ไอ้เนมหรือเฉิงเซวียนมองผู้ชายวัยกลางคนที่เรียกรวมเยาวชนทุกคนให้มารวมตัวกันชื่อว่าอู่เฟิน เป็นกัปตันทีมของหมู่บ้านหวงหลินและผู้ช่วยของเขาอีกคนหนึ่งชื่อเจ๋อเฉา เป็นเยาวชนชายที่มาอยู่ในหมู่บ้านหวงหลินเป็นเวลา 3 ปีกว่า กัปตันอู่เฟินพูดถึงอุดมการณ์อะไรสักอย่างที่เฉิงเซวียนฟังไม่รู้เรื่อง เขาได้แต่ยืนนิ่งๆ โดยไม่สนใจอะไร พอกัปตันอู่เฟินพูดจบก็เช็ดชื่อเยาวชนว่ามากันครบมั้ยเมื่อเห็นว่ามากันครบกัปตันก็เดินนำทุกคนไปที่รถ
พอไปถึง รถที่เฉิงเซวียนคิดช่างแตกต่างจากความเป็นจริงเหลือเกิน สิ่งที่อยู่ด้านหน้าเขาเวลานี้ทำเอาเขาถึงกับนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก ดวงตาเรียวสวยมองด้วยความสับสนจนเผลอถามออกไปโดยไม่รู้ตัว “กัปตันนี่ไม่ใช่รถนี้"
ทุกคนหันไปมองเฉิงเซวียนพร้อมกัน กัปตันพอเห็นสีหน้าของเขาถึงกับแปลกใจก่อนจะพูดด้วยเสียงเข้ม “คุณไม่รู้จักหรือไง นี่คือเกวียนที่จะใช้เดินทางกลับหมู่บ้าน ผมไม่ได้บอกสักคำว่าจะให้พวกคุณนั่งรถกลับ”
“ห๊ะ นั่งเกวียนกลับ ต แต่วัวสองตัวนี้จะรับน้ำหนักพวกเราทุกคนไหวเหรอ” เฉิงเซวียนยิ่งได้ยินที่กัปตันพูดยิ่งงงตาแตกเข้าไปใหญ่
“งั้นคุณจะเดินกลับไปคนเดียวก็ได้นะ ถ้าคุณกังวลมากขนาดนั้น” คราวนี้กัปตันมีสีหน้าไม่พอใจอย่างชัดเจน
เฉิงเซวียนกำลังจะอ้างปากพูดอีกครั้งแต่ถูกเยาวชนชายคนหนึ่งดึงแขนเสื้อเขาเอาไว้ก่อน เขาเลยจำต้องหุบปากลง
“เอาล่ะทุกคนขึ้นไปนั่งบนเกวียนได้แล้วและอย่าลืมเอาสัมภาระตัวเองขึ้นไปด้วยนะ ส่วนใครที่อยากเดินไปด้วยตัวเองก็แล้วแต่ละกัน” กัปตันบอกเยาวชนคนอื่นๆ ก่อนจะปลายตามองเฉิงเซวียนเมื่อพูดถึงประโยคสุดท้าย
แน่นอนคำพูดแค่นี้ไม่ระคายเคืองเฉิงเซวียนอยู่แล้ว เขาเดินขึ้นไปนั่งบนเกวียนอย่างหน้ามึนๆ ทำเอาเยาวชนคนอื่นๆ มองเขาอย่างความประหลาดใจ
เพียงครู่เดียวรถเกวียนก็ค่อยๆ เคลื่อนที่ออกจากตัวอำเภอ เฉิงเซวียนที่นั่งหลังสุดมองทิวทัศน์สองข้างทางที่เป็นบ้านเรือน ตึกอาคาร ร้านค้า แล้วค่อยๆ กลายมาเป็นต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวชอุ่ม ทอดยาวไปจนถึงแนวทิวเขาที่สลับซับซ้อนกันอยู่ไกลๆ
เนื่อจากช่วงนี้เป็นช่วงฤดูร้อนกลางเดือนพ.ค. ทำให้เวลาที่รถเกวียนเคลื่อนที่ผ่านถนนเข้าไปยังหมู่บ้านมีฝุ่นตลบอบอวลฟุ้งกระจายเป็นหย่อมๆ จนทุกคนที่นั่งอยู่ด้านหลังเกวียนต้องพยายามปิดหน้าปิดตาเพื่อไม่ให้โดนฝุ่น
ใช้เวลาเดินทาง 40 นาทีในที่สุดรถเกวียนก็หยุดจอดหน้าบ้านพักของเยาวชนหลังหนึ่ง ตามคำบอกเล่าของเจ๋อเฉา
พอเกวียนจอดปุ๊บเฉินเซวียนที่อยู่ด้านหลังสุดต้องลงไปก่อนคนแรกพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระ จากนั้นเยาวชนคนอื่นๆ ค่อยๆ ทยอยลงตาม