ดวงจิตสัมผัสรัก

พระเอก

นายรามิล วงศ์วรากุล (ตรี)

ครอบครัวทำธุรกิจสีดำ พ่อเป็นชาวอิตาลี ได้ละกิเลสทางโลกบวชเป็นพระไม่ศึกมาตั้งแต่ตรีอายุได้เพียง 15 ปี ธุรกิจต่าง ๆ ก็ยังคงดูแลโดยนายทักษกร วงศ์ตระกูล (ฮ่องเต้) เป็นลูกพี่ลูกน้องของตรี และคอยสอนงานให้กับตรีทุกอย่างในธุรกิจสีดำนี้

ตรีเป็นเจ้าของคลับ บาร์ บ่อนคาสิโน และรับจำนำ จำนอง สินทรัพย์ทุกอย่างที่แปรเปลี่ยนเป็นเงินเพื่อนำไปเข้าบ่อนคาสิโนของตัวเอง

ตรีไม่เชื่อไสยศาสตร์ มนต์ดำ เชื่อแต่เรื่องทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ชอบทำบุญกุศล กรวดน้ำให้กับเจ้ากรรมนายเวร ที่วัดประจำของตระกูลตัวเองเพราะนายเดชผู้เป็นพ่อละมือจากทางโลกปล่อยกิจการทุกอย่างให้ตนดูแลและหนีไปบวชจนถึงทุกวันนี้

ทุกวันพระตรีจะต้องถวายเพล กรวดน้ำให้กับเจ้ากรรมนายเวร และนำน้ำมนต์จากหลวงพ่อไปพรมทั่วบริเวณที่อยู่อาศัยและคลับ บาร์ บ่อนคาสิโนทุกครั้งเพื่อเป็นศิริมงคลจากที่พ่อหลวงเดชบอกไว้

และวันหนึ่งมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เหมือนว่ามีหมอกสีดำปกคลุมทั่วบริเวณบ่อนคาสิโน ที่ทำรายได้ให้กับครอบครัว มือขวาบอกว่ามันคือมนต์ดำ จึงต้องเดินทางมาหาคนดูดวงและสามารถแก้มนต์ดำได้

"ไอ้ม่อน พ่อหมอมึงทำไมหน้าหวานนักว่ะ" เขาดูจากภาพไวนิลอยู่หน้าตึกก่อนเข้ามาภายในตึก

"ท่านยังเรียนอยู่เลยลูกพี่"

"ห๊ะ!..แล้วกูเชื่อถือได้แค่ไหนว่ะเนี๊ยะ"

"เข้าไปหาท่านก่อนผมจองคิวไว้ให้แล้วครับ"

ตรีเมื่อเข้าไปยังห้องรับรองที่มีโซฟาหรูราคาแพงตั้งอยู่ภายในห้องโถงใหญ่ และบนโต๊ะมีลูกแก้วดวงใหญ่วางอยู่ ถัดไปมีแมวสีดำตัวใหญ่นอนหมอบราบอยู่ข้างโต๊ะ

"นั่งลงสิคุณ" เสียงตะโกนดังขึ้นทำให้ตรีตกใจ

"เหี้ย!... นั่งอยู่ตรงนี้นานแล้วเหรอว่ะ"

"ครับ" ชายหนุ่มตรงหน้าพยักหน้าช้า ช้า

น้ำมนต์แค่รู้ว่ามีมาเฟียนัดมาดูเรื่องในมนต์ดำ เขาก็มองเห็นภาพชายหนุ่มรูปงามอยู่ในภวังค์

"นี่มันคู่ปรับกูเมื่อภพชาติก่อนนี่หว่า" พ่อหมอได้บ่นพึมพำออกไป

"เมี๊ยววว...." เจ้านะโมตอบรับพี่ชายในทันที

"โอโห้..น่ารักขนาดนี้ผมขอจ้างไว้ดูดวงส่วนตัวเลยได้ไหมครับท่านพ่อหมอ"

"อืมมมม....เอาสิ"

"เฮ้ย!...ง่าย ง่ายแบบนี้เลยเหรอว่ะไอ้ม่อน" ตรีหันไปมองหน้ามือขวาแต่ม่อนได้แต่ส่ายหน้าพร้อมกับส่งยิ้มแห้ง ๆ กลับมาให้ผู้เป็นเจ้านาย...

นายเอก

นายมนต์ทัช หิรัญวัฒนา (น้ำมนต์)

เป็นบุตรชายของครอบครัวนักธุรกิจค้าเพชร พลอย ข้ามชาติมีทั้งของถูกกฎหมายและหนีภาษี

เป็นลูกฝาแฝดแต่น้องชายตายตอนคลอด จึงทำให้ตนเป็นลูกคนเดียว หากแต่น้องชายฝาแฝดก็ยังไม่ไปเกิดใหม่เป็นวิญญาณอยู่ด้วยกันกับตัวเองมาตั้งแต่เกิดจนถึงทุกวันนี้

ในวัยเด็กน้ำมนต์มักนั่งเล่นคนเดียว พูดน้อย จนมำให้พี่เลี้ยงหวาดกลัวสิ่งที่มองไม่เห็น พ่อและแม่กลุ้มใจพาไปหาหลวงพ่อที่เคารพ จึงได้ความว่าน้องชายยังไม่ไปเกิดยังอยู่กับลูกชายคนโต หลวงพ่อแนะนำให้ตั้งชื่อน้องชายด้วยเสมือนว่าน้องชายยังมีชีวิตอยู่ และห้ามทำให้น้องชายเดือนร้อนไม่ต้องไปหาสิ่งศักดิ์มาปิดกั้นภายในบ้าน เพราะน้องชายคนที่ยังติดตามจะช่วยน้ำมนต์ปลดบ่วงทุกข์ที่เขาเคยสร้างร่วมกันมาในภพชาติก่อน

เมื่อน้ำมนต์อายุ 10 ปี มักจะเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าเป็นภาพในภวังค์เสมอ เช่น ไฟไหม้ ตนได้บอกผู้เป็นแม่ว้าตนเห็นไฟลุกไหม้ แม่ก็บ่นไปเรื่อย ๆ จนหลาย ๆ ครั้ง ทำให้พ่อกับแม่เชื่อพาลูกชายไปหาหลวงพ่อเดช ให้ประน้ำมนต์ให้

"เขาจะปลดทุกข์ที่มีมาได้เมื่อเขาเจอดวงจิตอีกดวงเท่านั้น"  หลวงพ่อเดชบอกกับผู้ใหญ่ทั้งสองคน

หลวงพ่อหันมองหน้าน้ำมนต์แล้วส่งยิ้มให้

"เมื่อเจ้าอายุ 15 ปี เจ้าต้องสร้างกรรมดี สร้างบุญบารมี ช่วยเหลือผู้คน โดยเจ้าต้องเปิดสำนักดูดวงชะตาแก้กรรมให้กับคนเดือนร้อน และเจ้ากรรมนายเวรของเจ้าจะปลดบ่วงทุกข์ให้เจ้า และเจ้าก็ต้องช่วยพี่ชายเจ้าด้วยนะ นะโม" หลวงพ่อหันไปพูดกับความว่างเปล่าข้าง ๆ ของน้ำมนต์

"แล้วผมจะรู้ได้อย่างไรว่าใครคือเจ้ากรรมนายเวรครับหลวงพ่อ" หนุ่มน้อยน้ำมนต์ถามด้วยความสงสัย

"เจ้าต้องใช้ดวงจิตของเจ้าสัมผัสมัน"

"ครับหลวงตา" น้ำมนต์ตอบรับโดยที่ไม่รู้ว่าดวงจิตสัมผัสมันคืออะไร..........

ได้แต่หันไปมองหน้าน้องชายที่เป็นภาพเลื่อนลางอยู่ข้างตัวเองด้วยความสงสัยในจิตใจ......

"ต้องใช้ดวงจิตสัมผัสเท่านั้น" เสียงแว่วดังมาที่ข้างหูของน้ำมนต์แต่ไม่ใช่เสียงนะโม แต่มันเป็นเสียงหญิงชราเสียง แหบ แหบ ฟังน่าขนลุก.......