"จากเหตุการณ์ที่รัฐบาลประกาศลอยตัวค่าเงินบาททำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ปัจจุบันอยู่ที่ 50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ผู้ที่กู้ยืมเงินตราจากต่างประเทศมาทำธุรกิจมีหนี้สินเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว"
ข่าวเศรษกิจแจ้งวิกฤตกาลครั้งใหญ่ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ช่องแล้วช่องเล่า ซึ่งวิกฤตนี้ได้เริ่มเริ่มลุกลามไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะบรรดาประเทศที่เป็นเจ้าหนี้ของประเทศไทยทั้งหลาย
วิกฤตครั้งนี้ได้รับสมญานามตามอาหารยอดนิยมในประเทศไทย
"วิกฤตต้มยำกุ้ง"
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ก่อนหน้านี้มีความร้อนแรงมาโดยตลอด ก่อนหน้านี้สามารถทำจุดสูงสุดได้ที่ 1789 จุด ก่อนจะปรับตัวลงจนเหลือเพียง 204 จุด!! จากวิกฤตกาลในครั้งนี้้
กิจการมากมายต้องปิดตัวลงจากการทนพิษของหนี้สินที่กู้ยืมมาไม่ไหว
เจ้าหนี้ทั้งหลายก็ย่ำแย่เพราะลูกหนี้ไม่มีเงินจ่ายคืน
วงล้อเศรษฐกิจหยุดชะงัก
ประเทศที่ได้ชื่อว่าจะเป็น เสือตัวที่ 5 แห่งเอเชีย บัดนี้สิ้นลายลงแล้ว!!
"ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ" บุรุษในเสื้อกาวน์กล่าวกับสตรีชุดกระโปรงขาวที่ยืนอยู่ข้างเตียงของผู้ป่วยและขอตัวออกไปจากห้อง ทิ้งให้สตรีนางนั้นคอแข็งนิ่งอึ้งพูดอะไรไม่ออก ความรู้สึกทั้งหลายประดังเข้ามาหาเธอในทันที
"คม พ่อเสียแล้ว" สตรีอายุประมาณ 30 ต้นๆ ทรุดตัวลงอย่างหมดแรงก่อนจะหันไปกล่าวเบาๆกับเด็กผู้ชายอีกคนที่เกาะขอบเตียงอยู่ใกล้ๆ กำมือสองข้างแน่น ก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือบางอันสั่นเทาไปลูบใบหน้าที่ขาวซีดบนเดียงเบาๆ ราวกับจะถ่ายทอดความรู้สึกที่มีผ่านไปทางมือคู่นั้นเป็นครั้งสุดท้าย พร้อมน้ำตาที่รินไหลอาบสองแก้ม
เด็กชายวัย 6 ขวบที่เกาะอยู่ขอบเตียง ใบหน้าซีดเซียว กำมือชายผู้เป็นพ่อไว้แน่น ส่งเสียงร้องไห้ออกมาลั่นห้องนั้น ก่อนโผเข้าไปซบกับร่างไร้วิญญาณของผู้ที่เป็นพ่อบนเตียง ถึงแม้จะอยู่ในวัยเด็กแต่เขาก็ทราบความหมายที่ผู้เป็นแม่กล่าวออกมาเป็นอย่างดี
"พ่อครับ อยู่กับคมก่อนครับ พ่อ!!" น้ำเสียงของเด็กชายนั้นแหบห้าว น้ำตาไหลอาบสองแก้มยุ่ยนั้น นัยน์ตาแดงก่ำ เสียงร่ำไห้ที่สะท้านออกมาราวจะขาดใจ
"ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะมัน!!" สตรีผู้ได้ชื่อว่าเป็นแม่กล่าวเสียงต่ำพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ขบกรามแน่น ก่อนร่างอรชรนั้นจะลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและวูบล้มลงกับพื้น สงบแน่นิ่งไป
"แม่!!"