หวามสวาทธิดาพระยารามฯ (ตัวอย่าง)

เรื่องนี้เป็นนิยายโรมานซ์+ดราม่าย้อนยุคสมัยรัชกาลที่ 4 ของขาว ธิดาพระยารามเดชา จากเรื่องเผ็ดจสวาทขุนศึกเสน่หา แต่อ่านแยกได้ค่ะ 

อีบุ๊คจัดโปรเปิดเล่มที่ meb ราคา 59 บาท จากราคาเต็ม 99 บาท ส่วนที่นี่ลงเป็นตัวอย่างให้อ่าน 10-12 ตอนค่ะ ขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณาติดตาม/อุดหนุนนะคะ^^ 

“ต้องของที่ดีที่สุด เลอค่าที่สุด และงดงามที่สุดเท่านั้นถึงจะคู่ควรกับเมียข้า” เขาเกริ่นนำก่อนจะเปิดฝากล่องแล้วยกของที่อยู่ในนั้นขึ้นมาให้นางชื่นชม 

มันคือสร้อยและอุบะทับทิมน้ำงามที่สุดที่ขาวเคยเห็น เมื่อเขาสวมให้นาง ตัวอุบะก็ทอดอยู่เหนือเนินทรวงอย่างพอเหมาะพอเจาะ ประกายระยิบระยับของอัญญมณีสีแดงยามต้องแสงเทียนขับผิวเนียนละเอียดของนางให้ผุดผ่องยิ่งขึ้น  

“ข้าอิจฉาทับทิมเส้นนี้กับเสื้อผ้าชุดนี้ที่มันได้สัมผัสเจ้าทุกอณู” เขาพึมพำอย่างหลงใหลใฝ่หา มือร้อนผ่าวเริ่มลูบไล้ไปทั่วร่างงามอีกครั้ง และไปจบที่ทรวงงาม ปากหนาครอบรอบยอดอกข้างซ้ายแล้วย้ายไปข้างขวา ทิ้งรอยเปียกไว้บนผ้าบางจนเห็นทะลุถึงเนื้อแท้ของจุกและป้านถันสีทับทิม “ทับทิมเม็ดไหนก็งามสู้สองเม็ดนี้ไม่ได้”  

“แน่รึเจ้าคะ” นางเลิกคิ้วถามยั่วเย้า 

“เมื่อไม่แน่ใจก็ต้องเปรียบเทียบกันให้เห็นจะๆ” ว่าแล้วก็ปลดเปลื้องอาภรณ์ออกจากกายนางทีละชิ้นๆ จนเหลือแต่ร่างเปลือยและสร้อยเส้นนั้น ตัวอุบะทาบอยู่บนเนินและร่องอกกลมกลึงที่เต่งตั้ง ยอดกับป้านสีทับทิมจึงชูประชันกับทับทิมน้ำงาม “ทับทิมใจกลางอุบะนี้มีค่าควรเมือง แต่เจ้ารู้รึไม่ว่ามันหาได้งามเทียมทันมณีสองเม็ดบนสองเต้าของเจ้าได้ไม่ และยิ่งทับทิมประดับยอดมงกุฎที่เร้นอยู่ในซอกรักของเจ้า ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ไม่เชื่อก็ดูด้วยตาเจ้าเองเถิด”  

แล้วร่างเปลือยก็ถูกอุ้มไปยืนหน้ากระจกบานใหญ่กรอบประดับพลอยหลากสีหนึ่งในของนับร้อยชิ้นที่เขาซื้อให้นางในวันนี้ ร่างสูงใหญ่ยืนซ้อนหลัง มือหนึ่งคล้องเอวคอด อีกมือจับใต้เข่ายกขาข้างหนึ่งของนางยกขึ้นสูง เผยมณีเม็ดงามที่เขาเปรียบเปรยว่าเป็นทับทิมยอดมงกุฎ มันแดงก่ำและเยิ้มฉ่ำมันวาวด้วยน้ำรัก 

“ทีนี้เห็นจริงตามคำข้ารึไม่” เขาถามเสียงกระเส่าพลางจูบไซ้ไล่ไปตามลำคอระหงนวลเนียน มือที่คล้องเอวไล้ต่ำไปหาเม็ดมณีแล้วสะกิดปลายนิ้วปลุกปั่น 

“อื้อ กัปปิตัน เห็นจริงล้าววว อ๊า เห็นแล้วเจ้าค่ะ”