“ถ้าย้อนเวลาได้…”
ประโยคนี้คงไม่ต่างอะไรกับฝุ่นที่ลอยอยู่ในอากาศ—ทุกคนพูดถึง แต่ไม่มีใครเคยคว้าไว้ได้จริง
ไม่ว่าจะคนเล่นหุ้น คนซื้อหวย คนอกหัก หรือคนที่พลาดอะไรบางอย่างไปในชีวิต
เราทุกคนล้วนเคยมีช่วงเวลาที่อยากย้อนกลับไป
เพื่อ “แก้ไข”
หรือ “ทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม”
แต่แทน—เด็กหนุ่มธรรมดาวัย 21 ปี ที่เพิ่งเริ่มปี 4 คณะบริหาร เขาไม่ใช่คนที่มีอดีตอันเลวร้าย ไม่ได้ถูกเท หรือเป็นเศรษฐีที่หมดตัวในตลาดหุ้น
เขาก็แค่…คนธรรมดา
เรียนกลาง ๆ เที่ยวพอประมาณ กินข้าวแกงบ้างร้านปิ้งย่างบ้าง ใช้ชีวิตที่ไม่มีอะไรน่าจดจำเป็นพิเศษ
แต่แล้วโชคชะตาก็ “ให้โอกาส” เขา
โอกาสที่หลายล้านคนบนโลกนี้อาจอิจฉาจนอยากกัดฟันร้องไห้
เขาได้ย้อนเวลากลับไปตอนอายุสิบขวบ
สิบขวบ—อายุที่ยังมีฟันหลอ มีน้ำลายเปื้อนหมอน และมีประวัติเปียกที่นอนยาวเป็นหางว่าว
สิบขวบ—ช่วงเวลาที่เขายังไม่รู้จักคำว่า “ธุรกิจ” ด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้…เขารู้แล้ว
รู้ทั้งวิธีหาเงิน
รู้ว่าควรสร้างอะไร
และรู้ว่าต้องเริ่มจากใคร
แทนกัดฟันยอมรับความจริงใหม่ในร่างเด็กรุ่น ป.6 พร้อมเสียงแม่ที่ลอยมาแต่ไกลเหมือนจะตอกย้ำความอนาถในอดีต
“ตาไท ขับรถระวัง ๆ หน่อยนะ เดี๋ยวแทนมันแอบเยี่ยวใส่รถตาอีก เมื่อวานไม่ให้มันไปเล่นกับพี่ วันนี้เลยเยี่ยวใส่ที่นอนให้แม่ซักอีก!”
เสียงหัวเราะของญาติ ๆ ดังก้องจากท้ายรถ
แทนฟาดหัวกับเบาะ “แม่จะพูดทำม้ายยย!!”
การย้อนเวลากลับมาเป็นเด็กสิบขวบในปี 2557 ไม่ได้แปลว่าเริ่มใหม่แบบหล่อ ๆ
มันแปลว่าเริ่มใหม่แบบ… “เปียก ๆ”
แต่แทนไม่สน
เขาไม่อยากกลับมาเพื่อแค่เรียนดีขึ้น
หรือสอบติดโรงเรียนที่ดีกว่า
หรือทำให้แม่ภูมิใจมากขึ้น
เขากลับมาเพื่อสร้างบางอย่าง
เริ่มจากกลุ่มเด็ก ป.4 หัวโตที่ยังขายของไม่เป็น
สานต่อกลุ่ม “ลัคกี้แมน” ที่ตั้งไว้ในอดีต
ปั้นมันให้กลายเป็นเครือข่าย
วางรากฐานเพื่อเติบโต
แล้วทำให้ “พวกผู้ใหญ่” ต้องยอมรับว่า เด็กก็โตมาเป็นผู้ประกอบการได้
เขากลับมาเพื่อคว้าโอกาส…ที่คนเป็นล้านมีแค่ในฝัน
สารจากนักเขียน….
นี้เป็นเรื่องเเรกที่ผมเขียนจริงจัง ติชมได้นะครับ เเต่อยากเเรงนะเดียวผมร้องไห้🥲