ถ้ามีความรักทั้งทีก็อยากได้รักที่ดี สมบูรณ์แบบที่สุด เมื่อวัย20ต้นๆ ทางเลือกนั้นมีมากมายจนเธอเลือกได้ไม่หมด ต้องคัดแล้วคัดอีกเพื่อให้ได้ตัวเลือกที่ดีที่สุด จนหญิงสาวถูกเพื่อนๆ แซว
“นี่แกเลิกกับแฟนอีกแล้วเหรอ?! คนนี้ก็หล่อดีนิ แกต้องการคนแบบไหนกันแน่วะ?” หญิงสาวในชุดมหาลัยสีขาวสะอาดตายกแก้วเหล้ากระดกเข้าปากภายในห้องพักทำให้มายที่ได้ฟังกระดกลิ้นไม่ชอบใจก่อนซัดเหล้าเข้าปากไปอีกคน
“คนที่ทำให้ฉันรู้สึกว่า…คิดไม่ผิดที่ได้คบกัน เป็นความรักที่สมบูรณ์แบบอะไรแบบนี้ล่ะมั้ง” มายที่เริ่มเมาพูดไปด้วยสติที่เลือนราง เธอก็แค่อยากหาใครสักคนที่จะมอบความรักที่สมบูรณ์แบบให้เธอได้ แต่คำพูดของเธอทำให้เพื่อนสาวถามกลับมาอย่างไม่เข้าใจ
“แล้ว..ความรักที่สมบูรณ์แบบมัน..เป็นยังไงวะ?” พอสิ้นคำพูด เพื่อนสาวก็ฟุบหลับคาเตียงไปทันที มายยกแก้วดื่มอีกครั้งก่อนหัวเราะเบาๆ และพูดขึ้นมา
“นั่นสิ…ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน” แม้แต่เธอเองก็ไม่เข้าใจถึงความต้องการของตัวเองเลยด้วยซ้ำ
พระเจ้าขา ถ้าลูกช้างไม่บาปหนาจนเกินไป ก่อนจะลาโลกนี้ไปช่วยทำให้ตัวฉันรู้ทีได้ไหมคะ
ว่าความรักที่สมบูรณ์แบบมันเป็นยังไง?
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ในยามค่ำคืนที่ดวงดาวปรากฏบนท้องนภา ความหนาวเย็นที่ทำให้ร่างกายหนาวสั่น แสงไฟสลัวๆ ที่ หรี่ลงกำลังดีทำให้บรรยากาศภายในห้องพักเป็นใจให้กับคู่สามีภรรยาที่ต้องการความรักอันร้อนแรง
“อื้อ~” เสียงครางของมายดังลั่นอย่างไร้การควบคุม เธอบิดตัวไปมาด้วยความรู้สึกที่ยากจะต้านทานแต่มันยังไม่พอ สิ่งที่เธอต้องการมันไม่ยังไม่ใช่แค่นี้ สาวสวยที่ไร้อาภรณ์ใช้มือกดหัวของชายหนุ่มให้แนบชิดกับร่างกายของเธอซึ่งเขาก็ตอบสนองกับการกระทำของหญิงสาวอย่างเต็มที่
“ว้าย!” มายเผลอร้องตกใจเมื่อสามียกเอวเธอขึ้นสูงก่อนบรรเลงเพลงรักจนมายกัดริมฝีปากด้วยความชอบใจ ความรู้สึกดีมันแผ่ซ่านในร่างกายเล็กๆ ของเธอจนหญิงสาวตาลอยก่อนเสร็จสมด้วยบทเพลงรักของสามี
“ไหวไหมครับ” เอ็มยิ้มหวานเมื่อร่างของมายนอนกระตุกซ้ำไปซ้ำมาบนที่นอนนุ่มๆ ที่บัดนี้เปียกชุ่มจนไม่เหลือชิ้นดี มายแก้มพองอย่างแง่งอนที่เธอสิ้นท่าให้กับเขาอีกครั้ง ร่างกายที่หมดซึ่งเรี่ยวแรงทำให้เปลือกตาปิดลงก่อนที่สติจะดับไปในนิทรา
เอ็มอมยิ้มมองหญิงสาวที่เขารักหมดหัวใจอยู่เนิ่นนาน เขาโน้มตัวมาหอมแก้มหญิงสาวอย่างแผ่วเบาพลางโอบกอดเธอไว้ในอ้อมแขนและหลับไหล
ในค่ำคืนที่มีเพียงสองเรา
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“ผมไปก่อนนะที่รัก” เอ็มสวมชุดสูทก่อนยกกระเป๋าเตรียมพร้อมไปทำงาน แต่งงานกันมา5ปีแล้วเขาก็ยังคงเรียกเธอว่าที่รักอยู่ทุกวี่วัน พอถามว่าทำไมต้องเรียกอย่างงั้นตลอด เขาก็ตอบกลับมาตาใสๆ ว่า
‘ก็ผมรักคุณ ไม่เรียกว่าที่รัก จะให้เรียกว่าอะไรล่ะ?’ เอ็มมองหญิงสาวตาเป็นประกายก่อนกอดเธอแน่นจนแทบหายใจไม่ออก นี่คงเป็นความน่ารักที่ทำให้เธอตกหลุมรักเขาล่ะมั่ง
“ผมเตรียมมื้อเช้าให้แล้วนะ” เอ็มชี้ไปที่โต๊ะกับข้าวที่มีซุปร้อนๆ กับปลาแซลมอลย่างที่เธอชอบ มายในชุดนอนพยักหน้าขอบคุณพร้อมรอยยิ้ม ที่จริงเธอต้องเป็นคนเตรียมให้แท้ๆ แต่เพราะร่างกายเจ้ากรรมกลับไปยอมตื่นขึ้นมาทำให้คนเป็นสามีต้องเหนื่อยเพิ่มเข้าไปอีก
“ผมไปทำงานก่อนนะ” เอ็มเข้ามากอดเธอเหมือนทุกวันก่อนจะเปิดประตูห้องเช่าออกไปอย่างเงียบๆ แต่ก่อนจะปิดประตูเขาก็ชะโงกหน้ามาโบกมือให้เธออีกครั้งด้วยความคิดถึง มายอมยิ้มก่อนแบกร่างวัยเกือบ30ไปที่โต๊ะอาหารอย่างยากลำบาก คงเป็นเพราะตอนนี้มันพึ่งจะ6โมงเช้าเองล่ะมั้งทำให้หญิงสาวอยากจะโถมตัวล้มนอนบนเตียงมากกว่า นับถือใจสามีจริงๆ ที่ต้องตื่นไปทำงานตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้ทุกวัน และนี่ยังจะมาทำอาหารให้เธออีก
เขาตื่นกี่โมงกันแน่เนี่ย?
“อร่อยจัง” มายยิ้มมุมปากเมื่อคีบปากแซลมอลเข้าปาก ปลาที่อบไม่แห้งจนเกินไป ความชุ่มช่ำภายในเนื้อปลาทำให้หญิงสาวกินไม่หยุดมือก่อนจะตบท้ายด้วยซุปอุ่นๆ ที่เป็นการจบมื้ออาหารอย่างยอดเยี่ยม เธอเงยหน้ามองเพดานด้วยรอยยิ้ม มันทำให้เธอนึกไปถึงตอนที่เจอกันครั้งแรกเมื่อ5ปีก่อน
‘ปลาร้านนี้อร่อยจัง’ มายเผลอพูดออกมาเบาๆ เมื่อมากินข้าวกับเอ็มที่เป็นเพื่อนร่วมงานแผนกเดียวกันเพราะเขาเอ่ยปากชวนด้วยใบหน้าแดงก่ำจนเธอขำในใจก่อนตอบตกลงมากินด้วย
‘คราวหน้าไปกินปลาแซลมอนกันอีกไหมครับ ผมรู้จักร้านอร่อยๆ เยอะเลย’ เขาพูดด้วยใบหน้าเขินอาย ทำไมผู้ชายคนนี้น่ารักจัง ไม่เหมือนกับคนที่เราเคยเจอเลยสักนิด มายอมยิ้มก่อนเอ่ยแซวไป
‘นั่นเป็นคำขอเดทใช่ไหม?’ เธอยิ้มกว้างก่อนชี้ตะเกียบไปที่หน้าอีกฝ่ายหวังจะให้เขาลนลานแต่เอ็มกลับมองหน้าเธอตรงๆ ก่อนพยักหน้าให้ทำให้หญิงสาวชะงักไป
หัวใจของเธอเต้นรัว รู้สึกตัวอีกทีกลับเป็นเธอซะเองที่มีใบหน้าแดงก่ำ
“หมอนั่นน่ารักไม่เปลี่ยนเลยนะ” มายยิ้มหวานก่อนยกจานไปล้าง ชีวิตการเป็นแม่บ้านของเธอในวันนี้จึงเริ่มต้นขึ้นด้วยประการฉะนี้ หลังจากล้างจานจนเกลี้ยง หญิงสาวก็เริ่มปัดกวาดถูบ้าน ด้วยความที่เป็นห้องพักของคอนโดที่ไม่ใหญ่มากทำให้การทำความสะอาดห้องไม่เหนื่อยจนเกินไป
มายเดินไปที่เตียงนอนในห้องเล็กๆ ที่มีของใช้ของเราสองคน รูปคู่ถูกวางข้างเตียงบนชั้นวางของ เธอมองมันด้วยความสุขที่ล้นออกมาจากหัวใจ
หลังจากที่เรียนจบ มายก็ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนแต่ด้วยการแข่งขันที่สูงลิบบวกกับเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ทำให้เริ่มมีการปลดคนออกเรื่อยๆ และหวยก็ออกที่มายจนได้ เธอคอตกเก็บของออกจากบริษัท หญิงสาวรู้ดีแก่ใจว่าคงไม่มีทางหางานดีๆ ได้แน่ในตอนนี้ ในวินาทีที่หันไปทางไหนก็ไม่เจอเรื่องดีๆ เลยในชีวิต เอ็มก็วิ่งหน้าตั้งมาหาเธอที่หน้าบริษัทก่อนจะพูดว่า
‘ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะดูแลมายเอง’ เขาพูดก่อนหยิบกุญแจห้องยื่นมาให้เธอ ไม่รู้เธอทำบุญอะไรมาถึงได้มาเจอกับผู้ชายดีๆ แบบนี้ เอาเข้าจริงถ้าเป็นตัวเราสมัยก่อนคงไม่มองเอ็มเลยด้วยซ้ำ รูปร่างหน้าตาและฐานะของผู้ชายที่เราตั้งไว้มันสูงลิบกว่าเอ็มไปไกลโข แต่เขาก็เป็นคนที่ทำให้เราเข้าใจว่า
ความรักมันเป็นยังไง
‘เราคิดถูกแล้วล่ะที่เลือกเขา’ มายนำมาผ้าปูที่นอนที่เปียกชุ่มไปซักอย่างสบายอารมณ์รู้สึกตัวอีกทีก็เกือบ6โมงเย็นแล้ว แสงตะวันแปรเปลี่ยนเป็นสีส้มทอดเงาประกายผ่านหน้าต่างห้องที่เป็นรังรักของเรา
“กลับมาแล้ว” บานประตูห้องเปิดออกก่อนที่เอ็มจะก้าวเข้ามาด้วยใบหน้ายิ้มหวานทันทีที่ได้เจอกับเธอ
“กลับเร็วจัง” เธอทักก่อนเข้าไปยกกระเป๋าทำงานของเอ็มให้ ชายหนุ่มกลับบ้านเร็วทุกวัน ไม่เคยเห็นเขาไปเที่ยวสังสรรค์ที่ไหน แม้แต่ดื่มเหล้าเธอก็ยังไม่เคยเห็นเขาดื่มเลยสักครั้ง จนมายอยากจะให้เขาออกไปผ่อนคลายให้หายเหนื่อยบ้าง
ตอนที่ทักไปแบบนั้นเอ็มก็ตอบกลับมาทันที ‘แค่ได้เห็นหน้ามาย ผมก็หายเหนื่อยแล้วล่ะ’ ประโยคน่าอายที่เจ้าตัวพูดอย่างไม่มีสีหน้าเก้อเขินใดๆ ทำให้มายหันหน้าหนีด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ
นี่เขาจะทำให้เธอเขินสักกี่รอบถึงจะพอใจกันฮะ?!
“ผมรักมายนะ” เขาเข้ามากอดเธออย่างโหยหาทั้งๆ ที่เราก็เจอหน้ากันทุกวันทำให้หญิงสาวโอบกอดเขาไปพลางหัวเราะให้กับความคิดของตัวเองสมัยก่อน
รูปร่างหน้าตาที่ดี
ฐานะที่ร่ำรวย
ของแบบนั้นเธอไม่เอาก็ได้…ถ้าได้อยู่กับชายคนนี้
“ฉันก็รักนาย..เหมือนกัน” มายพูดเสียงหวานก่อนจะรีบเตรียมกับข้าวให้กับเขา แต่ก่อนที่จะได้หันไปทางครัว ชายหนุ่มก็อุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าหญิงแล้วเดินไปที่ห้องนอน
“นี่ไม่กินข้าวหรือไง?” มายหรี่ตามองชายหนุ่มด้วยใบหน้าเขินอายอย่างรู้ชะตากรรม เอ็มยิ้มกว้างก่อนมองเธอด้วยใบหน้ากระหายราวกับเธอเป็นของหวานที่น่าลิ้มลอง
“ตอนนี้ผมอยากกินมายมากกว่าน่ะ” เอ็มหัวเราะเบาๆ ทำให้มายตีไปที่อกแกร่งอย่างเก้อเขินก่อนจะโน้มตัวไปกระซิบข้างหูของชายหนุ่ม
“ค่อยๆ กินนะคะ”
เพียงสิ้นเสียงเอ็มก็วิ่งไปที่ห้องนอนก่อนโยนร่างของเธอลงบนเตียง ชายหนุ่มพูดตะกุกตะกักเหมือนครั้งแรกที่เราได้คุยกัน
“ผมจะกินไม่ให้เหลือเลย!” ชายหนุ่มกระโจนเข้าหาเธอทำให้หญิงสาวยิ้มหวานด้วยความสุข
ในห้องเล็กๆ อบอวลไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเราทั้งสอง บทเพลงรักบทใหม่ได้เริ่มขึ้นและครั้งนี้บทโหมโรงเล่นนานซะด้วย
ความรักที่สมบูรณ์แบบมันเป็นยังไงเธอก็ไม่รู้เหมือนกันแต่ที่เธอตอบได้แน่ๆ ก็คือ
ความรักของเธอในตอนนี้นั้นได้คะแนนเต็มร้อยเลย
อ่า สงสัยต้องซักผ้าปูที่นอนอีกแล้วสินะ