ตำนานรักสัตว์เทพสวรรค์
3
ตอน
22
เข้าชม
0
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
0
เพิ่มลงคลัง
คำเตือนเนื้อหา
คำเตือนเกี่ยวกับเนื้อหาในเรื่องอาจมีการสปอยล์ถึงเนื้อเรื่องหลัก
ในยุคบรรพกาล ยุคก่อนที่ผานกู่จะทำการเบิกฟ้า ตามตำราพงศาวดารจีนได้บันทึกข้อมูลสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ อันได้แก่ มังกร(ชิงหลง),กิเลนไฟ(ฉีหลิน),จิ้งจอกเก้าหาง(จิ่วเวย),หงษ์เพลิง(จูเช่ว)และเสือขาว(ไป๋หู่)

ประวัติตัวละคร

ชิงหลง มังกรฟ้า เจ้าแห่งพิภพเทพ กำเนิดจากไข่มังกรของพระแม่หนี่วา ชิงหลงน้อยในร่างมังกรเหลืองบำเพ็ญเพียรถึงสามร้อยปี จึงสามารถกลายร่างมนุษย์ได้ เขาคือประมุของค์ใหม่ที่ทั่วทั้งพิภพเทพและสวรรค์ต่างเฝ้ารอการจุติ หลังจากองค์เทพบรรพกาลได้ดับสูญสิ้นอายุขัยไปกว่าห้าร้อยปี ชิงหลงคือประมุขสูงสุดของ หกเขตแดน อิทธิฤทธิ์ทรงพลังฟ้าดิน แกร่งกล้า เหนือผู้ใด เมื่อแปลงร่างเป็นมังกร ลักษณะเกร็ดหลังเป็นสีเขียว ด้านข้างเป็นสีเหลือง ใต้ท้องสีดำเข้ม ในร่างมนุษย์เขาคือประมุขหนุ่มผู้องอาจ ห้าวหาญ และมีใบหน้าหล่อเหลาฉบับเทพเซียน อุปนิสัยร่าเริง จิตใจดี รักพวกพ้อง

 

จูเช่ว เทพธิดาหงษ์เพลิง เทพีผู้ครองพิภพสวรรค์ พิภพสวรรค์อยู่ถัดลงมาจากพิภพเทพ โดยประกอบไปด้วยเซียน อารักษ์ ผู้สวามิภักดิ์ต่อพิภพเทพ จูเช่วถือกำเนิดจากเทือกเขาแดง มีตราประทับปีกหงษ์ (สัญลักษณ์ของผู้เป็นนายแห่งสรวงสวรรค์)ติดตัวมาแต่กำเนิด และต้องถือเอาด้ายแดงวาสนาตามธรรมเนียมของประมุขสองชั้นฟ้า หมั้นหมายกับชิงหลงตามคัมภีร์โบราณที่เทพแห่งขุนเขาประทานให้ ความว่า“นายเหนือหัวของสองพิภพต้องเป็นคู่ครองทองแผ่นเดียวกัน” จูเช่วคือพยาหงษ์ มีขนเป็นเปลวเพลิง และมีพลังสูงส่งสามารถต่อกรกับเหล่าสัตว์เทพได้ทุกตน

 

ฉีหลิน กิเลนไฟ สัตว์เทพผู้ครองพิภพปีศาจ ฉีหลินถือกำเนิดนับพันปีพร้อมยุคเทพบรรพกาล ภายใต้ร่างทองที่หล่อเหลาเทพปีศาจตนนี้ยังมีพลังแห่งไฟคุกกรุ่นทั่วลำตัว อีกทั้งนิสัยที่โหดเหี้ยมและดุร้าย ครั้นยุคเทพบรรพกาลได้เปิดศึกทำสงครามแย่งอำนาจปกครองพื้นพิภพกับสองชั้นฟ้า ต่อมาเทพแห่งขุนเขาผู้หยั่งรู้ชะตาฟ้าดิน ทำนายว่าสงครามคือเหตุแห่งการล่มสลายของ หกพิภพ ฉีหลินจึงยอมรามือขีดเส้นแบ่งฟ้าดิน ไม่ย่างกรายขึ้นพิภพสวรรค์และพิภพเทพ และห้ามเหล่าเทพเซียนข้ามเส้นแบ่งลงมาพิภพปีศาจ หากพบว่าเหล่าเทพเซียนลักลอบเข้าเขตแดนปีศาจ ทหารเผ่าปีศาจสามารถสังหารได้ทุกเมื่อโดยไม่มีข้อแม้

 

จิ่วเวย จิ้งจอกเก้าหางน้อย ทายาทรุ่นที่สี่ ของตระกูลผู้ปกครองเผ่าจิ้งจอก จิ่วเวยเป็นบุตรตนที่ห้าท่ามกลางพี่ใหญ่ทั้งสี่ตน ที่ล้วนเป็นเพศชาย บุตรทั้งห้าถือกำเนิดจากประมุขจิ่วซานและประมุขหญิงจิ่วหงผู้ครอบครองผืนป่าชั้นนอกและผืนป่าชั้นใน ตามคำทำนายเส้นชะตาแรกเกิด ณ ใต้ต้นอู่ถง จิ่วเวยคือว่าที่ประมุขของเผ่าจิ้งจอกเก้าหาง ด้วยนิสัยร่าเริง แจ่มใสและดื้อรั้นเอาแต่ใจจึงมักนำมาซึ่งความเดือดร้อนให้กับเผ่าพันธุ์ เดิมทีจิ่วเวยที่กำเนิดมาถึงสามร้อยปี หางทั้งเก้าควรงอกออกมาอย่างสวยงาม ทว่าด้วยความเกียจคร้านบำเพ็ญตบะ หางจึงงอกออกมาเพียงเจ็ดหาง จิ่วเวยมักโดนเหล่าจิ้งจอกน้อยในเผ่าหยามหมิ่นและเรียกขานว่า“ประมุขน้อยผู้ไม่เอาไหน”

 

ไป๋หู่ ราชาเสือขาวแห่งพื้นบาดาล ชาวบาดาลหรือเผ่าภูตน้ำ นับว่ามีมิตรภาพอันดีงามกับเผ่าเทพมาอย่างช้านาน ไป๋หู่มีอายุขัย ห้าร้อยปี เท่ากับชิงหลงและเข้าศึกษาสำนักศึกษาชั้นฟ้าที่สองในฐานะสหายร่วมเรียน ทั้งสองสู้รบปราบปีศาจมารร้ายด้วยกัน นับว่าเป็นสหายรู้ใจ มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกลมเกลียว ไป๋หู่มีฉายาว่า” เทพสงครามไป๋ “ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาหมดจด แต่ฝีมือในการสู้รบจบศึกเป็นหนึ่งในใต้หล้าไม่มีผู้ใดทัดเทียม

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว