ยุพินถูกเลี้ยงดูด้วยป้าและลุงเขยที่ดีกับเธอมาก แต่พออยู่นานไปลุงเขยกลับมองเธอด้วยสายตาแทะโลม เธอที่ไม่มีที่ไปก็ต้องจำใจอยู่ เพราะป้าของเธอดีกับเธอมาก เธอทำงานขยันขันแข็งทำทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นงานเกษตร หรืองานรับจ้างทั่วไปได้เงิน 5 บาท 10 บาท 100 บาท 200 บาทเธอก็ทำเพื่อที่จะได้เป็นทุนไว้เรียนต่อให้จบม. 6 เรื่องงานบ้านเธอก็เป็นคนทำหมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาหารทำความสะอาด ทำอาหารล้างถ้วยจานชาม หรือซักผ้าของลุงและป้าก็เป็นเธอที่ทำทั้งหมด เพราะเธอสงสารป้าที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เด็ก ด้วยพ่อแม่ของเธอไม่ยอมพาเธอไปอยู่ด้วย แต่สุดท้ายเรื่องไม่เป็นอย่างที่คิด คืนนึงลุงเขยได้เข้าหาเธอ เธอจึงใช้มีดที่แอบไว้ใต้หมอนแทงจนลุงเขยได้รับบาดเจ็บ ป้าของเธอจึงเผยธาตุแท้ออกมา ป้าด่าทอเธอไม่พอยังทุบตีเธออีก และยังพูดออกมาหมดว่าไม่ได้รักเธอเลยที่เลี้ยงเธอ ก็เพราะพ่อกับแม่ของเธอส่งเงินมาให้ แต่เงินที่พ่อกับแม่เธอส่งให้ป้านั้น เธอกลับไม่เห็นเลยแม้แต่บาทเดียว เธอจึงตัดสินใจมาทำงานที่กรุงเทพฯ โดยการช่วยเหลือของชาวบ้าน และทุกคนที่สงสารเธอ เพราะเรื่องนี้เธอได้ไปแจ้งความจึงกลายเป็นเรื่องใหญ่โตนั่นเอง ทุกคนสงสารเธอและช่วยเหลือเธอด้วยการให้เงินเธอบ้างแต่ไม่มาก เธอมาอยู่กรุงเทพฯโดยที่ไร้เงาพ่อกับแม่เช่นเดิม เธอทำงานได้ 1 ปีเต็มด้วยความขยันและอดทน แต่สุดท้ายเธอก็ได้จากโลกไปในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆด้วยวัยเพียงแต่ 19 ปีเท่านั้น
แคว้นหนานเหอ ที่ตอนนี้ได้มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น โดยมีสตรีนางหนึ่งที่แต่งงานกับบุรุษที่นางรักมาก และใจจดใจจ่อนั่งรอเขาที่ห้องหอ แต่สุดท้ายนางกลับมิได้เห็นหน้าเจ้าบ่าวด้วยซ้ำ เพราะนางถูกพิษจนตาย สาวใช้ต่างร้องไห้เสียใจ และได้มีสาวใช้นางนึงรีบวิ่งออกไปแจ้ง แก่บิดามารดาของนางทันที และได้บอกกล่าวเจ้าของจวนนี้ด้วย
"ฮือๆ ฮึก ฮูหยินเจ้าค่ะท่านฟื้นขึ้นมาสิเจ้าคะ ท่านเป็นอันใดไป ไปตามท่านหมอมาเร็วเข้าฮูหยินข้ากะอักเลือดนอนหมดสติไปแล้ว ผู้ใดก็ได้ช่วยฮูหยินข้าที ฮึก ฮือๆๆๆ"
สาวใช้อีกนางร่ำไห้ปานใจจะขาดตะโกนออกมาจากด้านใน มินานทุกคนที่อยู่ในงานก็มารวมตัวกันอยู่หน้าห้องหอ ของสตรีผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นฮูหยินหมาดๆ
"บุตรสาวของข้าเป็นอย่างไรบ้าง นางเป็นเช่นไรผู้ใดทำนางบอกข้ามาเดี๋ยวนี้"
มารดาของเจ้าสาวเอ่ยขึ้นเสียงดัง พร้อมทั้งเดินเข้าไปเปิดประตูด้วยความเร่งรีบทันที แต่ทันใดนั้นเองผู้ที่สลบนอนกระอักเลือดอยู่ กลับลุกขึ้นมานั่งบนเตียงด้วยสีหน้างุนงง นางมองไปรอบๆด้วยความงุนงงและสงสัยมินานก็มีบุรุษผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น
"ชิงเออร์ลูกเป็นอย่างไรบ้างบอกพ่อมาผู้ใดทำเจ้า พ่อจะจัดการมันผู้นั้นเดี๋ยวนี้"
"น้อยๆหน่อยท่านหวัง ที่นี่จวนของข้ามิมีผู้ใดกล้าทำอันใดนางได้แน่ ท่านเอ่ยเยี่ยงนี้ดูเหมือนกำลังดูถูกตระกูลของข้าใช่หรือไม่"
นายท่านของจวนเอ่ยขึ้นอย่างมิพอใจ และยังมีบุรุษหน้าตาหล่อเหลาอีกผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นอีก
"ชิงเออร์เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง หืมม"
แต่ก็ยังมีบุรุษหล่อเหลาอีกผู้หนึ่ง ที่นางมองแล้วหัวใจของนางถึงกับกระตุกวูบ นางจ้องมองเขาอยู่นานเขาช่างหล่อเหลายิ่งนัก แต่เมื่อเขาเอ่ยขึ้นมาเท่านั้นแหละ นางถึงกับจุกอกและงุนงงสงสัยมากกว่าเดิม
"หึ เจ้าตัวต้นเรื่องมิคิดจะเอ่ยสิ่งใดออกมาหรืออย่างไร"
เขาเอ่ยคำพูดออกมาคล้ายมิพอใจและสายตาดูแคลน หรือจะมองด้วยสายตารังเกียจก็ว่าได้ แต่ชุดที่เขาใส่อยู่เหตุใดเป็นสีแดง คล้ายงานแต่งยุคจีนโบราณ นางจึงก้มลงมองตนเอง ตนเองก็ใส่ชุดสีแดงเช่นกัน จากนั้นนางก็มองซ้ายทีขวาทีมองไปด้านหน้าที และมองกลับมาหาสตรีวัยกลางคนผู้หนึ่ง ที่นั่งกอดนางอยู่และมองมาที่นางด้วยสายตาห่วงใยและรักใคร่ ซ้ำยังใช้คำแทนตนเองว่าแม่ และมองไปที่บุรุษวัยกลางคนที่ใช้แทนคำของตนเองว่าพ่อ นางงุนงงเป็นอย่างมาก ตอนนี้ทั้งปวดหัวตาลายสุดท้ายนางก็ทนมิไหวจึงได้สลบไปอีกคราส่วนผู้ที่เป็นลมล้มพับไปนั้น หาได้เป็นสตรีนางนี้ที่พึ่งผ่านพิธีแต่งงานมามินานไม่ แต่เป็นยุพินที่พึ่งตายไป แต่กลับมาเข้าร่างของสตรีผู้นี้นั่นเอง?