Kepler-452b & Sirius 8 เทพหลัววิศวะตัวฮอต โบ๊ะบ๊ะ (ซีนxไนท์)
“เทพวิดวะหลัวโบ๊ะบ๊ะ (Y) มหาลัยนี้มันไม่ปกติ!”
“วิศวะหลัวเฮี้ยน! รวมตัวพีคตั้งแต่วันแรก (Y)”
“จากเด็กเวร…สู่ตำนานที่แม่งไม่อยากให้จบปีหนึ่งเลย”
ความหมายของชื่อเรื่อง สื่อถึงอะไร...
ในจักรวาลที่ดาวยังคงหมุนรอบกัน...มีแปดคนกับหนึ่งเสียงที่ไม่เคยหายไปจากหัวใจ
พวกเขาเรียนวิดวะ เล่นดนตรี กวนตีน และรักกันมาก
ในแก๊งเพื่อนที่ดูเหมือนจะไม่มีวันเปลี่ยน
แต่นาฬิกาบางเรือน...ก็หยุดเดินไปก่อน
“Kepler-452b & Sirius”
เรื่องราวของแก๊งเพื่อนที่เคยมีครบ 8 คน
ผมเขียนเรื่องของพวกมัน...เพราะมีคนนึงแม่งเดินทางไกลก่อนใคร
ไม่ใช่ตายแบบเอาตัวไปนอนในโลงแล้วจบ แต่ตายแบบยังตามหลอน แม่งตายแล้วไม่ยอมไปไหน ทิ้งใจไอ้ไนท์ไว้ตรงนั้น แล้วหายหัว
ถ้าใจคนมันกู้ข้อมูลได้ ก็คงขึ้นว่า “ไฟล์เสียหายถาวร”
แต่ดันมีคนเดินมาโง่ ๆ ในวันที่แม่งควรเดินหนี มาแบกใจที่โดนทิ้งของไอ้ไนท์เหมือนหามศพ เดินวนอยู่ในห้องที่ไม่มีไอ้นั่นแล้ว แต่ยังเต็มไปด้วยกลิ่นมัน
ผมเขียนเรื่องนี้...เพราะไอ้ไนท์ไม่เคยร้องไห้ต่อหน้าใคร จนกระทั่งมันพูดถึงคนที่หายไป
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่นิยายวาย
มันคือบันทึกของความรักที่ผิดเวลา ของคำว่า "ถ้ามึงยังอยู่" ที่ไม่มีวันตอบกลับ
มันคือความพังที่กูอยากให้คนอ่านพังตาม
แล้วค่อย ๆ เย็บใจกลับ...พร้อมกันกับพวกมัน
ไม่ต้องถามว่าผมเขียนเพราะอะไร
กูแค่...ยังไม่เคยให้อภัยมัน ที่มันเลือกตาย
สำหรับคนที่เคยรักใครจนยอมพัง สำหรับคนที่เคยพูดว่า “อยู่กับกูไปก่อน” แล้วเค้าไม่ฟัง
....
ทุกวงดนตรีมีเสียงนำ บางวงมีเสียงเบส บางวงมีเสียงกลอง...แต่วงของพวกเขา มีเสียงหนึ่งที่ไม่มีใครได้ยินอีกแล้ว
8 คน 1 วง 1 ความทรงจำ และเรื่องราวของมิตรภาพที่ยังเล่นต่อแม้ไม่มีคนตั้งคีย์ให้
พวกกูเรียนวิดวะ เล่นดนตรี แดกเบียร์ คุยกันด้วยคำว่ามึงกับกู
พวกกูมี 8 คน....ครบ
…แต่ตอนนี้มันไม่ครบแล้ว
ถามว่าเสียใจมั้ย?
เออ...โคตร
แต่พวกกูยังเล่นต่อ
เพื่อมัน เพื่อพวกกู และเพื่อไม่ให้วันไหนเงียบเกินไป
.....
พวกเขาไม่เคยขาดใคร จนกระทั่ง...บางเสียงเงียบหายไป
ความลับของแก๊ง 8 เทพหลัววิดวะสุดฮอต ที่คนอ่านจะรู้ก็ต่อเมื่อเดินผ่านเสียงหัวเราะ จังหวะดนตรี
และความทรงจำที่หลงเหลืออยู่เพียงในสายลม
.....
“ไอ้สัส! ใครเอาเสื้อในมาคลุมไมค์!”
“กูเอง!” ไอ้เฟยตะโกนตอบพลางหัวเราะลั่น “ฮาร์โมนีมันต้องซอฟต์ ๆ เข้าใจป่ะมึง?”
“แล้วมึงจะใส่คัพ D ทำเหี้ยไร!” ไอ้ม่อนเสริม กูขำจนเล่นกีตาร์ไม่ออก
นี่แค่เช้าแรกของการซ้อมวง ไอ้พวกนี้ก็พร้อมจะเล่นตายห่ากันแล้ว
กูชื่อ 'ซีน' มือกีตาร์ ร้องนำ และมีภาระเลี้ยงสมองเพื่อนทั้ง 8 คน
ใช่...กูพูดไม่ผิด...แปด
แก๊ง 8 เทพหลัววิศวะตัวฮอต
ไม่มีใครธรรมดาสักคน
และนั่นแหละ...คือเหตุผลที่มึงจะไม่มีวันลืมพวกมัน
โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว แต่แม่งยังอยู่ในทุกคำด่าของพวกเราเสมอ
แก๊งนี้ไม่ได้มีไว้แค่หล่อ (แต่กูโคตรหล่อว่ะ ฮ่าาาาาา)
“พวกมึง ไอ้หมอกแม่งซ้อมบอลมาตั้งแต่ตีห้า แล้วบอกให้พวกกูซ้อมดนตรีตามเวลา ‘ความเป็นระเบียบจะพามึงรอด’ เหี้ยไรของมันวะ”
ไอ้ม่อนกูบ่น ไอ้เฟยขำ มึงว่าใครจะเล่นซินธ์แล้วมานั่งหัวเราะตัวงอทุกสามวิ
ไอ้ไนท์นั่งไขว่ห้าง ตบเบสจึ้กจึ้กอย่างกับโฆษณาแชมพู ส่วนกูก็…
“พวกมึงเล่นได้ไม่ถึง 3 วินาที ไมค์กูโดนเสื้อในคลุมแล้ว!”
(ห่า เสื้อในของใครก็ไม่รู้ อยู่บนไมค์กู!)
นี่คือวงดนตรีของพวกกู วงที่รวม '8 เทพหลัววิศวะตัวฮอต' ไว้ครบทุกคาแรกเตอร์
ซีน : มือกีตาร์ ร้องนำ ทำอาหารเก่ง หัวร้อนง่าย จริงใจสุด ปากร้ายใจดี รอบรู้ ความรู้รอบตัวแน่น (ชอบแอ็คheeซีนอีโก้พระเอก)
ไนท์ : เบส หล่อรวยที่สุดในกลุ่ม แต่มุกแสบ ๆ นี่มาเต็ม ชอบช่วยเหลือเพื่อน ใจเย็น เก็บความรู้สึกเก่ง แต่ชอบปั่น ชอบอำ มีมุมอ๊องขัดกับหน้าตา เข้าคู่ไอ้เฟยคือพากันอ๊อง (สายซึนเท่ห์ หล่อทุกมุมแบบไม่พยายาม)
ไมล์ : มือกลอง หน้าดุ อัลฟ่าตัวพ่อ หน้าโหด สายตาดุ คนจริง มีพลังอำนาจให้คนเกรงใจ ไม่กลัวคน พูดน้อยต่อยหนัก ถูกยกย่องให้เป็นพี่ใหญ่สุดของแก๊ง (หล่อเข้มมาดนิ่ง ทรงแด๊ด ดูโหดหื่นราวเจ้าพ่อมาเฟีย แต่เสร่อ)
เฟย : มือซินธ์ ตลกเหมือนมาจากจักรวาลคู่ขนาน เล่นได้ทุกอย่างในวง แม้จะหล่อไม่เท่าเพื่อน แต่ฮอตสุด เพราะเฟรนด์ลี่มาก เพื่อนเยอะ รู้จักคนแม่งเกือบทุกคณะ เดินไปไหน สาวแม่งกรี๊ดไอ้เฟยจะบ้าาาาา (น่ารักบ๊อง ๆ)
ม่อน : กีตาร์+ร้องนำคู่กู มุกแสบแพ็คคู่กับเฟย มันบอกมันดูปกติสุดในแก๊ง แต่แอบตลก กวนตีน เลยถูกให้เป็นพี่รอง เข้าคู่ไอ้เฟยเมื่อไหร่ บันเทิง พากันกวนตีนสุด (สาย K-pop ขาเป๋)
เหนือ : หนุ่มเหนือจากเชียงใหม่ มือมิกซ์ ซาวน์ ชอบอู้คำเมือง เนิบนาบ พูดช้า ใจดี ชอบเว่าเหนือใส่ไอ้ซี เนิร์ด ๆ พูดช้า ใจเย็นจนเพื่อนหาว (สายหวานเย็น เย็นเจี๊ยบ)
ซี: หนุ่มใต้จากภูเก็ต ชอบแต่งเพลง ชอบแหลงแข่งไอ้เหนือ จนคุยกันไม่เคยรู้เรื่อง และพาเพื่อนทั้งวงงงไปด้วย (สายโวยวาย แต่โคตรติสท์แตก)
หมอก: นักฟุตบอลประจำกลุ่ม เป็นคนเดียวที่ไม่เล่นดนตรี หมอกชอบทำตัวเป็นหมอประจำแก๊ง ห่วงเพื่อนทุกคน และตลก มองโลกแง่บวก (สายกีฬาจ๋ามาเลยมึง)
ไม่มีใครปกติ…แต่นั่นแหละ พวกมันคือครอบครัวของกู
และพวกกูควรตั้งชื่อภาพนี้ว่าอะไรดี (จัดประกวดดีมั้ยวะ ฮาาาาาา)
"Seven in the Frame, Eight in the Heart" รูปถ่ายมีแค่เจ็ด แต่ใจแม่งยังมีแปด
"When the Brightest Star Went Out" เมื่อดาวที่เคยสว่างที่สุด...ดับลง
"The Missing Light in Our Galaxy" มีแสงหนึ่งที่หายไปจากกาแล็กซีของพวกกู
"A Frame of Echoes" กรอบรูปที่ยังสะท้อนเสียงของคนที่ไม่มีอยู่แล้ว
"Kepler-452b: A Lightyear Away, Yet Always Here" เหมือนไกลเป็นปีแสง...แต่แม่งอยู่ใกล้ในทุกลมหายใจ
"Eight Souls, One Lost" วิญญาณแปดดวง ที่หล่นหายไปหนึ่ง
"For the One Who’ s Missing from the Picture" สำหรับคนที่หายไปจากภาพนี้
......
มุมมองจากกูเว้ย!!! ที่ไหนสักที่..
ซีนแม่ง “คูลภายนอกคลั่งรักภายใน” แบบซ่อนอาการแต่ลึก ๆ แต่จริง ๆ แม่งโคตรหลงไอ้ไนท์อะ มองปุ๊บกูรู้เลยว่า “กูจะไม่ยอมแพ้ใคร ยกเว้นมึงคนเดียว” ประมาณนั้น
กูจะนิยามถึงคู่จิ้นซีนไนท์นะ
“มึงไม่ใช่จุดอ่อนของกู...แต่แม่งคือทุกจังหวะลมหายใจ”
“ในสนามรบ กูไม่มีวันยอม...แต่ในสายตามึง กูแม่งโคตรแพ้"
“ไม่มีใครรู้ว่าใครเริ่มก่อน แต่ทุกครั้งที่สบตา...กูแม่งหยุดไม่ได้”
“บางทีกูอาจจะแค่หวงเกียร์...หรืออาจจะหวงมึงแม่งทั้งตัวแล้วก็ได้”
“คนที่กูเคยคิดว่าเป็นคู่แข่ง...กลายเป็นคนที่กูเฝ้ามองมากกว่าทุกสิ่ง”
“เมื่อไฟกับน้ำมันเลือกจะไม่หนีห่าง แต่กลับลุกไหม้ไปพร้อมกัน...แล้วใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายยอมแพ้?”
ไม่มีใครเหนือกว่า ไม่มีใครยอมลง...แต่รอยกัดบนบ่ามันบอกอะไรบางอย่าง”
“ศัตรูหรือคู่ชีวิต? หรือบางที...พวกเขาอาจจะเป็นทั้งสองอย่างในเวลาเดียวกัน”
“คำสาปของแปดเทพเกียร์เซียงกงไม่ใช่พลัง...แต่เป็นเขา”
“ไม่ได้มีใครอยู่บน ใครอยู่ล่าง...เพราะเขาเลือกจะ 'ขึ้นพร้อมกัน'”
“ในเกมแห่งการปะทะ ไม่มีใครยอมให้ใคร...แต่มักมีคนยอมให้ใจ"
“พวกเขาคือความวุ่นวายของกันและกัน...และอาจเป็นที่พักสุดท้ายของหัวใจด้วย”
....
“กูไม่รู้ว่ามึงเสือกทำอะไรวะ...แต่กูแม่งเลิกมองมึงไม่ได้เลย”
“มึงมันน่ารำคาญ ฉลาดชิบหาย ปากหมาด้วย...แต่กูดันชอบเวลามึงยิ้ม มึงว่ากูบ้าไหม?”
“เออ กูหวงมึง...ก็เพราะมึงเป็นของกูไหมล่ะ?”
“ตอนแรกกูกะจะตบมึงให้จมดิน...ไม่ใช่จูบมึงจนหายใจไม่ออกแบบนี้”
“ถ้ามึงจะหายไปจากชีวิตกู...ก็บอกก่อนละกัน กูจะได้เตรียมใจไม่ทัน”
....
กลางดึก บนดาดฟ้า หลังงานเลี้ยงมหา'ลัยจบ ไฟจากเมืองใหญ่ส่องหน้าพวกมันพอให้เห็นแววตากัน
ไนท์ : “มึงจะมองหน้ากูอีกนานไหมวะซีน หรือจะบอกตรง ๆ ว่ามึงหลงกู?”
ซีน : “ฝันไปเถอะมึง กูแค่มองเพราะมึงแต่งตัวเหมือนจะไปเดินแบบมากกว่ามางานเลี้ยง”
ไนท์ : “แหงล่ะ กูไม่ได้แต่งให้ใครดู...ยกเว้นมึง”
ซีน : (หลบตาแต่แม่งแก้มขึ้นสี) “เลิกพูดมากเหอะ เดี๋ยวกูก็จูบแม่งซะตรงนี้เลย”
ไนท์ : “แล้วใครบอกว่ากูจะหนีวะ?”
ซีน : “มึงอย่าท้ากูนะไอ้ไนท์ กูไม่ได้ใจเย็นขนาดนั้น”
ไนท์ : (ขยับเข้าใกล้) “งั้นลองสิซีน…ว่าระหว่าง ‘โกรธ’ กับ ‘หวง’ มึงรู้สึกอะไรมากกว่ากัน”
ซีนไม่ตอบ แต่มือมันคว้าคอเสื้อไนท์ไว้แน่น ไนท์ไม่หลบ แค่ยิ้มแบบเหี้ย ๆ ยั่วเยสฉิบหายเลย
....
“มันไม่ใช่แค่เรื่องใครรุกใคร...แต่มันคือใครจะ ‘ยอมแพ้’ ให้ใครก่อนต่างหาก”
เมื่อ ‘คู่กัด’ กลายเป็น ‘คู่คลั่ง’ และความใกล้ชิดก็ไม่ได้มีไว้แค่ทะเลาะกันบนเตียงเดียวกันเท่านั้น...
.....
คืนที่ความอดทนหมดลง...
ฮับเถื่อน ที่สุมหัวของแก๊งแปดเทพเกียร์เซียงกง
แสงไฟหรี่ ๆ ทั้งห้องเงียบสงัด มีแค่เสียงแอร์ดังคลอเบา ๆ พวกมันเหลือกันสองคน ไอ้ไนท์นั่งพิงหัวเตียง ส่วนไอ้ซีนยืนเท้าผนัง มองอีกคนมานานจนแม่งอดไม่ไหวอีกแล้ว
ซีน: "มึงจะเลิกทำตัวกวนตีนสักคืนได้ไหมวะ"
ไนท์ : (เหลือบตามอง ยกยิ้มมุมปาก) "มึงจะเลิกแกล้งใจแข็งสักคืนได้ปะ กูรำคาญ"
ซีน : “กูว่ากูต้องบ้าแน่ ๆ ที่ยังอยู่ห้องเดียวกับมึง ทั้งที่รู้ว่ามึงแม่งคือปัญหา”
ไนท์ : (ไม่เงยหน้า มองมือถืออยู่) “ก็ย้ายไปดิ ใครขอให้มึงอยู่?”
ซีน : (เดินเข้ามาใกล้) "กูไม่ใจแข็ง กูแค่ไม่อยากแพ้มึง"
ไนท์: "แต่มึงแม่งแพ้ไปตั้งแต่ตอนมองกูครั้งแรกแล้วว่ะ"
ซีน : “มึงนี่แม่ง...ปากดีจนอยากเอาอย่างอื่นอุดไว้เลยว่ะ”
ไนท์ : (เงยหน้าช้า ๆ ยิ้มเหี้ย ๆ) “ลองไหมล่ะ กูว่างอยู่”
ซีนเงียบไปหนึ่งวินาที ก่อนเดินเข้ามาใกล้เตียง ไนท์วางมือถือลงทันที
ซีน : “มึงมันน่ารำคาญ แต่กูแม่งเลิกมองมึงไม่ได้เลย...รู้ไหมว่ามันน่าหงุดหงิดแค่ไหน?”
ไนท์ : “รู้...เพราะกูก็เหมือนกัน”
สายตาพวกมันปะทะกันในระยะประชิด ไอ้ไนท์เอื้อมจับข้อมือไอ้ซีนไว้แน่น
ไนท์ : “มึงจะทำอะไรก็รีบทำ กูไม่หนี...แต่ถ้ามึงถอย กูจะลากมึงกลับมาเอง เข้าใจไหม?”
ซีนไม่ตอบ แต่มืออีกข้างเลื่อนไปจับท้ายทอยของไนท์ไว้แน่น เหมือนกำลังตัดสินใจบางอย่าง
ซีน : “กูไม่ถอยหรอกมึง”
เสียงหัวใจซีนเต้นระรัว แต่แม่งไม่ใช่เพราะความอาย เพราะความต้องการล้วน ๆ
มันเปลี่ยนไปกระชากคอเสื้อไอ้ไนท์ขึ้นมาเล็กน้อย
ซีน : "กูเตือนแล้วนะ ว่าอย่ายั่วกู"
ไนท์ : (หัวเราะในลำคอ) "ก็รอมานานละ จะรอให้ถึงชาติหน้าหรือไงซีน"
ไอ้ไนท์โต้กลับแทบจะในทันที มือมันรั้งหลังคอซีนไว้แน่น ราวกับกลัวว่าอีกคนจะหายไป
ไนท์ : (กระซิบเบา ๆ ข้างหู) "มึงมันโคตรน่ารำคาญ...แต่แม่งก็โคตรน่าจูบเลยว่ะ"
ซีนไม่พูดอะไรนอกจากกระชากมันเข้าหา ทั้งห้องกลายเป็นสมรภูมิย่อย ๆ ที่มีแต่เสียงลมหายใจหนัก ๆ และแรงกดดันที่ระเบิดแทบจะทุกวินาที
ซีน : "คืนนี้...มึงไม่มีสิทธิพูดว่าใครบนใคร เข้าใจไหม?"
ไนท์: (กัดปาก ยิ้มเหี้ย ๆ) "เออ กูเข้าใจ...แต่กูไม่สัญญาว่าจะไม่สู้"
และเพียงเสี้ยววินาทีหลังจากนั้น ฉากรักก็ฉายขึ้น ไม่ใช่แบบหวานซึ้ง แต่แม่งคือการปะทะกันของคนสองคนที่อัดอั้นมานาน
ไฟในห้องยังคงหรี่ ร่างสองคนแนบชิดกันจนลมหายใจประสาน ก่อนที่เสียงลมหายใจจะกลายเป็นเสียงอย่างอื่น...
.....
ผ้าปูเตียงยับยู่ยี่ / ไฟในห้องยังสลัว / และทั้งคู่ก็นอนหอบข้างกัน แบบไม่ยอมสบตา แต่แม่งยิ้มทั้งคู่
ไนท์ : "แล้วตกลงมึงแพ้หรือชนะวะ?"
ซีน : "กูจำไม่ได้...แต่มึงแม่งโคตรเก่ง"
.....
แสงแดดลอดผ้าม่านเข้ามาในห้อง ร่างสองคนยังนอนบนเตียงเดียวกัน แต่หันหลังให้กันเหมือนต่างฝ่ายต่างประชด
ไนท์ : (ขยับตัวก่อน) "ถ้าจะนอนดิ้นขนาดนี้ คืนหน้ากูไม่ให้มึงนอนเตียงแล้วนะ”
ซีน : (ยังไม่หันมา ตอบเสียงงัวเงียแต่แม่งฟาด) “ถ้ากูไม่ได้โดนมึงคร่อมทั้งคืน เตียงมันก็ไม่ยับขนาดนี้หรอก”
ไนท์ : (หัวเราะเบา ๆ แบบโคตรเหี้ย) “แล้วใครกันนะที่ครางชื่อกูเหมือนจะตาย…”
ซีน : (หันขวับ!) “กูเผลอหลับ! มึงอย่ามโนว่ามึงเก่ง!”
ไนท์ : “เออ ๆ งั้นคืนนี้ลองใหม่ จะได้รู้ว่าใครเก่งกว่ากันจริง”
เงียบไปชั่วครู่ แต่ความเงียบแม่งไม่สงบหรอก เพราะพอซีนลุกจะไปอาบน้ำ…
ไนท์ : (มองแผ่นหลังซีน ยิ้มมุมปากก่อนพูดแบบไม่มองหน้า) “ถ้าเมื่อคืนมันไม่ได้แปลว่าอะไร กูก็คงคิดไปเองสินะ ว่ามึงรู้สึกอะไรกับกูจริง ๆ”
ซีนชะงักนิดหน่อยที่ประตูห้องน้ำ แต่ไม่หันกลับมา
ซีน : “มึงคิดไปเองแหละ”
ไนท์ : (เสียงเบา ๆ แต่ได้ยินชัด) “แล้วทำไมถึงจูบกูตอนกูหลับ?”
คราวนี้ซีนปิดประตูห้องน้ำ แต่เบาอย่างแปลกประหลาด
นอกห้องน้ำ / ไนท์นอนมองเพดาน ยิ้มจาง ๆ คนเดียว
ไนท์ (พึมพำ) : “กูไม่รีบหรอกซีน...แค่มึงไม่หนี กูก็พอใจแล้ว”
#8เทพวิศวะ
#เคปเลอร์452บี
#ซีนสามวัน
#หนุ่มวิศวะน่ากลัวแต่หล่อเกินไป
#ไนท์ผู้มีหลังอันศักดิ์สิทธิ์
#เจ้าหญิงไนท์แลนด์
#ไมล์ดูดวิญญาณ
#ไนท์อสรพิษ
#ซีนไนท์
#นายเอกเมะแต่ใจบาง
#เมะคู่กัด
#คู่ซี้ชิปขึ้นปีสอง
#SxNStory
#ซีนไนท์Story
#เมะทั้งคู่แต่กูชิป
#เพื่อนกันมัน(จิ้น)ได้
#SxN2025
#ใครจะรุกไม่รู้แต่กูฟินไปแล้ว
อะไรอีกวะ อ่าน ๆ ไปหลายตอน ก็ช่วยผมคิดหน่อย แล้วเอาไปเล่นให้มันปัง!