เป็นเรื่องราวความรักของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่น เพราะมารดาของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็กทำให้เธอใช้ชีวิตกับน้าสาวตามลำพังสองคนเท่านั้น ช่วงที่เธอย้ายบ้าน ข้าว มีอายุสิบสามปีเท่านั้นซึ่งเธอกำลังจะเข้าเรียนชั้นมัธยมหนึ่งในเทอมนี้นั่นเองด้วยความที่เธอเป็นเด็กสาวน่าตาน่ารักและยิ้มแย้มแจ่มใสตลอด จึงมีแต่คนมาหลงรัก
จนวันหนึ่งช่วงที่เธอเดินกลับบ้านนั้นก็มีสุนัขวิ่งไล่กัดเธอ แต่โชคดีที่มี ได เด็กผู้ชายวิ่งเข้ามาช่วยไล่หมาได้ทัน และมารู้ทีหลังว่าเด็กคนนั้นเป็นคนข้างบ้านของเธอนั่นเองซึ่งเขามีอายุสิบห้าปีกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมสามโรงเรียนเดียวกันกับเธออีกด้วย จนวันเวลาผ่านไปทั้งข้าวและไดต่างสนิทสนมกันมากขึ้นในฐานะพี่ชายกับน้องสาวที่ทุกคนต่างขีดไว้ให้แค่นั้น ความรู้สึกที่มีอยู่ภายในใจของข้าวจึงถูกเก็บเอาไว้อย่างเงียบๆ แม้ว่าทั้งสองจะเติบโตมากแค่ไหน ข้าวก็ยังคงตามติดไดไม่ห่างจนไดเองก็ยังล้อบ่อยๆ ว่าข้าวน่ะติดเขาแจมากแค่ไหน
จนเมื่อไดอายุยี่สิบสองก็ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทำให้สูญเสียการมองเห็น แต่เขาสามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด แต่ไดเลือกที่จะปฏิเสธการรักษาเพียงเพราะว่า เขาต้องการให้บิดาของตนเองที่มีธุรกิจมากมายไม่ค่อยได้กลับบ้านเท่าไหร่นัก หรือแม้แต่กลับมาก็ทะเลาะกับเขาบ่อยๆ และไม่มีเวลาให้ครอบครัว ได้มีเวลาอยู่บ้านกับเขาบ้าง
ตลอดเวลาที่ไดสูญเสียการมองเห็นนั้นก็มีข้าวมาคอยดูแลและเป็นเพื่อนคุยกับไดทุกวัน จนเกิดเป็นความรักขึ้นมาในใจของข้าวที่มันมากเกินกว่าพี่ชาย และทุกครั้งที่ทั้งสองใกล้กันข้าวมักจะหวั่นไหวกับความดี และการเป็นคนอบอุ่นของไดที่ปฏิบัติกับเธอดีเสมอไม่ว่าไดจะมองเห็นหรือมองไม่เห็น เขายังคงปฏิบัติเสมอต้นเสมอปลายกับเธอเสมอ
เนื้อหาบางตอนในเรื่อง
ฉันพาพี่ไดมาที่ห้องพยาบาล เพราะเมื่อตะกี้ล้ม ฝ่ามือของเขาถลอกมีเลือดออกสงสัยจะโดนก้อนกรวดหรือไม่ก็เศษแก้วแตกบาด
"พี่ไดเจ็บตรงไหนบ้างคะ? "
"ไม่เจ็บหรอกสบายมาก" เขาพูดพล่างยิ้มเจือนๆ ให้ฉัน
"ทำไมรุ่นพี่พวกนั้นใจร้ายกับพี่ไดจังคะ เดี๋ยวข้าวจะสั่งสอนให้เอง บังอาจมากที่มาทำกับพี่ไดของข้าวแบบนี้" ฉันพูดพร้อมกับเอานิ้วโป้งปัดจมูกเบาๆ
"ใครเป็นของเธอ พี่ไปเป็นของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่" เขาอมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
"ดูพูดเข้าสิ อืม แล้วอยากเป็นจริงๆ ป่ะ" ฉันล้อเลียนเขา
"เดี๋ยวจะโดน อย่าไปพูดแบบนี้กับใครนะ เข้าใจมั้ย? " เขาเอามือมาจับมือของฉันจนแน่น
"ข้าวก็พูดแบบนี้กับคนอื่นบ่อยๆ นะคะ" เขารีบดึงมือออกทันที แถมยังทำหน้างอนๆ ไม่พอใจด้วย
"ข้าวล้อเล่นหรอกน่า ข้าวจะไปพูดกลับใครได้ล่ะก็กล้าพูดกับพี่ไดคนเดียวนี่แหละ "ฉันพูดทำเสียงอายๆ ก็มันน่าอายจริงๆ นี่นา ฉันไม่ควรพูดแบบนั้นกับเขาด้วยซ้ำ
"เอาน่าข้าวบอกจะจัดการให้เองมาทำแบบนี้กับพี่ไดได้ไง " ฉันรีบเปลี่ยนมาคุยเรื่องเดิม
"ตัวเล็กแค่นี้จะสู้เขาได้เหรอ" เขาถามแต่ฉันรู้สึกเหมือนได้ยินเขากำลังหัวเราะฉันในใจยังไงไม่รู้
"รู้ได้ไงตอนนี้ข้าวสูงแล้วนะ สูงตั้งเยอะแล้วด้วย"
"ตัวแค่ไหนพี่แล้วล่ะ? "
"เอ่อ...แค่ไหล่" ฉันตอบแบบลากเสียง พี่ไดถึงกับหัวเราะออกมา
"ฮ่าๆ ยัยลูกหมา" ยัยลูกหมาๆๆ ฉันเกลียดคำนี้ที่สุด!!
"อย่ามาหัวเราะข้าวนะพี่ได นี่แน่ะๆๆ " ฝ่ามือน้อยๆ ของฉันตีลงไปที่ต้นแขนของเขาทันที
"โอ๊ย พี่เจ็บนะ เธอนี่มันจริงๆ เลยตีเลยสิตีเลยเอาให้แขนขาดไปข้างนึงเลยนะยัยบ๊อง"
"อย่าท้านะคะ" ฉันเห็นพี่ไดกำลังเกร่งต้นแขนเบ่งกล้ามออกมา แม้กล้ามเนื้อนั้นจะอยู่ในเสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีขาว แต่มันก็ถูกดันออกมาจนเป็นรูปร่างสวยงาม แบบนี้ใช่มั้ยที่เขาเรียกว่า กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ โอ๊ย สติฉัน ข้าวจงกลับมาอีกครั้ง ปิ๊ง ฉันเรียกสติตัวเองไม่ให้หลุดลอยล่องไปไกลแสนไกลเกินความจำเป็นน่ะสิ