(Spin-off "อุ้มรักทายาทพันล้าน")
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนเท่านั้น
เนื้อหา ตัวละคร เหตุการณ์ รวมถึงสถานที่ต่าง ๆ ภายในเรื่อง ถูกแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง
ไม่สามารถนำไปอ้างอิงในเชิงข้อเท็จจริงหรือทางกฎหมายได้
ข้อมูลบางส่วนอาจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง หรือไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ
ไม่มีเจตนาพาดพิงถึงบุคคล องค์กร หรือสายอาชีพใด ๆ ทั้งสิ้น
หากมีส่วนใดใกล้เคียงกับความเป็นจริง ถือเป็นเรื่องบังเอิญ
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
และขอขอบคุณทุกคนที่ร่วมเดินทางในโลกจินตนาการไปด้วยกันค่ะ 💛
“วิสกี้กับเสื้อกาวน์: ใบสั่งรักมาเฟีย” เป็นนิยายแนวโรแมนติกที่ผสมผสานความตื่นเต้นและดราม่า โดยเนื้อเรื่องจะกล่าวถึงความรักที่ไม่คาดฝันระหว่างมาเฟียหนุ่มผู้ทรงอิทธิพลและแพทย์หนุ่มผู้ทุ่มเทให้กับวิชาชีพของตน ชีวิตของทั้งคู่ต้องเผชิญกับอุปสรรคและปัญหาที่ท้าทาย ทั้งจากหน้าที่การงานและสถานะทางสังคมที่แตกต่างกัน การเล่าเรื่องจะเต็มไปด้วยความระทึกขวัญและอารมณ์ที่หลากหลาย เมื่อความรักกลายเป็นใบสั่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ท่ามกลางโลกที่ถูกปกคลุมด้วยความลับและอันตราย การตัดสินใจของทั้งคู่จะนำพาไปสู่ทางเลือกที่อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตพวกเขาไปตลอดกาล
ฟิโอเรนโซ่ ริคาร์โด คาสซาโน่ หรือที่ทุกคนรู้จักในชื่อ เอนโซ่ มาเฟียหนุ่มผู้ทรงอำนาจวัย 30 ปี ที่ไม่ว่าใครได้เห็นก็ยากจะละสายตา เขามีรูปร่างสูงใหญ่สมส่วน ร่างกายแน่นตึงดั่งรูปปั้นจากหินอ่อนของศิลปินยุคเรอเนซองส์ กล้ามเนื้อทุกมัดผ่านการฝึกฝนมาอย่างเข้มข้น ผิวสีแทนเข้มตัดกับรอยสักสีเข้มกลางแผ่นหลังปีกนกอินทรีกางเต็มแผ่นหลัง สื่อถึง “อิสรภาพ” และ “อำนาจจากสายเลือด”
ใบหน้าของเขาคมคายแบบอิตาเลียนแท้—สันจมูกโด่ง แก้มตอบเล็กน้อยรับกับแนวกรามคมเฉียบ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มคมกริบใต้แพขนตายาวหนา มักทอดมองโลกด้วยแววตาที่เหมือนมีทั้งไฟและน้ำแข็งเจือปนอยู่ในเวลาเดียวกัน เขาไม่จำเป็นต้องพูดอะไร แค่สบตา ก็สั่นสะเทือนได้ทั้งห้อง
เส้นผมสีดำสนิทเซ็ตอย่างเนี้ยบ แต่มีความเซอร์ในแบบที่ตั้งใจ สวมสร้อยทองแท้เส้นบาง และนาฬิกาเรือนหรูระดับไฮคลาส เสื้อผ้าแบรนด์เนมจากดีไซเนอร์แถวหน้าถูกจับคู่กับสนีกเกอร์ราคาหลักแสนอย่างมีสไตล์ ชุดฮิปฮอปแบบหรูหราไม่ทำให้เขาดูขัดแย้งกับความเป็นมาเฟีย แต่กลับยิ่งตอกย้ำว่าเขาคือผู้ชายที่มีอำนาจควบคุมทุกอย่าง แม้แต่แฟชั่น
ในมือของเอนโซ่ มักจะถือแก้ววิสกี้คริสตัลที่สะท้อนแสงไฟสีทองเรืองรอง เขาจิบมันอย่างช้า ๆ ไม่ใช่เพื่อความเมา แต่เพื่อจดจำ — ความขมของมัน เหมือนกับชีวิตที่เขาเลือกเดิน
แม้จะมีทุกสิ่งในมือ แต่เบื้องหลังความเย็นชาและความแข็งแกร่งนั้น เอนโซ่ยังซ่อนความโดดเดี่ยวและความว่างเปล่าไว้ลึก ๆ ในใจ ที่ไม่มีใครล่วงรู้... ดวงตาสีน้ำตาลเข้มของเอนโซ่มีแววเฉียบคมและเย็นชาเหมือนกับเหล็กกล้า ขณะที่มือข้างหนึ่งยกแก้ววิสกี้รสขมขึ้นจิบ เขากลับไม่เคยรู้สึกผ่อนคลายเลยแม้แต่น้อย — ทุกหยดเหมือนบาดลึกลงไปในหัวใจ เป็นเครื่องเตือนใจถึงชีวิตที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เต็มไปด้วยความขมขื่นของการทรยศและการต่อสู้
ธุรกิจของเขาเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งเครือข่ายคาสิโน ผับ บาร์ และที่สำคัญที่สุด—ธุรกิจค้าอาวุธสงครามที่เขาร่วมมือกับลูกพี่ลูกน้องอย่างหลุยส์ ธุรกิจที่มีต้นกำเนิดจากพ่อของหลุยส์ ซึ่งเป็นอัจฉริยะด้านการออกแบบอาวุธ ก่อนจะถูกหักหลังและสังหาร ทิ้งภาระและความแค้นไว้ให้ลูกชายดำเนินต่อ และเอนโซ่ก็เลือกจะก้าวเข้าสู่เส้นทางนี้โดยไม่มีความลังเล
แต่ใครจะคิดว่าชีวิตที่เคยเต็มไปด้วยควันปืนและกลิ่นดินปืนของเขา กำลังจะถูกปั่นป่วนเพราะใครบางคน… —คนที่ต่างจากเขาสุดขั้ว
สมาชิกตระกูลคาสซาโน่
ดอมมินิกส์ คาสซาโน่ (Dominix Cassano):
พี่ชายคนโต สุขุม เยือกเย็น มีบทบาทดูแลด้านข่าวกรองและกลยุทธ์ความมั่นคง เป็นมือขวาของเอนโซ่ในเงามืด
เอนโซ่ คาสซาโน่ (Enzo Cassano):
ลูกชายคนรอง หัวแข็งและเด็ดเดี่ยว นักวางแผนและผู้นำด้านการเงินของตระกูล
แคธี คาสซาโน่ (Kathy Cassano):
น้องสาวคนสุดท้อง รับผิดชอบด้านงานสังคมและภาพลักษณ์ในวงการสังคมชั้นสูง เป็นสะพานเชื่อมระหว่างครอบครัวกับนักธุรกิจชั้นนำ
นายแพทย์อิศรา นุตาพงษ์ไพบูลพิศาล — หรือ “หมอดรีน” คือชายหนุ่มที่ถูกขนานนามว่าเป็นโอป้าสายอบอุ่นของวงการแพทย์ ด้วยผิวขาวเนียนสะอาดและรอยยิ้มละมุนที่ดูเหมือนจะปลอบโยนความทุกข์ในใจใครก็ได้ เขาเป็นคนอ่อนโยน เป็นกันเอง และมีความสามารถรอบด้านในวิชาชีพแพทย์ แต่สิ่งที่ทำให้ผู้คนรักเขาไม่ใช่แค่ฝีมือทางการแพทย์ — หากคือ “หัวใจ” ที่เขาใช้ดูแลทุกชีวิตที่อยู่ใต้ความรับผิดชอบของเขา
หมอดรีนเป็น ลูกชายเพียงคนเดียวของครอบครัวแพทย์ใหญ่ พ่อและแม่ของเขาเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เคยก่อตั้งและดูแลโรงพยาบาลเอกชนระดับแถวหน้าของประเทศมานานหลายสิบปี ด้วยเหตุนี้เขาจึงถูกวางให้เป็น “ความหวังหนึ่งเดียว” ของตระกูลในการสืบทอดอุดมการณ์และภารกิจอันทรงเกียรตินี้
แม้เส้นทางชีวิตจะเต็มไปด้วยความคาดหวัง แต่หมอดรีนไม่เคยปล่อยให้แรงกดดันบดบังความเป็นตัวของตัวเอง เขาเลือกที่จะเดินไปบนเส้นทางสายแพทย์ด้วยหัวใจของตัวเอง ไม่ใช่เพราะคำสั่งของใคร — และนั่นเองที่ทำให้เขากลายเป็นแพทย์ที่ทั้งเก่ง และเข้าใจ “ความเป็นมนุษย์” อย่างลึกซึ้ง
***
เอนโซ่ก้มลงมองรอยเปียกชุ่มที่จุดสำคัญ ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น นึกในใจ กูควรจะได้ดื่ม ไม่ใช่ราดลงไข่ตัวเองแบบนี้ อุบัติเหตุห่าอะไรวะ เป้ากูเปียกขนาดนี้! เอนโซ่พึมพำกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะกวาดสายตามองอีกฝ่ายอย่างพิจารณา
ไข่มึงเอง ทำไมไม่ไปเช็ดเองวะ หมอหนุ่มแอบคิดในใจ แต่เลือกจะตอบกลับไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “จะว่าไปไม่ต้องเช็ดออกหรอก เครื่องดื่มนี้มันแอลกอฮอล์อย่างดี เอาไว้เคลือบและฆ่าเชื้อได้ ดูท่าจะเป็นนักรัก แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นนักรบที่ชอบสวมเกราะไหม จะได้ไม่เป็นโรคติดต่อบางชนิด”
ความรักของทั้งคู่ไม่ต้องฝ่าฟันคำสบประมาทจากครอบครัว แต่กลับต้องเผชิญกับ “โลกของตัวเอง” ที่ต่างกันสุดขั้ว — คนหนึ่งอยู่ในโลกที่ต้อง ‘รักษา’ ชีวิต อีกคนอยู่ในโลกที่ ‘พราก’ ชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ความรักของพวกเขาคือการเรียนรู้ ความอดทน และการยอมรับ ไม่ใช่แค่จากกันและกัน... แต่จากตัวตนที่แท้จริงของทั้งสองคน