โครมมม!
เสียงรถประสานงาอย่างแรงกลางท้องถนนที่มีรถวิ่งสวนกันขวักไขว่เต็มไปหมด เสียงร้องเรียกเด็กหญิงที่นอนนิ่งสนิทอยู่เบาะข้างคนขับ พร้อมกับความวุ่นวายของผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันวิ่งเข้ามาให้ความช่วยเหลือ นำร่างสองแม่ลูกส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
รินรดา เด็กหญิงวัย 14 ปี ลืมตาตื่นขึ้นมาจากอาการโคม่าที่นอนแน่นิ่งมานานถึง 1 เดือน หลังจากเกิดอุบัติเหตุรถพลิกคล้ำ หญิงสาวกวาดตามองผู้คนที่รายล้อมดูอาการของเธอด้วยความดีใจ ไม่ว่าจะเป็นพ่อ ยาย ปู่กับย่า รวมถึงแม่ของเธอที่ยืนยิ้มทั้งน้ำตาด้วยความดีใจอยู่ด้านหลัง จากนั้นร่างผู้เป็นแม่เริ่มจางลงอย่างช้า ๆ และหายลับไปในทันที เด็กหญิงร้องเรียกผู้เป็นแม่สุดเสียงด้วยความโหยหา
"ริน ริน! ลืมตา ลืมตา!" รตี ตะโกนเรียกเพื่อนที่นอนละเมอร้องไห้เรียกหาแม่เสียงดังจนเธอต้องวิ่งเข้ามาดูด้วยความเป็นห่วง เมื่อรินรดาได้ยินเสียงเพื่อนร้องเรียกก็ได้สะดุ้งตื่นขึ้นจากความฝัน ถลาเขากอดเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างเตียงด้วยความตกใจ รตีกอดตอบพร้อมลูบหลังเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบใจเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วง
"ฝันร้ายอีกแล้วใช่ไหม"
รินรดาได้แต่พยักหน้า ยกมือปาดเหงื่อและน้ำตาที่ไหลนองเต็มใบหน้า
"ฉันว่าช่วงนี้แกฝันร้ายบ่อยไปแล้วนะ ตั้งแต่ยังไม่เริ่มเข้ามาทำงานกับทีมสืบคดีฆาตกรรม"
"แกคิดมากไปหรือเปล่ารตี มันอาจจะไม่มีการเกี่ยวข้องกันก็ได้" ถึงแม้รินรดาบอกเพื่อนสนิทว่าไม่เป็นอะไรแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอุบัติเหตุที่เธอฝัน มันคืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจริงเมื่อ 15 ปีก่อน แต่ในความฝันมันเป็นมุมมองที่ต่างออกไป เหมือนเป็นฉากที่อยู่ในหนัง ภาพมันถูกฉายออกมาจากเลนส์ที่ตรงกันข้าม มันเจ็บปวดทรมานในอิริยาบถที่ต่างออกไป ซึ่งมันไม่ใช่ความเจ็บปวดจากอุบัติเหตุ แต่เธอก็ไม่เข้าใจว่ามันคือความเจ็บปวดแบบนั้นมันมาจากตรงไหน เหมือนเจียนจะขาดใจซะให้ได้