ณ ดินแดนอันกว้างใหญ่ของอาณาจักร“เอเลนดอร์” เสียงเพลงไม่ได้เป็นเพียงแค่ความบันเทิงเท่านั้น แต่เป็นพลังเชื่อมโยงหัวใจของผู้คนและธรรมชาติเข้าไว้ด้วยกัน บทเพลงแห่งชีวิต ที่ถูกถ่ายทอดผ่านรุ่นสู่รุ่น เป็นสิ่งค้ำจุนความสงบสุขของอาณาจักรมาหลายศตวรรษ
ภายใต้ฟากฟ้าที่ครั้งหนึ่งเคยปกคลุมไปด้วยความสงบสุขของอาณาจักรเอเลนดอร์ ทว่าหมอกดำได้ค่อยๆแผ่กระจายไปทั่วท้องฟ้าดุจม่านหมอกแห่งความเศร้าหมอง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยเป็นดั่งภาพฝันงดงาม บัดนี้กลับเลือนรางราวกับไม่มีวันหวนคืนมาอีกครั้ง เมื่อผู้ครอบครองพลังเงามืดโบราณหวนกลับมา พร้อมบทเพลงต้องห้ามที่มีอำนาจบิดเบือนจิตใจของผู้คน ให้กลายเป็นเครื่องมือของเขา เสียงเพลงที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเครื่องมือแห่งความรักและความสามัคคี บัดนี้กลับแปรเปลี่ยนเป็นภัยคุกคามที่แผ่ขยายออกมาราวกับเงามืดในยามราตรี มันไม่ได้เพียงแค่สร้างความเสียหายให้กับสถานที่เท่านั้น แต่ยังแทรกซึมเข้าไปในจิตใจของผู้คน บีบคั้นให้พวกเขาหวาดกลัวและระแวงในทุกย่างก้าว เสียงกระซิบจากเงามืดราวกับคำสาปที่ไม่มีวันสิ้นสุด
เสียงนั้นดังก้องมาจาก “วิหารแห่งรัตติกาล (Sanctum of the Nightfall)” เพลงต้องห้ามที่กรีดลึกลงในหัวใจผู้คน ปลุกเร้าความกลัวและความหวังให้แทรกซึมลึกสู่จิตวิญญาณของผู้คน ราวกับมันค่อยๆ คืบคลานกัดกร่อนจิตวิญญาณและพรากเสียงหัวเราะที่เคยสดใสของพวกเขา ผู้ที่ยังคงเฝ้ารอปาฏิหาริย์ในเงามืดของความสิ้นหวัง
ทว่าภายใต้เงาแห่งความมืดมนนี้… ในหมู่บ้านเล็กๆ ที่แสนสงบเงียบ “อลิอาห์” หญิงสาวผู้เรียบง่าย ใช้ชีวิตอยู่กับขลุ่ยไม้เก่าที่เป็นสมบัติของครอบครัว เธอไม่เคยรู้เลยว่าขลุ่ยชิ้นนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยเหลืออาณาจักรต้านทานเสียงเพลงแห่งภัยคุกคามนี้ได้
ในคืนหนึ่งที่ฟ้าสว่างไสวด้วยดวงดาว เสียงเพลงจากขลุ่ยของเธอดังก้องไปทั่วหมู่บ้าน แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่แค่เสียงเพลงธรรมดา มันปลุกพลังที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอ ทำให้เธอสามารถเปลี่ยนเสียงเพลงให้กลายเป็นความอบอุ่นที่เคยสูญหาย ค่อยๆกลับหวนคืนสู่หัวใจพวกเขา เหมือนสายลมที่พัดพาความหวังในฤดูใบไม้ผลิ แต่อลิอาห์ไม่รู้เลยว่า พลังนี้ไม่ได้เป็นเพียงพรสวรรค์ แต่มันคือภาระหน้าที่ที่เธอต้องแบกรับ ที่จะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้กลับคืนสู่สิ่งที่มันควรจะเป็น
เมื่อหมอกดำมาถึง อลิอาห์รู้ดีว่าความสามารถของเธอไม่ได้มีไว้เพียงเพื่อเป่าบทเพลงในหมู่บ้านอีกต่อไป เธอต้องใช้มันเพื่อปกป้องอาณาจักร บทนำของ “ลำนำแห่งรัก” เริ่มต้นด้วยความมืดมิด แต่ยังคงไว้ซึ่งแสงสว่างแห่งความหวัง แม้มันจะเล็กน้อยและริบหรี่เพียงใดก็ตาม แต่เปลวไฟเล็กๆ นี้อาจเป็นสิ่งเดียวที่เหลืออยู่เพื่อส่องนำทางให้ฟากฟ้าสงบสุขกลับมาอีกครั้ง การเดินทางที่เต็มไปด้วยบททดสอบและความรักกำลังจะเริ่มต้นขึ้น และบทเพลงแห่งนิรันดร์นี้จะก้องกังวานไปชั่วกาลนาน