นี่เธอ คิดจะเดินจงกรม ทำสมาธิในห้องนอนรึไง "
แพททริก ที่มองดูหญิงสาวก็ยิ่งขำใหญ่ เขาพูดอย่างคนอารมณ์ดีสุดๆ ซึ่งตรงข้ามกับคนหน้าบูดที่เดินอยู่
คนหน้าบูดที่ได้ยินก็ยิ่งหงุดหงิดใหญ่ขึ้นไปอีก เธอที่ไม่รู้จะกำจัดความรู้สึกนี้ได้อย่างไร จึงเดินไปนั่งที่ขอบเตียง เพื่อให้พ้นหน้าคนที่นั่งกวนประสาทเธออยู่
แพททริกเดินตามเธอไปนั่งข้างๆ หน้าเขาโน้มเข้าใกล้ใบหูเธอ เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้น
"หึง ฉันหรอ รินทร์นารา"
" ไม่ได้หึง" เสียงเล็กตอบกลับ
" หึง" เขายังคงยิ้มกวนประสาทใส่เธอ
"ก็คนบอกว่า ไม่ได้หึง" เสียงเล็กเริ่มดังขึ้น
"หึง" ชายหนุ่มพูดพร้อมทั้งยื่นหน้าไปใกล้ๆ หญิงสาว
รินทร์นาราลุกขึ้นเดินไปมาอีกครั้ง ยิ่งเขาอยู่ใกล้เธอ เธอก็ดูเหมือนจะอารมณ์เสียมากขึ้น
แพททริกที่เห็นอาการหญิงสาว ก็ทั้งขำทั้งเอ็นดู
" นี่ หยุดเดินได้แล้วฉันมองตามจนเวียนหัวแล้วนะ"
"ใครใช้ให้นายมอง " คนตัวเล็กยังทำเสียงเขียวใส่ ยังคงเดินวนไปมาอยู่อย่างนั้น
ชายหนุ่มเดินเขาไปกอดเธอจากด้านหลัง มือเขาลูบไล้ตามตัวเธอเบาๆ เธอสบัดแขนเขาออกและกลับไปนั่งตรงขอบเตียง
แพททริกเดินตามกับมานั่งข้างๆเธอ มือเขายังคงไล่ตามลูบไล้ หญิงสาวอย่างหยอกล้อ
"นี่นาย" เธอหันทำเสียงดุพร้องสายตาเขียวปัด
"หึงก็บอกหึง นะครับ ไม่ใช่มาทำหงุดหงิดใส่ผัว"
เสียงทุ้มเอ่ย ในขณะที่มือหนายังคงลูบไล้ตามตัวหญิงสาว เธอปัดมือเขาออกเบาๆ หน้าสวยเบี่ยงหนีหน้าหล่อ เมื่อเขายื่นหน้ามาใกล้ๆ เธอ
รินทร์นาราลุกขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แพททริกคว้าเอวเธอไว้ มือหนาโอบที่เอวหญิงสาว เขาดึงตัวเธอมานั่งที่ตัก ลมหายใจอุ่นหายใจรดต้นคอหญิงสาว ทำให้เธอรู้สึกจักจี้อย่างบอกไม่ถูก