คำโปรย
“เยว่ฝูกล่าวไว้ หากทิ้งอวี้เอ๋อร์เอาไว้เพียงลำพังกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย เลยต้องให้ติดสอยห้อยตามเจ้าไปปรโลกด้วยพร้อมกัน ข้าฟังแล้วก็นับว่าพอมีเหตุผล” เขาปั้นสีหน้ายิ้มอย่างจนปัญญา
“ท่านพ่อ..” เด็กน้อยสามขวบร้องไห้งอแง คล้ายจะไม่เข้าใจ พยายามจะโผเข้าอ้อมกอดของบิดา
“ไปอยู่กับแม่เจ้าเถอะนะเด็กดี” เขาสะบัดมือเล็กออก เอ่ยอย่างไม่อนาทรร้อนใจ
“แม้กระทั่งเลือดเนื้อเชื้อไขของตน ท่านก็ไม่ต้องการอย่างนั้นหรือ!”
“ยิ่งเยว่ฝูคลอดบุตรชายออกมา นางก็ยิ่งเอาแต่ใจมากขึ้นทุกที ข้าคร้านที่จะใจเย็นขัดใจนางเรื่องของเจ้ากับลูกแล้ว”
“แม้แต่เศษเสี้ยวหัวใจ เจ้าก็ไม่มีให้พวกเราสองแม่ลูกเลยหรือ!”
“เยว่ฝูต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมามากพอแล้ว ข้าเพียงอยากให้นางได้มีชีวิตที่ดีบ้าง”
“แล้วข้ากับลูกทำผิดอันใด มิใช่ว่าคอยปกป้องดูแลนางจากบ้านรองมาโดยตลอดรึ!”
“เจ้ากล่าวได้ถูกต้องแล้ว เรื่องนี้โทษเจ้าไม่ได้ เจ้ามิผิดอันใดเลย เป็นข้าที่ผิดเอง เพื่อเยว่ฝูแล้ว.. ข้าล้วนทำได้ทุกอย่าง” แม้กระทั่งฆ่าลูกในไส้ของตนเอง
ฉัวะ! ดาบคมถูกฟันอย่างเลือดเย็นไร้ปราณีลงมาเฉียดลำคอระหงในดาบเดียว
ร่างบอบบางเกือบขาดออกจากกันเป็นสองท่อน ร่างเล็กในอ้อมแขนถูกฟันจนแขนและขาขวากระเด็นหลุดออกไปคนละทิศละทาง สองแม่ลูกกรีดร้องดิ้นทุรนทุราย ความเจ็บปวดรุนแรงพลันถาโถมซัดเข้าใส่แทบเกือบสิ้นลม
“ฮือ.. ท่านพ่อ.. อวี้เอ๋อร์เจ็บเหลือเกิน..” ริมฝีปากเล็กเบะสะอื้นไห้เสียงขาดๆ หายๆ ยังร้องเรียกหาบิดาเสียงอู้อี้ก่อนจะหมดสติไป
บนใบหน้าไร้ปราณีแสดงอาการสั่นไหว ขาขวาอ่อนทรุดเซถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ก่อนจะเหยียดหลังตั้งตรงกลับมาสีหน้าปกติอย่างรวดเร็ว รีบยกมือขึ้นซับเลือดของบุตรชายที่สาดกระเซ็นมาโดนใบหน้าออก ก่อนจะหมุนกายจากไปทันที
“ต่อให้กลายเป็นผี! ข้าก็จะไม่ละเว้นพวกเจ้า!”