"ลูกตาล" ครูสาวที่พึ่งสอบบรรจุใหม่ได้หมาด ๆ เพื่อลงไปช่วยเด็กน้อยที่ตกน้ำนางจึงได้ตายอย่างไม่รู้ตัว เมื่อลืมตามาอีกครั้งก็พบว่าข้ามมิติไปยังอีกโลกหนึ่งที่มีคนเรียกนางว่า
"คุณหนูฟางหยุนเฟย" บุตรสาวผู้นิสัยเสีย เอาแต่ใจตนเองเย่อหยิ่ง ขี้อิจฉาและอวดดีของท่านราชครู "ฟางหลี่ถง" นางเอกก๋ตกน้ำอย่างไม่มีสาเหตุเพียงเพราะปากไวและยังกล้าประกาศว่าจะหมั้นหมายกับ
"ท่านอ๋องหมิงเว่ยหราน" เขาเป็นพระเอกในนิยายเรื่องที่นางเคยอ่าน ผู้ชายเย็นชาแต่เก่งกาจเป็นบุรุษหนุ่มที่ใคร ๆ ในเมืองหลวงต่างก็ต้องการสมรสด้วย ซึ่งรวมไปถึง
"ฟ่งลี่เซียน" หลานสาวเสนาบดีจอมละโมบแห่งเมืองหลวง ซึ่งนางเป็นนางเอกนิยายในเรื่องนี้....
นางหลุดมาในนิยายที่เคยอ่านจนจบไปแล้ว ซึ่งในนิยายเรื่องนี้....
นางเป็นแค่ตัวประกอบที่มีบทเพียง 3 หน้าเท่านั้น ตามเนื้อเรื่อง นางวางยาพระเอกและถูกพระรองจับได้ พวกเขาเลยฆ่านาง
เป็น "นางร้าย" ที่โคตรจะเหมือน "ตัวประกอบ" ที่มาเพียงไม่ถึงครึ่งตอนก็ตายอนาถ
แต่ในเมื่อนางมาแล้ว และอยากรอดชีวิต เช่นนั้นก็ไม่ต้องไปยุงกับทั้งพระเอก พระรอง นางเอก นางร้ายเลยก็แล้วกัน
ข้าขอใช้ชีวิตเงียบ ๆ เถอะนะ พลีสสส...... แต่ว่า!!
“เลิกงั้นหรือ ข้า…ควรดีใจถึงจะถูกสิ แต่ทำไม….”
ตัวอย่าง : เอาตัวรอดก่อนละวะ!!
“หม่อมฉันอยากจะยกเลิกงานหมั้นที่พูดออกไปในวันก่อนเพคะ”
“เจ้าว่าอะไรนะ!!”
“พระองค์เข้าใจไม่ผิดหรอกเพคะ หม่อมฉันอยากเลิกกับพระองค์ งานหมั้นระหว่างพวกเราจะไม่มีวันเกิดขึ้น หม่อมฉัน…”
หม่อมฉัน…ขออภัยที่ทำให้พระองค์ต้องเสื่อมเสียเกียรติ เสียชื่อเสียงที่ต้องเข้ามาพัวพันในเรื่องนี้ แต่นับจากนี้หม่อมฉันหวังเพียงว่าหลังจากเรื่องยกเลิกงานหมั้นจบลงแล้ว หม่อมฉันจะไม่มีภัยถึงชีวิตอีก”
“เดี๋ยวก่อน!!”
“เจ้า…คิดดีแล้วงั้นหรือ”
เอาละวุ้ย เอาตัวรอดเป็นยอดคน บอกเลิกแม่งซะเลย...รอดมั้ย ๆ
ตัวอย่าง 2 : ไม่เกี่ยวจริงดิ!!
“ท่านอ๋อง นั่นรถม้าสกุลฟางพ่ะย่ะค่ะ”
“ข้าเห็นแล้ว ว่าแต่นางมาทำอะไร”
“ก็คงจะมาซื้อชุดใหม่ตามประสาคนที่ฟุ่มเฟือยเช่นนางกระมังพ่ะย่ะค่ะ”
“เรื่องของนางไม่เกี่ยวกับข้า”
“นั่นอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ นางมาซื้อ…..เหตุใดนางจึงแต่งตัวจืดชืดแปลกตาเช่นนั้น”
“นางยิ้มสวยได้ขนาดนั้นเลยงั้นหรือ”
ไม่เกี่ยวจริงอ่ะ แต่บอกว่ายิ้มสวย...คือยังไงก๊อนนน พ๊ออ.....
ตัวอย่าง 3 : ไม่ได้ตาม ไม่ได้สนใจ ข้ามาทำงาน!!
“พวกนางมาทำอะไรที่นี่”
“ดูเหมือนว่าพวกนาง…จะมาแจกอาหารให้เด็กนะพ่ะย่ะค่ะ นั่นท่านแม่ทัพฉิน แม่ทัพฉินเกาหานผู้นี้มิใช่หรือที่ช่วยนางขึ้นมาจากที่นางตกสระในครั้งก่อน”
“เจ้าว่าอย่างไรนะ เป็นเขางั้นหรือ”
“พ่ะย่ะค่ะ หรือว่าที่นางทำไปทั้งหมดนี่ก็เพราะ…..จะเข้าหาท่านแม่ทัพฉินผู้นี้ นางช่างตาแหลมยิ่งนัก”
“ท่านอ๋อง พระองค์ทรงสนใจเรื่องของแม่นางฟางผู้นั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“ใครบอกเจ้า!! ข้าแค่….สงสัยว่าจะมีการทุจริตเท่านั้น รีบกลับไปสืบเรื่องนี้มา ได้เรื่องเช่นไรรีบมารายงานข้า”
“พ่ะย่ะค่ะ”
เอา ๆ ตรวจสอบทุจริตนะจ๊ะ ไม่ได้มาหาสาวเลย จริงจริ๊งงง.....
ตัวอย่างที่ 3 : อย่าเข้าใจผิดสิเพคะท่านอ๋อง
“เอ่อ แต่เมื่อครู่นี้ พระองค์กล่าวต่อว่าแม่นางฟ่งรุนแรงเกินไปนะเพคะ”
“นี่เจ้า!! ช่างเถอะ ถือว่าข้าแส่ไม่เข้าเรื่องเอง”
“หม่อมฉันมิได้หมายความเช่นนั้นเพคะ แต่เรื่องที่นี่มีพี่เกาหานจัดการอยู่แล้ว ไม่ต้องลำบากพระองค์ถึงเพียงนั้น”
“พี่เกาหานงั้นหรือ!!นี่เจ้าสนิทสนมกับแม่ทัพฉินผู้นั้นจนถึงขั้น…เรียกชื่อกันแล้วงั้นหรือ”
หึงเค้าแหละแต่ปากแข็ง
ตัวอย่างที่ 4 : หรือพระรองจะเป็นพระเอก!!
“เห็นว่าคุณหนูฟ่งเป็นลม ตอนนี้ปลอดภัยแล้วหรือไม่”
“นางปลอดภัยแล้ว”
“ขอบพระทัยท่านอ๋องพ่ะยะ่ค่ะ กระหม่อมดูแลไม่ทั่วถึงจึงเกิดเรื่องขึ้น”
“อย่าโทษตัวเองเลย เรื่องนี้เกิดขึ้นกะทันหันว่าแต่พวกเจ้าไปที่ใดกันมา”
“กระหม่อมพาหลินเฟยไปดูโรงเรียนสำหรับเด็ก ๆ ที่พึ่งสร้างเสร็จ อยู่ที่นั่นนานไปหน่อยก็เลย…”
“ว่าอย่างไรนะ…โรงเรียนงั้นหรือ”
เอาแล้ว ๆ พี่อ๋องเอายังไงดีเจ้าคะ เค้าสร้างโรงเรียนให้กันเลยนะ
ตัวอย่างที่ 5 : พระเอก Vs นางเอกในนิยาย
“ท่านอ๋อง”
“เจ้าดีขึ้นแล้วงั้นหรือ”
ลี่เซียนรั้งเขาเอาไว้ ท่านอ๋องจึงหันมามองนางและนั่งอยู่ข้าง ๆ หลินเฟยรู้สึกราวกับหายใจไม่ออกและเจ็บปวดที่กลางอกอย่างหาสาเหตุไม่ได้ นางหันเดินกลับไปยังที่โรงเรียนและปิดประตูห้องพักเพื่อสงบจิตใจ
“ไม่ได้นะ ถูกแล้ว นั่นพวกเขาเป็นพระเอกกับนางเอก เจ้าชอบพระรองมิใช่หรือ เหตุใด….”
โอ๊ยยย....ก็เอ็นดูลูกสาวอีก....จะจบยังไงน้อออ....