จากผืนดินอีสานอันแห้งแล้ง สู่ทำเนียบประธานาธิบดี: เรื่องราวของ ดร. เด่นชาติ
เรื่องราวเริ่มต้นในหมู่บ้านเล็กๆ กลางทุ่งนาในจังหวัดชัยภูมิ "น้องเด่น" หรือ เด็กชายเด่นชาติ เติบโตมาพร้อมกับกลิ่นดิน กลิ่นข้าว และความเหนื่อยยากของพ่อแม่ที่เป็นชาวไร่ชาวนา ชีวิตวัยเด็กของเขาไม่ได้สวยหรูเหมือนใครอื่น ต้องช่วยพ่อแม่ทำงานในไร่นาตั้งแต่ยังเล็ก กลางวันเผชิญแสงแดดแผดเผา กลางคืนก็ต้องนอนกลางดินกินกลางทราย ความลำบากหล่อหลอมให้เด่นชาติเป็นเด็กที่เข้มแข็ง อดทน และเข้าใจความทุกข์ยากของผู้คน
แม้ชีวิตจะยากลำบาก แต่เด่นชาติกลับเป็นเด็กที่ใฝ่เรียนรู้อย่างไม่ย่อท้อ เขาตั้งใจเรียนในโรงเรียนเล็กๆ ประจำหมู่บ้านอย่างเต็มที่ ด้วยความเฉลียวฉลาดและความมุ่งมั่น เขาได้รับทุนการศึกษาไปเรียนต่อในระดับมัธยมศึกษาในตัวจังหวัด และด้วยความเพียรพยายามอย่างหนัก ในที่สุดเขาก็สอบติดคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร
การเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของเด่นชาติ เขาต้องปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ และการแข่งขันที่สูงขึ้น แต่เขาก็ไม่เคยลืมรากเหง้าของตัวเอง เขายังคงประหยัด อดทน และตั้งใจศึกษาเล่าเรียนอย่างหนัก ด้วยความสามารถที่โดดเด่น เขาเรียนจบเป็นนายแพทย์ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง และยังศึกษาต่อจนได้รับปริญญาเอก (ดร.) ในสาขาที่เชี่ยวชาญ
หลังจากเรียนจบ ดร.เด่นชาติไม่ได้เลือกที่จะทำงานในโรงพยาบาลเอกชนหรูหรา แต่เขากลับตัดสินใจกลับไปพัฒนาบ้านเกิด เขาอุทิศตนเพื่อดูแลสุขภาพของคนในชุมชน ช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ และเป็นกระบอกเสียงให้กับชาวไร่ชาวนาที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ด้วยความเสียสละและเมตตาธรรม ทำให้เขาเป็นที่รักและเคารพของคนในท้องถิ่น
ชื่อเสียงของ ดร.เด่นชาติขจรขจายไปทั่วประเทศ จากแพทย์หนุ่มผู้เสียสละ เขาเริ่มเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาชุมชนและแก้ไขปัญหาต่างๆ ในระดับชาติ ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ความซื่อสัตย์ และความเข้าใจในปัญหาของประชาชนทุกชนชั้น ทำให้เขาได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลาม
ในที่สุด วันที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเด็กบ้านนอกคนหนึ่งก็มาถึง ดร.เด่นชาติได้รับการเสนอชื่อให้ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ด้วยแรงสนับสนุนจากประชาชนทั่วประเทศที่เชื่อมั่นในตัวเขา เขาสามารถเอาชนะการเลือกตั้งได้อย่างท่วมท้น จากเด็กชายที่นอนกลางดินกินกลางทราย เติบโตเป็นแพทย์ผู้เสียสละ และในที่สุดก็ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของประเทศ ดร.เด่นชาติได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ความมุ่งมั่น ความเพียรพยายาม และความเข้าใจในเพื่อนมนุษย์ สามารถนำพาชีวิตไปสู่จุดที่ยิ่งใหญ่ได้ และเขาก็พร้อมที่จะนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองอย่างแท้จริง