Introduction
@ SS1 University
"ไวน์ คืนนี้ว่าไง" จู่ ๆ โฟร์สาวแว่น ผมหน้าม้าสีน้ำตาลมัดรวบหางม้าก็โพล่งขึ้น ขณะที่ทุกคนกำลังนั่งกินข้าวเที่ยงอยู่ในโรงอาหารของมหาวิทยาลัย
"เมื่อคืนก็เพิ่งไปป่ะ" คนถูกชวนยกแก้วน้ำมะนาวคั้นสดขึ้นดื่มแก้เมาค้าง
"กูเตือนมึงแล้ว เป็นไงล่ะ?" พัฟหญิงสาวผมมิลค์บลอนด์รับกับผิวขาวเหลือง รูปร่างอ้อนแอ้นพูดขึ้น
"ใครจะไปรู้ว่าเด็กเนิร์ดอย่างมันจะเป็นได้ขนาดนี้วะ" ไวน์ตอบ
เสียงอ่อย
"ฮอตเนิร์ดต่างหาก" เด็กหน้าห้องขยับแว่นตาหนาเตอะ ตอบด้วยความมั่นหน้าก่อนยักคิ้วให้เพื่อนสาวคนละที จากนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตาหันไปจดจ่อคิ้วขมวดกับหนังสือเล่มหนาตามเดิม ทำเอาพัฟกับไวน์ได้แต่กลอกตามองบนอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่นานนักสาวฮอตเนิร์ตก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อยังไม่ได้คำตอบจากเพื่อนทั้งสองโดยยังไม่ละสายตาจากหนังสือกองโต
"ว่าไง สรุป?"
"ไปก็ไป มึงละอีไวน์"
"กู.. แป๊บนะ" จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะการสนทนาของคนทั้งสาม
"เย็นนี้เหรอ? โอเคค่ะม๊า"
"แม่มึงเหรอ" พัฟถามขณะเพื่อนสาววางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะกินข้าว
"พ่อกูมั้ง"
"อ้าวไอ้สัส แกว่งปากหารองเท้าส้นเข็มแล้วไหมอีไวน์ สรุป?"
"กูขอตัว คืนนี้ไม่ได้จริงๆ"
"เฮ้ย.. ได้ไงวะ" โฟร์ละจากหนังสือที่เต็มไปด้วยตัวเลข พลางขมวดคิ้วหม่นมองไวน์ด้วยความขัดใจที่ถูกเพื่อนปฏิเสธ
"เย็นนี้มีนัดกับคุณนายสังวาลแล้วนะสิ " ไวน์ตอบพลางเก็บกระเป๋าและหนังสือเตรียมไปเรียนคาบบ่าย
"เรื่องด่วนเหรอ"
"ไม่รู้วะ บอกแต่ว่ามีเรื่องสำคัญ ไว้วันหน้านะมึง"
"เออ ๆ อย่ามาโวยทีหลังแล้วกัน" โฟร์ยัดหนังสือที่อ่านก่อนหน้านี้ลงกระเป๋าผ้าสีดำเรียบ แม้จะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยก็เถอะ
"จ้า ๆ ตามสบายพวกมึงเลยค่ะ"
>>>>
รัตติกาล อัครกุล (ไวน์) ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประธานใหญ่
บริษัทอัครกุล บริษัทอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นของประเทศไทย และยังมีบริษัทเครือลูกอีกมากมาย รวมทั้งมีแผนขยายไปยังต่างประเทศ
เรียกว่าเกิดบนกองเงินกองทองก็คงไม่ผิด และด้วยนามสกุลที่ต่อท้ายชื่อนั้น ทำให้เธอได้ก้าวเข้ามาสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศที่
หลายคนใฝ่ฝัน
เพราะมันหมายถึงอนาคตที่จะชี้ชะตาเพียงแค่เห็นชื่อสถาบัน ถึงแม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปมากมายเพียงไร แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงไม่หายไปจากการศึกษาไทยก็คือ ชื่อสถาบันของมหาวิทยาลัยที่จบ รวมถึงเกรดเฉลี่ยที่นักศึกษาต่างง่วนตาหลับขับตานอนในช่วงสอบเพียงแค่ไม่กี่วัน ถูกนำมาเป็นบรรทัดฐานในการคัดเลือกบุคลากรเข้ามาทำงานในบริษัท เพื่อแบ่งแยกคนเก่งกับคนไม่เก่งออกมาอย่างชัดเจน
ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ต้นกล้าแต่ละชนิดอาจจะโตได้ในดินที่แตกต่างกัน แต่คนปลูกเมล็ดพันธุ์ส่วนใหญ่กลับเลือกที่จะมองแต่ต้นพันธุ์และผลผลิตโดยไม่ได้สนใจชนิดของดินที่ปลูก และคาดว่ามันจะยังคงเป็นแบบนี้ต่อไป..
เพื่อนในกลุ่มของไวน์ไม่ได้มีแค่สองสาว แต่ยังมีหนึ่งหนุ่มสุดฮอตดีกรีเดือนมหาวิทยาลัยเอสเอสวัน ไม่ว่าเขาจะเดินไปที่ไหน สาว ๆ เป็นได้เหลียวหลังจนเอวเคล็ดกันทีเดียว (/^-^)
และแม้ว่าหนุ่มฮอตจะเป็นเพื่อนต่างคณะที่ไม่น่าจะโคจรมาเจอกันได้ แต่เหมือนพระเจ้าจะเข้าข้างคนที่ง่อยวิชาเลขอย่างเธอ แต่เป็นกรรมของแมทท์เอง
"รัตติกาล >_<" เสียงอาจารย์ประจำภาควิชาคณิตศาสตร์ดังขึ้น หญิงสาวที่ได้แต่นั่งพนมมือสะกดจิตอย่าให้อาจารย์ที่ได้ฉายาหล่อโพดหล่อโพเห็นเธอเด็ดขาด นั่นคือสิ่งที่ไวน์ภาวนาก่อนเข้าเรียนวิชานี้ทุกครั้ง แต่ในที่สุดก็ไม่รอดทุกที สงสัยชาติที่แล้วต้องไปทำกรรมหนักไว้แน่ ชาตินี้ถึงตามล้างตามผลาญกันทั้งเทอม
"ขา... อาจารย์ ^_^" เจ้าของชื่อตอบเสียงอ่อย ส่งยิ้มแห้งก่อนจะค่อย ๆ ยืนขึ้นช้า ๆ ด้วยใจที่เต้นตุบ ตุบ
"มาทำเป็นตัวอย่างให้เพื่อนดูหน้ากระดาน" ทำเอาคนถูกเรียกอ้าปากเหวอ ขณะที่เพื่อนร่วมห้องได้แต่มองตาปริบ ๆ ไม่รู้จะสงสารหรือเห็นใจดี แต่เท่าที่ฟังจากน้ำเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกของใครหลายคน ที่รอดจากเงื้อมมือก็พอจะเดาออกไม่ยาก
"ทำไมแต่ละคนถึงดูโล่งอกขนาดนั้นล่ะ"
"จะไม่ให้โล่งได้ไงล่ะ ขืนใครตอบผิดแค่นิดเดียว โทษก็คือแก้โจทย์คณิตฯ ที่ยาวเป็นหางว่าวยังไงละ ใครมันจะไม่โล่ง เรียนคาบนี้ทีไรกูรู้สึกเหมือนชีวิตสั้นลงไปหนึ่งวัน"
"นี่ใช่ไหมเหตุผลที่มึงต้องลากกูมาด้วย"
"เออ...ใครมันจะกล้านั่งสันหลังเย็นคนเดียววะ" เสียงเล็กของนักศึกษาสาวแว่วดังมาจากหลังห้อง และคนที่ตกเป็นเป้าสายตาจนอยากจะแปลงกายเป็นพระร่วง มุดดินดำหนีให้แม่งรู้แล้วรู้รอดไปเลย ในขณะที่ขาเรียวเล็กกำลังจะก้าวเข้าสู่สนามเชือด
"เธอ ๆ " เสียงทุ้มดังมาจากด้านหลังของหญิงสาว
(¬_¬)
คนถูกเรียกหันไปตามต้นเสียง ก็พบชายร่างผอมสูงยังกับนายแบบ ผิวขาวเนียนละเอียดยิ่งกว่าผิวเธอที่เป็นผู้หญิงสะอีก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงใบหน้าอันหล่อเหลาราวกับถอดแบบมาจากดินแดนที่ขึ้นชื่อเรื่องหม่าล่า พร้อมกับนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเหมือนสีไม้เคลือบด้วยสีหมึก ที่ดูคุ้นเคยและให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาดใจ
ริมฝีปากชมพูดูธรรมชาติยกยิ้ม พร้อมกับแอบยื่นกระดาษแผ่นเล็กใบจิ๋ว ไวน์แอบรับมาด้วยใบหน้างง ๆ ก่อนค่อย ๆ คลี่ดู ฉับพลันนัยน์ตาดำขลับก็เบิกโพลง ขณะจ้องเขม็งไปที่โจทย์หน้ากระดานสลับกับกระดาษใบเล็ก หญิงสาวตาลุกวาวแทบจะกระโดดกรี๊ดร้องด้วยความดีใจ เพราะนั่นคือคำตอบของโจทย์ที่อาจารย์มอบให้นั่นเอง
คนรับกระดาษยิ้มเจ้าเล่ห์แววตาเป็นประกายด้วยความดีใจ ในที่สุดวันนี้เธอก็รอดพ้นจากวิชามหาโหดไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปดไปหนึ่งวัน
"รัตติกาล " เสียงทุ้มแฝงไปด้วยความไม่พอใจเล็กน้อยเมื่อเห็นลูกศิษย์ตัวดีกำลังถ่วงเวลาอย่างที่ชอบทำเป็นประจำ
"ค่า" คนที่ทำให้อาจารย์เริ่มหงุดหงิดตอบด้วยน้ำเสียงสดใส มือเล็กกำกระดาษแผ่นนั้นแน่น
แต่ใครจะรู้ว่าเส้นทางของแต่ละคนนั้น เมื่อเกิดมาย่อมมีเส้นทางที่
ไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป เมื่อได้สิ่งหนึ่ง ย่อมสูญเสียสิ่งหนึ่ง ไม่มีใครได้ทุกอย่าง โดยไม่ข้อแลกเปลี่ยน
***********
นิยาย "คำสั่งรัก นายนักเลง" ตอนนี้มี E-book แล้วนะคะ สำหรับคนที่ไม่อยากรออ่านรายตอน สามารถสั่งซื้อได้ที่ Meb นะคะ