ยัยตัวร้ายพิชิตใจซาตาน
2
ตอน
2.84K
เข้าชม
58
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
1
เพิ่มลงคลัง

บทนำ

เสียงร้องตะโกนที่ดังขึ้นกลางบ้านทรงยุโรปสีขาวหลังใหญ่ใจกลางเมืองหลวงไม่ได้ทำให้คนหลายคนที่กำลังง่วนอยู่กับบางสิ่งบางอย่างในห้องครัวแปลกใจ แม้มันจะเป็นวันเสาร์แต่บ้านหลังนี้ก็ไม่เคยเงียบเหงาเพราะปารุ หรือปารุดาคงจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่ ปริชมนเด็กสาววัยสิบสามสบตากับคุณนวลพรรณมารดาของเธอเพื่อดูว่า มารดาจะหมดความอดทนเอาเมื่อไหร่

“แม่ขา แม่...” เสียงแหลมใสของเด็กหญิงวัยสิบขวบดังลั่นห้องครัวไปหมด ทุกคนในห้องหยุดมือและหันไปมองเธอเป็นตาเดียว สภาพผมที่ยุ่งเหยิงของเธอช่างคุ้นตา หากแต่สีหน้าตื่นๆ เช่นนั้นก็อดทำให้คนอื่นๆ อยากรู้ไม่ได้ว่ามันมีเรื่องร้ายแรงอะไรเกิดขึ้นจากฝีมือของเด็กหญิงคนนี้อีก

“เบาๆ ก็ได้ปารุ ไม่มีใครหูหนวกสักคน แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่า เลิกตะโกนสักทีเวลาอยู่ที่บ้าน” ทันทีที่ถูกเอ็ด เด็กหญิงก็เบ้ปากเหมือนเซ็งที่ไม่วายถูกดุเอาอีกแล้ว

“แล้วตกลงมีเรื่องอะไรเหรอปา” น้ำมนต์หรือปริชมนพี่สาวเอ่ยถาม

“ข้างบ้านค่ะ ข้างบ้านเขาย้ายมาแล้ว”

“แล้วทำไมต้องตื่นเต้นขนาดนี้ด้วยล่ะ” ปริชมนส่ายหน้านิดๆ มองน้องสาวด้วยความระอาใจ

“ก็แล้วมันไม่น่าตื่นเต้นเหรอพี่มนต์ เราอยู่ที่นี่มาตั้งหลายปี ไม่เคยมีเพื่อนบ้านเลย แต่วันนี้เราจะมีเพื่อนบ้านแล้วนะ”

“ก็แค่เพื่อนบ้านเอง”

“ใครบอกว่าแค่... พี่มนต์น่ะ ไม่รู้อะไร บางทีบ้านนั้นเขาอาจจะมีลูกวัยเดียวกับปาก็ได้ ทีนี้ล่ะ ปาก็จะมีเพื่อนบ้านเหมือนคนอื่นๆ เขาซะที” พูดจบปารุดาก็หัวเราะลั่นด้วยความถูกใจ อ้นแม่บ้านวัยสามสิบกว่าหัวเราะขำน้อยๆ มองเด็กหญิงด้วยสายตาเอ็นดูอย่างเปิดเผย แม้ปารุดาจะดื้อ ซน แก่นไม่เหมือนเด็กผู้หญิง แตกต่างกับพี่สาวราวกับไม่ใช่พี่น้องคลานตามกันมา แต่ปารุดาก็น่ารักและเป็นที่รักของทุกคนในบ้านมาก

“เขาอาจจะไม่มีลูกก็ได้ อาจจะเป็นแค่คุณตาคุณยายแก่ๆ” ปริชมนแกล้งแหย่น้องสาว ปารุดานิ่งคิดสีหน้าเครียดขึ้นทันที เธอหัวเราะขำจนปารุดาจับได้ว่าถูกพี่หลอกเอา ปารุทำหน้าจะเอาเรื่องพี่สาวแต่แล้วนวลพรรณที่เห็นอาการก็ห้ามเสียก่อน

“พี่เขาก็แค่ล้อเล่น ปาจะงอนไปทำไมกันลูก”

“แล้วแม่รู้ไหมคะว่าคนข้างบ้านเราเป็นใคร” นวลพรรณล้างมือที่อ่างล้างมือ หยิบผ้าสีขาวสะอาดบนโต๊ะกลางครัวมาเช็ดแล้วเดินเข้ามาใกล้กับลูกสาวคนเล็กและดึงเธอเข้ามากอด

“เท่าที่แม่รู้ เห็นว่าเป็นครอบครัวสามคนพ่อแม่และลูกชายที่เพิ่งย้ายกลับมาจากอเมริกานะจ้ะ ดูเหมือนลูกชายน่าจะโตกว่าพวกหนู แม่เลยไม่รู้ว่าเขาจะยินดีเป็นเพื่อนลิงปารุหรือเปล่านะสิ”

“แม่ก็...” ปารุดาหน้างอ ปริชมนหัวเราะขำส่ายหน้าและกล่าวสมทบ

“บ้านนั้นอาจจะไม่ต้อนรับลิงแบบปาก็ได้นะ แบบว่าโผล่หน้าไปเขารีบปิดประตูใส่เลย”

“พี่มนต์” เสียงปารุดาดังขึ้นเหมือนเด็กเอาแต่ใจตัวเอง

“พอแล้วมนต์ นี่ก็แหย่น้องอยู่ได้” นวลพรรณค้อนลูกสาวคนโตแม้จะรู้ว่าบุตรสาวไม่ได้คิดจะแกล้งน้องอย่างจริงจังแต่ชอบที่จะแหย่มากกว่า แต่ก็ไม่อยากให้ปารุดางอนมากจนเสียบรรยากาศดีๆ ของวันหยุดเช่นนี้

“ค่ะแม่ พี่ขอโทษนะปา พี่แกล้งเล่นน่ะ” ปารุดามองพี่สาวตาปริบๆ ก่อนจะยิ้มกว้างออกมา เธอรู้ พี่สาวของเธอใจดีและรักเธอมาก แม้บางครั้งจะเย้าแหย่เธอบ้างแต่ก็เป็นการกระทำด้วยความเอ็นดู จะว่าไปแล้ว เธอกับปริชมนเองก็ไม่ค่อยทะเลาะกันเหมือนพี่น้องคู่อื่นๆ สักเท่าไหร่ เพราะปริชมนวางตัวเป็นผู้ใหญ่และติดที่จะให้อภัยเธอเสมอมา

“แต่เราจะไปเจอเขาใช่ไหมคะแม่” ปารุดารีบเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น นวลพรรณเห็นสายตาเว้าวอนของลูกสาวคนเล็กแล้วก็อดใจอ่อนไม่ได้ จึงพยักหน้าแทนคำตอบ แววตาของปารุดาเปล่งประกายขึ้นแทบจะในทันทีที่ความปรารถนาของเธอกำลังจะเป็นจริง

“บ่ายนี้เลยนะคะ เดี๋ยวปาจะไปวาดรูปบ้านของเขาเป็นของขวัญให้เขาดีกว่า จะไปเยี่ยมเขาทั้งทีก็ต้องมีของขวัญไปด้วย จะได้สนิทกันไวๆ” ตากลมโตหรี่จนเป็นสระอิพร้อมมุมปากที่ฉีกยิ้มแทบจะไปถึงหู ปารุดาไม่ได้รอให้ใครเห็นด้วยกับเธอ แต่เลือกที่จะวิ่งออกไปจากห้องครัว พร้อมกับเสียงตึงตังที่ดังห่างออกไปจากชั้นหนึ่งสู่ตัวบ้านชั้นสอง ทั้งสามที่เหลือในห้องต่างก็มองหน้ากันก่อนจะพากันส่ายหน้าหัวเราะขำกับอากัปกิริยาของเด็กหญิงจอมแสบแห่งบ้านภัทรนันท์

“คุณปาเอาภาพไปให้เป็นของขวัญก็ดีนะคะ คุณปาวาดรูปเก่ง เพื่อนบ้านคงจะชอบ” น้าอ้นแม่บ้านออกความเห็นเพราะรู้ดีว่าปารุดาชอบวาดรูปมาก แถมยังมีพรสวรรค์ในเรื่องลายเส้นอีกด้วย นวลพรรณหันไปมองลูกสาวคนโตที่ยังง่วนอยู่กับการตกแต่งจานอาหารตรงหน้าแล้วก็นึกสงสัย

“มนต์ แล้วหนูไม่อยากวาดรูปอะไรไปให้เขาบ้างเหรอลูก” ปริชมนหยุดมือค้างไว้นิดหนึ่งเหมือนชั่งใจคิดอะไรบางอย่างก่อนจะเงยหน้าสบตาแม่และยิ้มออกไปอย่างอ่อนโยน

“มนต์ไม่ชอบวาดรูปแล้วค่ะแม่ มนต์...ชอบทำอาหารมากกว่า” ปริชมนกล่าวน้ำเสียงเรียบๆ นวลพรรณขมวดคิ้วมองลูกสาวด้วยความเข้าใจ ก่อนจะเดินเข้าใกล้และพูดด้วยเสียงที่เบาลง

“แต่แม่รู้ว่าหนูชอบวาดรูปพอๆ กับน้อง แม่ไม่อยากให้หนูเลิกทำในสิ่งที่ชอบ แม่ไม่อยากให้หนูเอาเรื่องของพ่อมาเป็นเงื่อนไขในการบังคับตัวเอง หนูก็เป็นแค่เด็กอายุสิบสาม อยากทำอะไรตามใจตัวเองบ้างก็ได้นะลูก”

ปริชมนได้ฟังคำแม่พูดแล้วก็อดเจ็บร้าวไม่ได้ แต่มันเป็นสิ่งที่เธอตัดสินใจแล้วนับตั้งแต่วันที่สูญเสียพ่อของเธอไป เธอไม่เคยลืมภาพของแม่ที่นั่งรอพ่อจนดึกดื่น หรือแม้แต่ช่วงเวลาที่แม่แอบร้องไห้เพราะน้อยใจพ่อของเธอที่เป็นศิลปินมีชื่อเสียงหากแต่วันๆ ก็ขลุกอยู่แต่กับงานศิลปะในสตูดิโอของเขาเอง จนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิตเขา เขาก็ยังเลือกที่จะอยู่กับงานศิลปะของเขามากกว่าครอบครัวเสียอีก เด็กสาวบอกกับตัวเองต่อหน้าศพของพ่อว่าเธอจะไม่เป็นแบบเขา

นวลพรรณเห็นสายตาของปริชมนก็เดาได้ว่ายากที่จะเปลี่ยนใจลูกสาว ทั้งปริชมนและปารุดาต่างก็เกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์เหมือนกับพ่อของพวกเธอ เด็กทั้งสองรักในงานศิลปะ ชอบวาดรูป ระบายสี และทำมันได้ดีอย่างเห็นได้ชัด หากแต่เมื่อสามีของเธอเสียชีวิตลงจากอุบัติเหตุรถชนระหว่างที่เขากำลังเดินทางจากสตูดิโอเพื่อกลับมาบ้านหลังจากที่ไม่ได้กลับบ้านเกือบสองอาทิตย์เต็ม ปริชมนก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง จากเด็กที่ร่าเริงแจ่มใสก็เคร่งขรึมขึ้นเหมือนพยายามจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ไวๆ จากเด็กที่เคยชอบขีดๆ เขียนๆ ก็กลับพยายามเอาจริงเอาจังด้านวิชาการ หากแต่เมื่อปีก่อน ปริชมนก็ตัดสินใจที่จะเดินตามรอยเท้านวลพรรณด้วยการเริ่มฝึกฝนทักษะทางการทำอาหารและยังบอกกับเธออีกว่าเมื่อโตขึ้นก็ตั้งใจที่จะเป็นเชฟที่มีชื่อเสียงและต้องมีร้านอาหารดีๆ ของตัวเองให้ได้

หญิงวัยกลางคนรู้ดีว่าปริชมนเลือกที่จะเดินตามรอยของเธอซึ่งเป็นทั้งเชฟนักออกแบบและอาจารย์สอนทำอาหารชื่อดัง เพื่อหมายจะทำให้เธอสบายใจ แต่ลึกๆ นวลพรรณก็สงสารลูกที่พยายามจะแบกรับทุกอย่างเอาไว้คนเดียวเช่นนี้ ผิดกับปารุดาที่แม้จะเสียใจกับการจากไปของพ่อ แต่ปารุดานั้นถอดแบบสามีของเธอมาทุกอย่าง ทั้งความคิด ลักษณะ หรือแม้แต่อารมณ์ เสน่ห์เช่นนั้นทำให้คนอื่นๆ ยากที่จะโกรธปารุดาลงได้แม้หลายครั้งเธอจะชอบก่อปัญหาก็ตาม

“แม่คะ” เสียงของปริชมนทำให้นวลพรรณตื่นขึ้นจากภวังค์

“ว่าไงนะลูก” เธอจำต้องเอ่ยถามซ้ำๆ เพราะไม่ทันได้ฟังคำถามของลูกสาว

“เดี๋ยวเราทำพายมะพร้าวอ่อนให้เขาเพิ่มอีกสักถาดดีไหมคะแม่ ไหนๆ ก็มีวัตถุดิบเหลืออยู่แล้ว” นวลพรรณมองตามกองวัตถุดิบที่โต๊ะเตรียมอาหารกลางห้องครัวและพยักหน้าเหมือนเห็นด้วย

“หวังว่าเขาจะเป็นเพื่อนบ้านที่ดีนะคะ ถ้าเป็นเพื่อนบ้านไม่ดีเราคงเซ็งแย่เลย” ปริชมนกล่าวยิ้มๆ นวลพรรณนิ่งคิดก่อนจะตอบ

 

“แม่ว่าทางเราน่ะ ไม่น่าห่วงหรอก ถ้าจะห่วงก็ห่วงพวกเขามากกว่า แค่คิดว่าคุณหนูปารุดาของเราจะป่วนอะไรบ้านใหม่ได้บ้าง แม่ก็สยองแทนแล้วล่ะ” นวลพรรณหมายความตามนั้นจริงๆ เพราะทั้งสีหน้าและแววตาของเธอมั่นใจมากกว่า ลูกสาวคนเล็กจอมแสบของเธอต้องไม่ทำอะไรธรรมดาๆ เหมือนที่คนอื่นๆ เขาทำอย่างแน่นอน เธอได้แต่ภาวนาขอให้ปารุดารู้จักโตเสียที ปริชมนมองหน้าแม่ก่อนจะหัวเราะออกมาพร้อมกับเสียงของน้าอ้นที่อดขำไม่ได้ด้วยเช่นกัน

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว