ซิ่วอิง คุณหนูเล็กจวนเสิ่น ซึ่งกำเนิดจากฮูหยินเอกเสิ่นซูเจิน กับแม่ทัพพิทักษ์แดนใต้อย่างเสิ่นห่าวอู๋ และยังมีพี่สาวฝาแฝดอย่างเสิ่นซิ่วหลิน
ด้วยความเชื่อที่ถูกปลูกฝังต่อๆกันมาตั้งแต่โบราณที่ว่าแฝดหญิงนั้นไม่ควรนำมาเลี้ยงดูด้วยกันมิเช่นนั้นจะช่วงชิงชีวิตของกันและกัน ซึ่งจะทำให้คนใดคนหนึ่งเจ็บป่วยจนกระทั่งต้องจากไป ทำให้ตั้งแต่ลืมตาออกมาซิ่วหลินและซิ่วอิงถูกจับแยกไปเลี้ยงคนละที่ โดยที่ซิ่วหลินนั้นถูกเลี้ยงดูโดยมารดาในจวนเสิ่นที่เมืองหลวง แต่ซิ่วอิงนั้นถูกเลี้ยงดูโดยบิดา นางจึงเติบโตมาภายในค่ายทหาร
เรื่องของสตรีในห้องหอนั้น ซิ่วอิงไม่สนใจ สิ่งที่นางสนใจมีเพียงเรื่องการปกป้องแคว้นเท่านั้น นอกจากนางจะถูกเลี้ยงดูโดยบิดาแล้ว ในค่ายทหารยังมีพี่ชายอีกสองคนที่คอยช่วยบิดาดูแลนาง
แต่เมื่อนางอายุครบสิบเจ็ดหนาว มารดาส่งจดหมายเรียกตัวนางกลับไปยังเมืองหลวงโดยด่วน
เมื่อนางกลับมาที่เมืองหลวงก็พบว่าเหตุผลที่มารดาเรียกตัวนางกลับมาด่วนก็เพื่อจะให้นางมาแต่งงานแทนพี่สาวฝาแฝด
“เหตุใดท่านแม่จึงไม่ให้พี่หญิงแต่งงานตามสัญญาหมั้นหมายที่พวกท่านทำกันเอาไว้ แต่กลับเรียกข้ามาจากชายแดนเพื่อมาแต่งงานแทนพี่หญิงเจ้าคะ” ซิ่วอิงถามอย่างไม่เข้าใจ
นางไม่เคยมาเหยียบจวนเสิ่นที่เมืองหลวงเลยตลอดระยะเวลาสิบเจ็ดปี เพราะมารดาบอกว่าหากนางมาที่เมืองหลวงอาจจะทำให้ซิ่วหลินเจ็บป่วย เพราะซิ่วหลินนั้นร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก
“เพราะคนที่พี่สาวของเจ้าจะแต่งด้วยนั้นคือ แม่ทัพแดนเหนือ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยม อำมหิต พี่สาวของเจ้าจะทนได้เยี่ยงไร” ซูเจินเอ่ยออกมาอย่างนึกเห็นใจบุตรสาวคนโต
“เฮอะ ท่านจึงเลือกที่จะส่งข้าไปแทนเช่นนั้นหรือ” ซิ่วอิงไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“ถือว่าแม่ขอร้องเจ้า ชีวิตนี้แม่จะไม่ขออันใดจากเจ้าอีก เจ้าแต่งงานแทนพี่สาวของเจ้าหน่อยเถิด” ซูเจินเอ่ยขอร้องบุตรสาวคนเล็ก
แม้ซิ่วอิงอยากจะปฏิเสธมากเพียงใด แต่เรื่องการแต่งงานของนางก็ไม่พ้นเป็นเรื่องของบุพการีที่ต้องจัดการให้อยู่ดี สุดท้ายนางก็ต้องแต่งไปยังจวนแม่ทัพแดนเหนือ
นางไม่รู้ว่าที่จวนแม่ทัพแดนเหนือนั้นเป็นเช่นไร แต่นางจะถือว่าการแต่งงานในครั้งนี้เป็นการแสดงความกตัญญูต่อตระกูลเสิ่น ครั้งแรก ครั้งเดียวและครั้งสุดท้าย
‘ว่าที่สามีที่ผู้คนต่างเล่าขานว่าโหดเหี้ยม อำมหิต กับสตรีเช่นข้าที่เติบโตมาในค่ายทหารถึงสิบเจ็ดปี เฮ้อ ข้ามองเห็นแต่คำว่า พินาศ ตัวโตๆที่รออยู่เบื้องหน้าเลย’ ซิ่วอิงบอกกับตัวเอง
“ข้าจะคิดเสียว่านี่เป็นเพียงศึกหนึ่ง ที่ข้าจะต้องเป็นฝ่ายมีชัย” ซิ่วอิงบอกกับตนเองอย่างมาดมั่น