ถ้าหากว่ายังคิดไม่ออก...เห็นทีคงต้องเป็นลำนี้ ไม่ใช่นิ้วอย่างก่อนหน้า...
ราวคำกล่าวของฉือฟ่านเย่เป็นเครื่องกระตุ้นให้หรงเยียนเยียนลืมตาขึ้น ใบหน้าโทรมเหงื่อเงยมองไปทางร่างสูงใหญ่ที่กำลังก้าวเข้ามาหลังเขากล่าวจบ นัยน์ตาแข็งกร้าวเหลือบมองใบหน้าชายผู้นั้นอย่างรังเกียจ เขาออกไปลมหายใจนางยังไม่ทันจะปกติ ก็กลับมาแล้วบอกนางว่าจะใช้ท่อนลำนั่นทรมานนางช่างน่าขัน ไม่แปลกใจเลยจริง ๆ ที่คนเช่นเขาจะทำเรื่องชั่วช้าเช่นนั้นได้
“หึ!! มาทำเป็นพูดดี ไม่ใช่ว่าเจ้าคิดทำเรื่องชั่วช้านี้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ”
“แต่เมื่อครู่ เจ้าเองก็ชอบมิใช่หรือ?” เยียนเยียนขยับหน้าหนี ดวงหน้าเจ้าเล่ห์ที่ยื่นเข้ามาใกล้ ลมหายใจอุ่นที่เป่ารดต้นคอนางพาขนอ่อนในกายลุกชันขึ้นมาอีกครั้ง มือสากกร้านของเขาบีบคลึงเต้านมนาง พร้อมสายตาอย่างผู้ชนะที่เขามองมาทำนางเจ็บใจอย่างมาก รู้เช่นนี้นางน่าจะใจเย็นรอคนของพ่อบุญธรรม ไม่ควรชะล่าใจเข้าไปในค่ายแล้วทำเรื่องไม่ควรเพียงลำพัง ตอนนี้ไม่เพียงพลาดไม่ได้แก้แค้น นางยังตกเป็นของเล่นให้คนใจโฉดนี่อีก
‘เจ็บใจนัก’
“ตอนนี้นึกเสียใจแล้วหรือ? แต่ถึงเจ้าจะเสียใจตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วละสาวน้อย เพราะเวลานี้ข้ากำลังหาเรื่องทำแก้เบื่อพอดี และเจ้าก็ต้องเป็นของเล่นแก้เบื่อให้ข้าไปจนกว่าข้าจะพอใจ”
เยียนเยียนสะบัดหน้าหนีปลายจมูกโด่งที่ปัดเฉีดแก้มนาง สายตากรุ้มกริ่มที่เขาใช่กับนางไม่เหมือนสายตาเย็นชาอย่างที่เห็นในภาพวาด ข้อมูลที่บอกว่าเขาเป็นพวกเย็นชา ไม่สนใจสิ่งใดเห็นทีจะเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ
“จะทำอะไรก็ทำ ทรมาน หรือฆ่า ไม่ว่าอันไหนข้าก็ไม่กลัว”
“หรือ? เจ้าไม่กลัวจริงหรือ”
นัยน์ตาเกรียมแฝงความเจ้าเล่ห์เอาไว้มองคนที่โดนตรึง ก่อนจะเคลื่อนใบหน้าเชื่องช้าเข้าไปหานางปลายจมูกโด่งไล้ลงมาแต่ขมับ พวงแก้มระเรื่อ กกหูเล็ก ลำคอเรียว ก่อนจะหยุดที่เต้ามนมกลมมน สายตากรุ้มกริ่มเหลือบมองคนร่างบางที่ทำเป็นเก่ง แต่ก็แอบหวั่นเพราะนัยน์วูบไหวที่นางมองเขา เสียงหัวใจดวงเล็กที่อยู่ใกล้หูเขาเต้นดังจนแอบรู้สึกว่าอีกนิดมันจะทะลุอกนางออกมา ก่อนร่างนางจะเด้งแรงเพราะปลายลิ้นสากเปียกชื้นเลียยอดถันเต็ง
"อร้างง..อื้ออ"