขาเหมือนเดิม
“แต่ฉันไม่ได้ชอบฆาตกร” ลดาลุกออกไปจากเก้าอี้ยาวตัวเดียวกับที่หมอเพียงพอนั่งอยู่ เพื่อกลับรีสอร์ตของตัวเอง