เปรี๊ยง!!!
เสียงสายฟ้าคำรามสะเทือนฟ้า เขานึกย้อนกลับไปในวันที่แม่บอกเล่าถึงสภาพอากาศในวันที่เขาเกิด ตอนที่แม่ปวดท้องมีเสียงฟ้าคำรามเหมือนในตอนนี้ สายฟ้าขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะลุกไปเปิดไฟเนื่องจากตอนนี้ท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยม่านหมอกทมิฬ เขาหยิบนิยายเรื่อง ‘ลำนำรักบุปผางาม’ ติดมือมาอ่านขณะแช่น้ำจิบไวน์
ความจริงแล้วตัวเขาก็ไม่ค่อยชอบอ่านนิยายแนวรักโรแมนติกเท่าไหร่นัก แต่รุ่นน้องของเขากลับพรรณนาถึงความรักของพระนางในเรื่องอีกทั้งยังก่นด่าตัวร้ายที่เอาแต่คอยตามตื้อนางเอกไม่หยุด แค่ฟังจากที่เล่ามาก็เดาตอนจบของเรื่องได้แล้ว แต่ตอนที่เดินเลือกขนมกลับเห็นนิยายเรื่องนี้วางอยู่จึงเผลอหยิบติดมือมาก็เท่านั้น
หลังจากอ่านจบก็รู้สึกเห็นด้วยกับเรื่องที่หงุดหงิดกับตัวร้ายในเรื่องตามตื้อนางเอก แต่แม่นางบุปผางามนั้นก็มีมาเล่นหูเล่นตาให้ความหวังตัวร้ายเหมือนกัน แต่บทสรุปก็เป็นเหมือนกันทุกเรื่อง ตัวร้ายตายอนาถ ตัวพระตัวนางครองรักกันชั่วนิรันดร์ เหอะๆ
เปรี๊ยะ!!
“เสียงอะไรวะ เฮ้ย! ไอ้เชี้ย!!!”
พรึ่บ!
สายฟ้าเหลือบมองปลั๊กไฟที่จุ่มลงมาในอ่างด้วยสายตาพร่าเลือน ปลั๊กเชี้ยนี่มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง จะตายทั้งทีขอสภาพดีกว่าการโดนไฟดูดแล้วตายโง่ๆแบบนี้ได้ไห-
เปรี้ยง!!!
เปรี้ยง!!
เปรี้ยง!
เสียงฟ้าคำรามครั้งสุดท้ายพร้อมกับสติรับรู้ที่ขาดหายไป...
เปรี้ยง!!
เฮือก! แค่ก! แค่ก! แค่ก! ร่างโปร่งกลิ้งลงจากตั่งนอนก่อนจะยกมือกุมลำคอไอแห้งออกมา ใบหน้าขาวแดงก่ำราวกับเขากำลังจะขาดอากาศหายใจ
“เชี้ยอะไรวะเนี่ย!!!”