ค่ำคืนนี้เป็นคืนที่เงียบสงัดราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างหยุดอยู่กับที่ ใบไม้ที่ควรจะพัดปลิวตอนนี้กลับแน่นิ่งไม่มีขยับเขยื้อนสักใบ เสียงจิ้งหรีดเรไรร้องระงมไปทั่ว คำอ้าย เด็กหนุ่มวัยยี่สิบต้น ๆ นั่งอยู่ใต้ถุนบ้านสองมือกำลังนั่งคัดข้าวอยู่ ครอบครัวของคำอ้ายไม่ได้ร่ำได้รวยเหมือนใครเขา ในทุก ๆ วันก็อาศัยฝีมือการทำอาหารเป็นของตัวเองขายเพื่อประทังชีวิตไปในแต่ละวัน
“เสร็จแล้ว” คำอ้ายพูดขึ้นพร้อมกับบิดขี้เกียจไปทีสองที สายตาคู่สวยเหลือบมองนาฬิกาบนผนัง ก่อนพบว่าตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนเศษแล้ว ปกติเวลานี้คำอ้ายจะเข้านอนแล้วแต่ทว่ามีคนสั่งข้าวห่อใบตองไว้เกือบยี่สิบห่อเลยต้องรีบทำให้เสร็จก่อนวันพรุ่งนี้ จะได้มีเวลาเหลือทำของหวานขายต่อ
คำอ้ายจัดแจงทุกอย่างลงตะกร้าเอาไว้ก่อนจะนำไปเข้าตู้กับข้าวเพื่อให้ปลอดภัยจากสรรพสัตว์ จังหวะที่คำอ้ายกำลังจะก้าวขึ้นบนบ้านเพื่อเตรียมตัวเข้านอนก็ต้องชะงักไปเมื่อจู่ ๆ ก็มีเสียงดังมาจากใต้ถุนบ้านเมื่อครู่ที่ได้ปิดไฟหมดแล้ว เสียงกุกกักยังคงดังขึ้นต่อเนื่อง สองมือกำเข้าหากันแน่นก่อนจะพยายามมองหาสิ่งของรอบข้างเพื่อใช้มันปกป้องตัวเอง ด้ามไม้กวาดขนาดใหญ่ถูกหยิบขึ้นมา สองมือกำเข้าหากันแน่นสองเท้าก้าวไปด้านหน้าด้วยความกลัว
“ใคร ฉันถามว่าใคร” เสียงหวานเอ่ยขึ้นด้วยความกล้า ๆ กลัว ๆ เงาดำตะคุ่มอยู่ตรงโอ่งขนาดใหญ่ คำอ้ายกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวเข้าไปใกล้เงานั้น
“ฉันถามว่าใครไง!” ปัก! คำอ้ายใช้ด้ามไม้กวาดฮวดลง
กลางหลังของเงานั้น เสียงร้องโอดครวญดังขึ้น คำอ้ายได้ยินแบบนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นคน สองเท้ารีบวิ่งตรงดิ่งไปเปิดไฟทันที สิ่งแรกที่คำอ้ายเห็นก็คงจะเป็นชายร่างสูงที่ใส่ผ้าปิดหน้าครึ่งหนึ่ง แถมตามเนื้อตัวยังมีกลิ่นคาวเลือดอีกด้วยและสิ่งแรกที่เข้ามาในหัวของคำอ้ายก็คือ
“โจร!”
“ถ้ายังอยากหายใจอยู่ก็หุบปากมึงสะ”