ติ๋ง..
..
ติ๋ง...
เสียงน้ำหยดลงสู่พื้นทีละนิดอย่างช้าๆ
แค่ก แค่ก... หายใจได้แล้ว? เมื่อกี๊ยังอยู่ในน้ำอยู่เลย เกิดอะไรขึ้น? -
ฟีโอดอร์รู้สึกได้ถึงแขนของใครบางคนที่กำลังอุ้มเขาอยู่
เขาลืมตามองใบหน้าที่แตกต่างไปจากปกติเพราะจากสีหน้าที่ดูเจ้าเล่และยิ้มตลอดเวลากลับกลายเป็นสีหน้าที่ดูผิดหวังเป็นอย่างมากกำลังจ้องเขาอยู่
นิโคไลอ้าปากพูดอะไรบางอย่าง แต่ฟีโอดอร์ไม่สามารถฟังออกได้ว่าเขากำลังพูดว่าอะไรอยู่ เพราะขณะนั้นตาของเขารู้สึกหนักขึ้นทุกวินาที เสียงก้องไปหมด
ผ่านไปได้สักพักฟีโอดอร์ก็สลบไป
ดอสโตยเยียฟสกีถูกปลุกขึ้นโดยเสียงของรองเท้าที่กระทบกับพื้น เขาไม่สามารถมองเห็นได้ว่าใครกำลังเดินมาทางเขาเพราะมีผ้าบางๆ บังการมองเห็นอยู่ อยากเอามันออกซะเหลือเกินแต่เขาก็ทำไม่ได้เพราะตนก็ถูกมัดติดกับเก้าอี้เช่นกัน
เสียงหัวเราะดังขึ้นจากชายหนุ่มด้านหน้าของเขา
อ่าาา.... เขาถูกจำได้แล้วสินะ
“ดอสคุง!!”
“ยินดีด้วยครับ โกกอล คุณจับตัวผมมาได้แล้ว”
“จะลงมือเลยไหมครับ?”
“เดี๋ยวก่อนสิดอสคุง!ผมยังมีเรื่องที่อยากคุยกับคุณอยู่นะ”
“เรื่องดาไซกับชูยะละงั้นหรอครับ?”
“ฮ่าๆๆๆๆ!!!”
“คุณนี่รู้ใจผมดีจริงๆ เลยนะดอสคุง”
...
“คุณคิดยังไงกับสองคนนั้น”
นิโคไลเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่เป็นมิตรเอาซะเลยพร้อมกับกระชากผ้าปิดตาที่ผูกไว้กับฟีโอดอร์ แล้วจับคางบังคับให้เขาเงยหน้าขึ้นมามองหน้าของเขา
“อ่า.. เข้าเรื่องเลยสินะครับ”
“ก็ไม่ได้คิดอะไรนะครับ พวกเขาเป็นเหมือนแค่เบี้ยสองตัวแค่นั้นเอง”
“คุณมีอะไรรึปล่าวโกกอล?”
“ดอสคุง.... อย่างแกล้งผมอย่างงี้สิ คุณก็รู้ว่าผมไม่ชอบเวลาคุณเข้าใกล้สองคนนั้น”
“คุณห้ามทำอีกนะ ไม่สิ คุณจะไม่ได้เข้าใกล้พวกเขาอีกแล้วล่ะ”
“คุณพูดเหมือนกับเราเป็นคู่รักกันนะครับโกกอล”
ใช่สิ เราไม่คู่รักกันนี่ ทำไมกันนะ ทำไมเราต้องพยายามวิ่งไร้ตามสิ่งที่ไม่สามารถครอบครองได้
เจ็บ เจ็บที่สุด! ออกไป ต้อง ออกไปจากกรงนี้ให้ได้ ต้องการ อิสระ
.
.
.
“เฟดย่า”
“คุณทำสำเร็จแล้วหนิ โกกอล ทำไมยังไม่ลงมืออีกหล่ะครับ” ฟีโอดอร์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เบื่อหน่าย
เสียงหัวเราะของนิโคไลได้ดังก้องไปทั่วโบสถ์ที่มืดหม่น มีแต่เเสงจัทร์เท่านั้นที่ส่องมายังคนรักของเขาที่ถูกมัดไว้ด้วยเชือก ช่างเป็นฉากที่งดงามเหลือเกิน…
“การเป็นอิสระเป็นสิ่งที่คุณใฝ่ฝันไม่ใช่รึไง”
นิโคไลได้แต่มองฟีโอดอร์ที่เหมือนกันหนูติดกับดักกำลังรอจุดจบของชีวิตของเขา
“ฮ่าๆ .... ฮ่าฮ่าฮ่า!!!”
“ราตรีสวัสดิ์นะ ดอสคุง”
ฟีโอดอร์รู้สึกได้ถึงความเย็นที่คอของเขาจากมีดคมเล่มที่เขาได้ให้กับโกกอลเป็นของขวัญ
ของเหลวสีแดงได้ไหลออกมาเหมือนกับน้ำตกในฝันของเขาไม่มีผิด แต่เดี๋ยวก่อน นี่ไม่ใช่ฝัน
ชีวิตของ ฟีโอดอร์ ดอสโตยเยียฟสกี ได้จบลงแล้ว
นี่สินะจุดจบของเขา
2 ปี ผ่านไป
แสงอาทิตย์ส่องผ่านหน้าต่างตรงมาที่หน้าของนิโคไลผู้ที่กำลังหลับอย่างสบาย บังคับเขาต้องตื่นขึ้นมา
“อืม.... ยังเช้าอยู่เลย นอนต่อดีกว่า..”
.
จิ๊บๆ
.
“!!!” นิโคไลรีบลุกขึ้นมาเปิดหน้าต่างทันทีที่ได้ยินเสียงของนก
“อรุณสวัสดิ์ เจ้านกน้อยตัวโปรดของข้า!”
“วันนี้เป็นวันที่ช่างสดใสนะเจ้าว่าไหม?”
“อ๊ะ! ข้าเกือบลืมไปเลย” นิโคไลรีบวิ่งไปหยิบถุงใบหนึ่งมา ระหว่างที่วิ่งกลับมานั้นเขาเกือบสะดุดของที่เขาลืมเก็บ แต่ดีที่เขาทรงตัวทันก่อนที่จะล้มลงไปกระแทกกับพื้น
นิโคไลหยิบถ้วยใบเล็กๆ ขึ้นมาแล้วตักอาหารนกที่อยู่ในถุงใส่ลงในถ้วยแล้วนำไปวางไว้ตรงหน้านกตัวนั้น
“กินให้อร่อยนะเจ้าตัวน้อย!” เขานั่งมองนกน้อยตัวสีขาวกินอาหารที่เขาให้มันสักพัก จู่ๆ นิโคไลก็หันไปมองนาฬิกาที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียงของเขา
“อ๊ะ! สายแล้วนี่!”
“เจ้านกน้อยไว้เราคุยกันใหม่พรุ่งนี้นะ ตอนนี้ข้าต้องรีบแล้วล่ะ”
นิโคไลรีบไปแต่งตัวแล้วรีบออกจากห้อง
.
เดี๋ยวนะ…
.
“โอ้ไม่ๆๆๆๆ!!!!!” เขาวิ่งกลับเข้าไปในห้องเพื่อไปหยิบของบางอย่าง เขาลืมกุญแจไว้บนโต๊ะอีกแล้วหรอเนี่ย
“เจอแล้ว! ไม่น่าเชื่อเลยว่าข้าจะลืมหมวกสุดที่รักใบนี้ไปได้” อ่าาา มันคือ.. หมวก...
เขาใช้เวลาไม่นานก็ถึงที่ทำงานของเขา
“แฮ่กๆ คงไม่ช้าไปนะ” นิโคไลได้วิ่งไปที่ห้องทำงานของฟีโอดอร์แล้วพลักประตูเข้าไปทันที
“ดอสคุง!!!!”
.
.
ไม่มีเสียงตอบรับ และไม่มีแม้กระทั่งชายหนุ่มผมดำนั่งอยู่ที่โต๊ะของเขา
“อ่า... ดอสคุง.. ไม่อยู่แล้วนี่เนอะ.....” ทุกคำพูดของนิโคไลที่เขาพูดออกมาค่อยๆ เบาลงเลื่อยๆ
“ฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าๆ!!!!!!” จู่ๆ ขาก็ขำออกมาดังลั่นห้องที่เต็มไปด้วยฝุ่น
นิโคไลไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแค่เดินออกจากห้องเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
เขาต้องการออกไปข้างนอก ออกไปจากที่นี่ซะ เขาเดิน เดิน และเดินจนถึงสวนที่ที่หนึ่ง
เขาไม่รู้หรอกว่าตอนนี้เขาอยู่ไหนแล้ว เขาแค่ต้องการความสงบ
ทำไม? คือสิ่งที่เขาต้องการที่จะถามตัวเอง ทำไมถึงรู้สึกเหงาขนาดนี้? ทำไมเขาถึงกลับไปที่ห้องนั้นทุกๆ วัน? ทำไมเขาต้องเข้าไปทักทายใครบางคนที่เขาเป็นคนลงมือฆ่าด้วยตัวของเขาเอง?
นิโคไลได้เริ่มเดินต่อไปเลื่อย เขากำลังเดินไปที่ไหนเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน แค่เดินไปที่ที่ฝีเท้าของเขาพาไป
ชีวิตของเขาน่าสมเพชนะว่าไหม เขาได้สิ่งที่ตัวเองต้องการมาแล้ว ความเป็นอิสระ แต่ทำไมเขายังรู้สึกเหมือนยังติดอยู่ในกรงนกอยู่เลย เขาอยากเป็นเหมือนนกขนสีขาวตัวโปรดของเขาบ้างจัง
เป็นอิสระ ทำอะไรก็ได้ตามใจชอบ ไม่ต้องมีความรู้สึกที่ทำให้เขาจมอยู่กับคนในอดีต
ดอสโตยเยียฟสกีเป็นคนเดียวที่สามารถมองเห็นตัวจริงของเขาและสามารถเข้าใจเขาได้ หรือว่าที่จริงแล้วเขาไม่ได้ต้องการอิสระ? หรือว่าสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ คือคนที่สามารถเข้าใจเขา รับฟังปัญหาของเขาได้?
เอ๊ะ?โบสถ์นี้มัน... ที่ที่เขาฆ่าฟีโอดอร์นี่... ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้?
นิโคไลเดินเข้าไปด้านใน เขาเห็นภาพตอนนั้นได้ชัดเจน อ่า... แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกเจ็บที่หัวใจนิดๆ กันนะ?
โกกอลจู่ๆ ก็ทรุดลงกับพื้น น้ำตาไหลออกมาจนเขาไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ ในหัวของเขาตอนนี้มีแต่ภาพของฟีโอดอร์เต็มไปหมด
พระเจ้ากำลังเล่นอะไรอยู่ ทำไมต้องเป็นเขาด้วย? ทำไมต้องเป็นเขาที่ต้องมาเจ็บปวดเช่นนี้ เขาทำอะไรผิดงั้นหรอ? ขอที่จะมีความสุขเหมือนคนอื่นบ้างได้ไหม ขอที่จะใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาบ้างได้ไหม
เขาฆ่าดอสโตยเยียฟสกีไปเพื่อความเป็นอิสระแต่ไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นเลย กลับกลายเป็นว่าเขารู้สึกเหมือนตัวเองตกลงไปในเหวที่ไม่มีสิ้นสุด
นิโคไลตัดสินใจแล้วว่าเขาจะตามดอสคุงของเขาไป
เขาหยิบมีดที่เขาใช้ฆ่าฟีโอดอร์ออกมา แล้วยกมันขึ้นมาใกล้ลำคอของเขา
.
.
ฉึก!
.
.
เลือดสีแดงก่ำไหลออกมาจากคอของเขา เหมือนกับตอนที่เขาเอามีดเล่มเดียวกันแทงเข้าไปที่คอของฟีโอดอร์
เขาหลับตาลงแล้วปล่อยให้สติตัวเองค่อยๆ เลือนหายไป
ความมืดมิดกลืนกินเขาอย่างช้าๆ ช่างมืดและหนาวเหลือเกิน
ลมเย็นพัดผ่านมาพร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ มันกำลังหัวเราะเยาะเขาอยู่ เขาทำได้แค่ฟังมันอย่างเดียวเพราะตอนนี้ร่างกายของเขาไม่สามารถขยับได้เลย
"เจ้านกน้อย บ้านใหม่ของเจ้าบนสวรรค์เป็นอย่างไรบ้าง รอผมหน่อยนะ"
"ผมกำลังไปหา"
"เฟดย่า"
นิโคไล โกกอล เอ่ยขึ้นก่อนที่ตนจะหมดสติไป
นี่สินะความเป็นอิสระของเขา การตายคือความหมายของการเป็นอิสระ จากชีวิตอันน่าสมเพชของเขา
เขาและฟีโอดอร์อาจเป็นอิสระพ้นจากบาปในที่สุด
นี่คงเป็นการให้เมตตาและปล่อยให้พวกเขาเป็น
อิสระ
