บทนำ
ณ ร้านอาหารแห่งหนื่ง
“ผมมีอะไรจะให้คุณด้วย”
“อะไรเหรอคะ?”
“เอามือมาสิ” ไอซีดึงแขนดาวมาแล้วเอาสร้อยข้อมือประดับเพชรน่ารักๆ เส้นหนึ่งใส่ให้ดาว
“เออ...ให้ดาวเหรอคะ” เธอถามพร้อมทำหน้าอื้งนิดหน่อย
“ใช่” ไอชีตอบกลับพร้อมยิ้มหวานโชวฟันใส่เธอตามสไตล์ของเจ้าตัว
“ไม่เอาดีกว่าค่ะ ดาวไม่อยากได้” เธอบอกพร้อมแกะสร้อยคืนให้เขา อีกคนก็ทำหน้างงว่าเมียตัวเองเป็นอะไร
“ทำไม คุณไม่ชอบเหรอ”
“ค่ะ ดาวไม่ชอบใส่เครื่องประดับ”
“กลัวผมคิดเงินเหรอ ผมตั้งใจให้”
“ดาวรู้ค่ะ แต่ดาวรับไม่ได้จริงๆ”
“ทำไม บอกเหตุผลจริงๆ ได้ไหม”
“ความจริงเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกันอยู่แล้ว แล้วอีกไม่นานเราก็จะหย่ากันดาวไม่อยากมีอะไรทำให้มันเป็นข้อผูกพันระหว่างเราแล้วอีกอย่างมันก็น่าจะแพง ดาวไม่เหมาะกับอะไรแบบนี้หรอก คุณเก็บไว้เถอะ”
คำพูดของดาวทำให้เขารู้สึกจี๊ดๆ ขึ้นมาที่ใจแบบบอกไม่ถูกเหมือนกับดาวตั้งใจไม่อยากจะผูกพันกับเขาจริงๆ ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมานานหลายเดือนดาวไม่เคยเรียกร้องหรือร้องขออะไรจากเขาเลยทั้งที่ตอนแรกเขาคิดว่าดาวก็น่าจะเป็นแค่ผู้หญิงที่ชอบเงินมากๆ คนหนึ่งแต่มาถึงวันนี้มันทำให้เขาได้รู้แล้วก็มองดาวเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
“คุณคงจะรอแต่วันที่จะได้หย่ากับผมใช่ไหม”
“ค่ะ แน่นอนอยู่แล้วคุณเองก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
“อื่ม ผมเข้าใจแล้ว ถ้าไม่อยากรับก็แล้วแต่คุณผมจะเก็บมันเอาไว้” เขาได้แต่เก็บสร้อยนั้นกลับเข้ากระเป๋าตัวเองด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกมันรู้สึกนอยๆ หน่วงๆ ยังไงก็ไม่รู้
“ดาวขอโทษนะคะ”
“ขอโทษเรื่องอะไร?”
“ขอโทษที่เสียมารยาท แต่ครั้งหน้าคุณไม่ต้องเอาอะไรมาให้ดาวแล้ว”
“ไม่เป็นไร มันเป็นสิทธิ์ของคุณที่จะไม่รับ”
“ค่ะ ขอบคุณที่เข้าใจ”
“ถ้าคุณหย่ากับผมแล้วคุณคิดว่า...จะไปทำอะไรจะไปอยู่ไหน?” เขาถามเธอด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“ดาวก็ยังไม่รู้เหมือนกัน บางทีดาวอาจกลับบ้านแล้วไปหาทำไร่ทำสวนทำกิจการเล็กๆ ที่บ้านมั้งไม่แน่ใจเหมือนกันดาวยังไม่ได้คิดเรื่องนั้นจริงจังเลย”
“จะไม่อยู่ที่นี่ต่อแล้วเหรอ”
“คิดว่าหน้าจะอยู่ต่อไม่ได้แล้วละค่ะ”
“ทำไม?” เธอนั่งคิดอยู่นานพอควรก่อนจะยี้มแห้งๆ แล้วตอบกลับมา
“ความจริงดาวไม่ได้อยากอยู่ในเมืองตั้งแต่แรกอยู่แล้วความฝันของดาวคือการได้อยู่ป่าดงพรงไพรทำไร่ทำนาอยู่กับธรรมชาติใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายไม่ต้องมีอะไรที่มันหวือหวาแล้วก็วุ่นวายที่ดาวมาอยู่ที่นี่ดาวก็แค่มาทำงานเก็บเงินก็เท่านั้น”
“ฟังดูเรียบง่ายดีนะดูไม่ยุ่งยากซับซ้อนไม่ต้องพยายามทำอะไรให้มันดูเว่อร์ดูแพงในสายตาใครแค่เรามีความสุขก็พอแล้ว”
“ใช่ค่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่มีอะไรเลยแต่ว่ามันก็มีความสุขดี”
“เราอยู่ด้วยกันมาตั้งนานผมยังไม่รู้เลยว่าบ้านจริงๆ คุณอยู่ไหน บอกผมหน่อยได้ไหมเพื่อว่าวันหนึ่งถ้าเราเลิกกันไปแล้วผมอาจอยากไปเยี่ยมคุณก็ได้”
“ดาวว่าคุณไม่รู้จะดีกว่าเพราะดาวไม่ได้อยากให้คุณไป จบแล้วก็คือจบไม่ต้องรู้จักกันไม่ต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก”
“แค่อยากรู้ก็ไม่ได้เหรอ”
“ไม่ได้ค่ะ”
“ผมถามจริงๆ นะดาว คุณเกลียดผมเหรอทำไม…คุณถึงไม่อยากให้ผมรู้เรื่องอะไรของคุณเลย”
“ดาวไม่ได้เกลียดคุณแล้วก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ดาวต้องเกลียดคุณเพราะคุณก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเพราะฉะนั้นมันก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องมานั่งเกลียดกัน ใช่มั้ย”
“ไม่ได้เกลียด แต่ก็ไม่คิดจะรัก ใช่ไหม”
“ไม่ ดาวไม่เคยคิดแบบนั้นเพราะดาวรู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ดาวรู้ว่าดาวเป็นใครแล้วคุณเป็นใครดาวอยู่ในฐานะอะไรดาวรู้ทุกอย่างดีแล้วก็สำเหนียกตัวเองอยู่เสมอว่าดาวเป็นแค่เมียกำมะลอของคุณเท่านั้นไม่มีทางจะเป็นตัวจริงของคุณได้”
“แล้วถ้าผมอยากให้มันเป็นจริงล่ะ คุณยังจะปฏิเสธผมอยู่ไหมตอนนี้เราสองคนก็ไม่ได้ต่างอะไรจากผัวเมียกันจริงๆ เพราะเราไม่ได้แค่แต่งงานกันเล่นๆ แต่เราอยู่ด้วยกันนอนด้วยกันใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทุกวันน่ะ”
“มันก็แค่เพื่อความสมจริงเหมือนที่คุณบอกเท่านั้นคุณอย่าไปคิดอะไรมากดาวเป็นผู้หญิงยังไม่เห็นจะคิดอะไรเลยเราก็ไม่มีใครได้ไม่มีใครเสียอยู่แล้วในเมื่อคุณก็โสดดาวเองก็โสดผู้หญิงผู้ชายอยู่ด้วยกันถ้ามันจะมีอะไรกันมันก็ไม่แปลกหรอกแต่ถ้าคุณไม่ทำอะไรดาวเลยแบบที่บอกตอนแรกจริงดาวว่าน่าจะแปลกมากกว่า”
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา ที่เราอยู่ด้วยกันมาตลอดคุณไม่เคยคิดอะไรกับผมเลยจริงๆ เหรอดาว”
“ไม่ ไม่เคย ไม่เคยมีความคิดนั้นอยู่ในหัวของดาวเลยแม้แต่นิดเดียวก็ไม่มีคุณสบายใจได้ เเล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าถ้าถึงเวลาเเล้วดาวจะยื้อเวลาไม่หย่ากับคุณเพราะดาวพร้อมเซ็นใบหย่าให้คุณได้ตลอดทุกเวลาที่คุณพร้อมแล้วก็ต้องการมัน”
“ผมเข้าใจแล้ว ผมขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะ คุณตามสบาย”
“ค่ะ” เธอมองแผ่นหลังของเขาเดีนจากไปจนสุดสายตา ก่อนจะถอนหายใจออกมายาวๆ หนื่งที มองลงไปที่แหวนบนนิ้วนางข้างช้ายของเอง แล้วหัวใจมันก็กระตุกหวูบเมื่อคิดไปถึงวันที่ต้องถอดมันคืนไปให้เขา
**********************************