ผมก็แค่...แม่ทัพ!!
2
ตอน
237
เข้าชม
0
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
5
เพิ่มลงคลัง
เขาที่เป็นหน่วยรบพิเศษ ถูกคนที่ไว้ใจฆ่าตายอย่างเลือดเย็น  จากนั้นจึงได้เกิดใหม่ในร่างของผู้อื่น…..  

    บุรุษร่างสูงนั่งสง่าบนหลังอาชาสีทมิฬตัวใหญ่  ใบหน้ากร้านแดดทอดสายตามองไปยังเบื้องหน้าในมือถือทวนอันใหญ่ยกสูงขึ้นเหนือหัว

   “ฆ่า!”  สิ้นเสียงตะโกนกึกก้อง  เหล่าทหารกล้าต่างตะบึงเร่งฝีเท้าม้าออกไปโจมจันโรมรันกับศัตรู  ทั่วทุ่งหญ้าเขียวขจีเต็มไปด้วยหยาดโลหิต

   ใบหน้าเย็นชาเผยให้เห็นความดุดันโหดเหี้ยมมากมายในดวงตาคู่นี้  หากมีผู้ใดมาเห็นต้องยำเกรงเป็นแน่  

   เสียงโห่ร้องดังก้องไปทั่วบริเวณผู้คนเข่นฆ่ากันเป็นว่าเล่น  ร่วงหล่นโรยราราวกับใบไม้ร่วง.....

.

.

.

   สมญานามบุรุษเลือดเย็นมิเกินจริง  ชายหนุ่มร่างสูงในชุดเกราะเหล็กของทหารเดินทางเข้าเฝ้าฝ่าบาทตามรับสั่งของพระองค์

   สงครามในชายแดนทั้ง  4  ถูกจัดการลงด้วยฝีมือของแม่ทัพ  ‘เฟิ่งจิ่น’   ชื่อเสียงเรียงนามดังไกลไปทั่วหล้า  มิมีผู้ใดไม่รู้จักเขา

   “ถวายบังคมฝ่าบาทขอทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆปีพ่ะย่ะค่ะ”  แม่ทัพเฟิ่งจิ่นเอ่ยขึ้นหลังจากที่ตนและผู้ติดตามอีก  4  คนได้คุกเข่าทำความเคารพบุรุษบนบัลลังก์เรียบร้อยแล้ว

   “ลุกขึ้นเถิด”  ฝ่าบาทรับสั่ง  คนทั้ง  5 จึงลุกขึ้นจากพื้นยืนหลังตรงอยู่เบื้องหน้าผู้ยิ่งใหญ่เหนือผู้ใดในแผ่นดิน

   “ความดีความชอบของเจ้าเจิ่นได้รับรู้แล้ว  จิ่วกงกงเปิดราชโองการของเรา”  ตรัสกับชายหนุ่มแล้วจึงหันไปตรัสกับกงกงคนสนิทของตนต่อ

   “พ่ะย่ะค่ะ”  จิ่วกงกงตอบรับก่อนจะเดินออกมายืนอยู่ด้านหน้าของแม่ทัพหนุ่มและเปิดราชโองการตามรับสั่งของฝ่าบาท

   “จากผลงานทั้งหมดทั้งปวงของแม่ทัพเฟิ่งจิ่นที่ได้กระทำมานั้น  ขอแต่งตั้งให้แม่ทัพเฟิ่งจิ่นขึ้นรับตำแหน่งแม่ทัพ.......”

 

        พรึบ!

ดวงตาคู่สวยเปิดลืมขึ้นด้วยความตกใจเหงื่อเม็ดใหญ่ไหลลงข้างขมับ  ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งบนเตียงกวาดตามองไปรอบๆก็พบว่าเวลานี้ตนนั้นยังนอนอยู่ในห้องสีครีมของตนอยู่

   แน่นอนว่าเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลายยังคงเป็นของตกแต่งบ้านตามยุคสมัยใหม่ไม่ใช่ของโบราณอย่างที่ตนนั้นฝันถึง

   ครืนนนน  ครืนนนนน

ในจังหวะที่เจ้าตัวจะนอนต่อนั้นเสียงมือถือของเขาก็สั่นขึ้น

   ชายหนุ่มเอือมมือไปหยิบมือถือที่อยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงมองรายชื่อหน้าจอก็พบว่าเป็นเจ้านายของเขาเอง

   “ครับท่าน”  ชายหนุ่มกรอกเสียงลงไปยังสายนั้นก่อนจะรอฟังสิ่งที่อีกคนต้องการบอกในเวลาตีสองนี้

   [มีงานด่วนเข้ามา  ตามลูกทีมของคุณด้วย  ตูดดดดด]  กล่าวจบสายก็ตัดไป  ทำเอา ‘เฟิ่งจิ่น’  ถึงกับนึกหัวเสีย  

   เดิมทีเขาก็มีเวลาพักผ่อนน้อยอยู่แล้ว  นี่ก็พึ่งลาหยุดได้เพียง  1  วันเท่านั้น  แต่กับมีงานด่วนเข้ามาเสียอย่างนั้น  พักร้อนที่ลาไปก็คงจะถูกยกเลิกอีกตามเคย  เฮ้อ.....

 

   .......................

 

   ช่วงเวลตี  4  ครึ่งคนทั้ง  7  คนก็มาถึงห้องประชุมใหญ่  โดยมีเฟิ่งจิ่นเป็นหัวหน้าทีมเดินนำคนอื่นๆเข้ามาด้านใน

 

   การประชุมเริ่มต้นขึ้นทันทีที่ทุกฝ่ายมาถึง  หน่วยข่าวกรองรายงานถึงความเป็นไปของเป้าหมาย  ยาวนานถึง  2  ชั่วโมงครึ่ง  การประชุมอันตรึงเครียดก็จบลง

 

   ผลสรุปคือให้ทีมของเจ้าตัวออกทำภารกิจช่วยเหลือตัวประกัน  ภารกิจจะเริ่มในอีก  1  ชั่วโมงหลังจากนี้  พวกเขาไม่มีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจใดๆมากนักก็ถูกสั่งให้ไปทำภารกิจเสียแล้ว

   พักร้อนที่คาดว่าจะได้ใช้กลายเป็นหมันไปแล้ว  หมดกันการนอนนิ่งๆบนเตียงนุ่มๆที่เจ้าตัวใฝ่ฝันถึง  เฮ้อ......

 

   “รายงานสถานการณ์”  เฟิ่งจิ่นเอ่ยถามหน่วยข่าวที่ประจำการรออยู่ที่นี่

   “ตัวประกันทั้งหมด  15  คนครับ  นอกจากนี้พวกมันมีคนทั้งหมด  30  คนอาวุธครบมือ.......”  การรายงานเป็นไปอย่างตรึงเครียด  จวบจนคนจากข่าวกรองพูดจบทีมของเฟิ่งจิ่นถึงได้มีเวลาวางแผนหาทางเข้าไปช่วยตัวประกันด้านใน

 

   หลังวางแผนงานจบแล้วทุกคนจึงได้แยกย้ายกันไปทำตามแผนที่วางไว้  ทางเฟิ่งจิ่นจะเป็นผู้เข้าไปช่วยตัวประกันเอง  ส่วนคนอื่นๆจะเป็นคนดึงความสนใจจากพวกมันแทน

 

   ฝีเท้าของพวกเขาเงียบเชียบราวกับสายลม  แม้จะมีอาวุธหนักถือไปด้วยแต่ก็ไม่อาจทำให้ความสามารถย่องเบาของพวกเขาด่อยลงไปได้

 

         ปังๆๆๆๆๆ

เสียงปะทะกันของกองโจรและคนของเขากำลังเริ่มขึ้น  ช่างดึงความสนใจได้ดีจริงๆ

   เฟิ่งจิ่นค่อยๆก้าวเท้าตรงไปทางที่ตัวประกันถูกขังเอาไว้อย่างช้าๆ  สายตาสอดส่องลอบมองคนของกลุ่มโจรไปด้วย

   ไม่นานเจ้าตัวก็มาถึง  ทั้งชายและหญิงถูกจับมัดขังรวมกันเอาไว้ที่มุมหนึ่งของห้อง

   “ชู่ววว”  เฟิ่งเจิ่งยกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปากเป็นการบอกพวกเขาให้เงียบ  ซึ่งทุกคนก็ทำตามอย่างว่าง่าย

   เฟิ่งจิ่นกวาดตามองไปรอบๆอีกครั้งอย่างระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีคนของกองโจรอยู่จริง  เมื่อมั่นใจแล้วเจ้าตัวจึงเดินไปช่วยคนอื่นๆแก้มัด

   แกร่ก!

ทว่าความเย็นของปลายกระบอกปืนกับจ่อลงที่หัวของเขา  เฟิ่งจิ่นยกมือทั้งสองขึ้นเหนือหัวเป็นการบอกกลายๆว่าเขาไม่มีอาวุธในมือ  ก่อนจะค่อยๆหันหน้าไปเผชิญกับคนทางด้านหลัง

   “กู่หลง!”  เสียงเอ่ยทักอย่างตกใจบวกกับความไม่เข้าใจทำให้เฟิ่งจิ่นขมวดคิ้วมองอีกคนอย่างสับสน

   “ไงหัวหน้า”  เสียงของกู่หลงพูดขึ้น  พร้อมกับร้อยยิ้มของเจ้าตัว  เฟิ่งจิ่นเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวในหัวของเขาอย่างไม่อย่างจะเชื่อ

   “ทำไม?”  เฟิ่งจิ่นเอ่ยถาม  ทว่าอีกคนกลับทำเพียงยกยิ้มขึ้นสูงเท่านั้น

   “เพราะหวัหน้าน่ารำคาญเอามากๆเลยครับ  บางทีคนเราดีเกินไปก็เป็นภัยนะครับ  หัวหน้า”  กู่หลงเอ่ย  ก่อนจะมองเลยเฟิ่งจิ่นไปด้านหลัง  ทำให้เฟิ่งจิ่นหันกลับไปมองตา

   จึก!

   “อัก!”

หญิงสาวคนหนึ่งเสียบมีดปลายแหลมเข้าหน้าท้องของเขาในจุดที่ชุดกันกระสุนไปไม่ถึง  เลือดสีแดงสดไหลแอบมือเรียวของเธอ

   หญิงสาวน้อตาคลอก่อนจะร้องไห้อย่างหนักปากก็พร่ำบอกว่า

   “ขอโทษ!  ฉันขอโทษ!”  ไม่หยุด

   เฟิ่งจิ่นล้มลงบนพื้นพลางกอบกุมบาดแผลที่ถูกหญิงสาวทำร้าย  มีดนั้นถูกเธอดึงออกไปนานแล้ว  และเพราะแบบนั้นมันจึงทำให้เลือดของเขาไหลไม่หยุดแบบนั้น

   “หึ!  เป็นไงพ่อคนดี  ถูกคนที่ตัวเองช่วยเหลือฆ่าตายเนี่ย  รู้สึกดีใช่ไหม?”  กู่หลงพูดขึ้นพลางเดินอ้อมมาหาเขาที่นั่งกุมท้องของตนอยู่บนพื้น

 

   “อยากเป็นคนดี  แต่ก็ต้องตายเพราะคนดี  มันน่าสมเพชวะ”  กู่หลงจับปลายคางของเฟิ่งจิ่นให้อีกคนมองหน้าตนอย่างไม่ละไปไหน

   “มีอะไรอยากพูดเป็นครั้งสุดท้ายไหม?  หัวหน้า”  

   “ถุย!”  เฟิ่งจิ่นถ่มน้ำลายปนเลือดใส่หน้าอีกคน

   เพลี้ย!

กู่หลงฟาดฝ่ามือใส่หน้าของเฟิ่งจิ่นจนเลือดกลบปาก  เจ้าตัวล้มตัวไปตามแรงตบของอีกคน  ทางกู่หลงเองก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง  คล้ายจะเดินหนีทว่า  กลับหันกลับมาเตะเสยเข้าที่หน้าของเฟิ่งจิ่นจนแทบสิ้นสติ

   ผลัก!

   “มึงนี่นะ!  หาเรื่องตาย”  กู่หลงพูดขึ้นพลางเล็งปืนไปที่หัวของเฟิ่งจิ่น

   “ในเมื่อไม่มีอะไรจะพูด  งั้นก็ตายไปซะ!”

   ปัง!

.

.

.

 

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว