บทนำ
" เซียวจ้าน " เด็กหนุ่มวัย 24 ปี บุคคลผู้ซึ่งคุณนายหวังได้อุปการะเลี้ยงไว้ดุจลูกชายอีกคน แต่สำหรับเซียวจ้านเขาพึ่งระลึกเสมอว่า คุณนายหวังมีบุญคุณกับเขาเหลือเกินที่นำเขา เด็กชายวัย 9 ขวบที่พ่อแม่ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำทำให้ตัวเขาไม่เหลือใคร หากไม่ได้คุณนายหวังในวันนั้น เขาคงได้เป็นเด็กกำพร้าในบ้านเด็กชายที่ไหนสักแห่ง
" หวังอี้ป๋อ " ลูกชายคุณนายหวังเพียงคนเดียว อายุห่างจากเซียวจ้าน 4 ปี ในวัยเยาว์เขามักไม่ค่อยมีเพื่อน เพราะการเข้าหาเพื่อนๆ ของหวังอี้ป๋อเป็นคนไม่เข้าหาใครก่อน มักชอบหลบอยู่ตัวคนเดียว จนคุณนายหวังกลุ้มใจ ว่าทำไมลูกชายของเธอไม่มีเพื่อนเล่นในวัยเดียวกัน
แต่เหตุการณ์ต่างๆ ก็ดีขึ้นเมื่อคุณนายหวังรับเซียวจ้านมาเลี้ยงดูที่บ้าน เซียวจ้านเป็นเด็กอารมณ์ดี นิสัยดี อัธยาศัยดีต่างจากเด็กวัยเดียวกัน เธอคิดไม่ผิดที่นำลูกชายของเพื่อนรักสมัยเรียนที่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตกันทั้งคู่ หลงเหลือเซียวจ้านเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตมาได้
เธอไม่ลังเลเลยตอนที่ไปพบเซียวจ้านที่โรงพยาบาล เธอตัดสินใจโดยไม่ได้ถามไถ่ความเห็นของสามีว่าจะรับเซียวจ้านมาอุปการะ เพราะดูจากแววตาตอนนั้นของสามี บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าสามีของเธอก็สงสารเด็กคนนี้สุดหัวใจ ไร้ซึ่งญาติที่จะรับเซียวจ้านไปอุปการะ เพราะทุกคนมีภาระกันหมด
แรก ๆ หวังอี้ป๋อก็มีอาการเฉยชากับเซียวจ้านไม่น้อย แต่ด้วยความเอาใจใส่ ยิ้มแย้มของเซียวจ้านที่มีให้กับอี้ป๋อ ทำให้ไม่นานนักสองคนนี้ก็สนิทกัน จนกลายเป็นอี้ป๋อที่ติดเซียวจ้านเป็นเงาตามตัว คุณนายหวังเห็นแบบนั้นแล้วก็ดีใจที่ลูกชายเธอมีเพื่อนเล่นและมีพี่ชายที่เธอหวังไว้ว่าเธอฝากชีวิตครอบครัวของเธอให้เซียวจ้านได้ดูแลได้ในอนาคต
แต่กับเซียวจ้านเขาคิดเสมอว่าตัวเขาเองคือแค่คนรับใช้ภายในบ้าน ไม่อาจอาจเอื้อมเสมอนายอย่างหวังอี้ป๋อ ถึงแม้นคุณนายหวังจะบอกกับเขาเสมอว่าเขาคือลูกชายอีกคนของตระกูลหวัง เวลาออกงานเขามักจะถูกแนะนำตัวเสมอว่าเป็นคนของตระกูลหวัง เป็นลูกชายอีกคนของตระกูลหวัง
เขาปฏิญาณกับตัวเองเสมอว่าเขาจะปฏิบัติภักดีต่อตระกูลหวังผู้ให้ชีวิตใหม่และให้โอกาสกับเขา
ตั้งแต่เด็กจนโตเขามีหน้าที่ต้องพาหวังอี้ป๋อไปโรงเรียน จนเขาเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเขามีหน้าที่เสมอในการขับรถรับส่งหวังอี้ป๋อตลอด ตัวเขาเองจึงไม่ค่อยมีเพื่อนสักเท่าไหร่ เพราะไม่ได้มีโอกาสได้เที่ยวเล่นกับเพื่อนๆ ในยามที่เลิกเรียนเหมือนคนอื่นๆ เขา เพราะหากไม่ไปรับหวังอี้ป๋อน้องก็จะนั่งรอแบบนั้นจนกว่าเซียวจ้านจะมารับ ถึงแม้นที่บ้านจะให้คนขับรถมารับก็ตาม อี้ป๋อก็จะงอแงจนกว่าเซียวจ้านของเขาจะมารับ มันเลยทำให้เซียวจ้านไม่กล้าที่จะไปไหนโดยที่ไม่ไปรับน้องเขาในตอนเย็นเลย
อี้ป๋อในวัย 10 ขวบ เคยกล่าวไว้กับเซียวจ้านว่า
" ถ้าผมโตขึ้นจ้านเก้อต้องแต่งงานกับผมนะ "
เซียวจ้านได้แต่ขบขำในคำพูดของเด็กน้อยของเขา อี้ป๋อจะรู้บ้างไหมว่าคำพูดนี่หมายความว่ายังไง แต่เด็กน้อยก็คือเด็กน้อย อยากได้คำมั่นสัญญาจากจ้านเก้อแบบเขา
" ทำไมจ้านเก้อไม่ตอบผมละ จ้านเก้อไม่รักผมหรอ " ยามเด็กน้อยพูดจบก็ทำหน้างองำลงมา
" แล้วทำไมอยากแต่งงานกับเก้อละครับป๋อตี้ "
" ก็ผมรักจ้านเก้อนี่ครับ รักมากผมสัญญาว่าผมจะไม่รักใครนอกจากจ้านเก้อ "
" ...... "
" จ้านเก้อไม่ตอบจ้านเก้อไม่รักผมหรอ " สายตาอ้อนวอนกับการเกาะเกี่ยวที่วงแขนที่เซียวจ้านได้รับก็พอจะรู้แล้วว่าเด็กน้อยของเขารอคำตอบ
" เก้อรักป๋อตี้หรือเปล่านะ "
" ........ " คนรอคำตอบเริ่มมีน้ำตาเอ่อมาที่ดวงตา จนหยาดน้ำตาไหลลงมาจากหางตา จนทำให้เซียวจ้านถึงกับตกใจ
" รักครับรัก เก้อรักป๋อตี้ครับ ไม่ร้องไห้นะครับ มาๆ เก้อจะโอ๋ๆ นะครับ " เซียวจ้านได้แต่ใช้นิ้วมือเกลี่ยเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาให้กับหวังอี้ป๋อ
" เก้อต้องสัญญาด้วยว่าจะแต่งงานกับผม รักผมคนเดียว "
" แล้วหม่าม๊ากับอาป๊าละครับไม่ให้เก้อรักหรอ "
" รักได้ครับแต่ห้ามเยอะกับผม ต้องรักผมมากๆ มากที่สุด "
" ครับๆ รักป๋อตี้มากที่สุด รักที่สุดเลยครับ "
อาจจะคำตอบที่ทำให้คนตรงหน้าสบายใจ แต่กับเซียวจ้านเขามีความรักที่ให้กับอี้ป๋อจริงๆ อาจจะเพราะเขาเป็นห่วงและห่วงน้องชายตัวน้อยของเขาจริงๆ
...........................................................