จบ ชายาบุปผาร้อยพิษ
95
ตอน
60.3K
เข้าชม
645
ถูกใจ
75
ความคิดเห็น
567
เพิ่มลงคลัง
เหยาเหยาในภพปัจจุบัน มีนิสัยชอบวิจัยเรื่องสัตว์มีพิษทุกชนิด ข้อเสียคือชอบใช้พิษฉีดทดลองกับร่างกายตัวเอง พอตื่นขึ้นมากลับโผล่มาในยุคที่เธอไม่รู้จัก และนั้นคือจุดพลิกผันของเหยาเหยาตั้งแต่นั้นมา

เหยาเหยาหลังจากทดลองยาพิษชนิดพิเศษกับตัวเอง เธอจึงหมดสติไปอยากไม่ทราบสาเหตุ แต่พอเธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็มาโผล่ในร่างใหม่ที่เจ้าของร่างเดิมพึ่งจะจบชีวิตไปเพียงไม่นาน หญิงสาวร่างบางนอนสลบสไลอยู่ในวัดล้างแห่งหนึ่ง ด้วยความรู้สึกที่แปลกประหลาดภายในร่างกาย เนื้อตัวหนาวสั่นกระทันหัน ร่างกายเหมือนกำลังร้อนรุ่มแผดเผาไปด้วยไฟราคะ ร้อน ร้อนมาก เหตุใดร่างกายถึงได้รู้สึกร้อมรุ่มขึ้นมามากมายเช่นนี้ เหยาเหยาจำได้ว่า ไม่ใช่ว่านางกำลังฉีดยาพิษทดลองยาตัวใหม่อยู่ในห้องแลปส่วนตัวหรอกหรือ แล้วเหตุใดในร่างกายนางตอนนี้ถึงได้มีกลิ่น "เหล้าอภิรมณ์" (ยาปลุกกำหนัดชนิดรุนแรง) อยู่ในร่างกายนางละ นางเป็นถึงศัลยแพทย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และยังเชี่ยวชาญในด้านการปรุงยาพิษทุกชนิดเช่นนี้ มีหรือนางจะไม่รู้ว่ายาพิษที่นางได้รับตอนนี้คือยาพิษชนิดใด ถึงแม้ไม่รู้ว่าเกิดสถานการณ์อะไรขึ้นตอนนี้ หญิงสาวสารเลวคนนี้ด้วยกำลังเพียงน้อยนิดยังกล้าวางแผนใส่ร้ายเธอ ให้ตายสิทำไมร่างกายเหยาเหยาตอนนี้ถึงได้อ่อนแอไม่มีเรี่ยวแรงขนาดนี้ เพราะน้ำเสียงจากหญิงสาวตรงหน้าทำให้เธอได้สติขึ้นมา

 

"เฟิงฉิงเหยา เจ้าอย่าได้โทษข้าเลยนะ หากจะโทษก็ต้องโทษตัวเจ้าเองที่ไร้ประโยชน์และไม่มีความสามารถพอ เหตุใดคนอัปลักษณ์เช่นเจ้า ถึงได้เป็นคู่หมั้นของฉางอ๋องตั้งแต่เยาว์วัย เหตุใดถึงไม่ใช่ข้า ฉางอ๋องทั้งหล่อเหลาสง่างามเช่นนั้นไม่มีทางยกหญิงอัปลักษณ์เฉกเช่นเจ้าไปเป็นชายาเอกให้ต้องอับอายขายขี้หน้าผู้คนทั่วทั้งเมืองหรอก ใช่ว่าเจ้านั้นจะคู่ควร ตั้งแต่เล็กจนโตเจ้าก็คอยเป็นเสี้ยนหนามข้ามาโดยตลอด ผลลับของเหล้าอภิรมณ์ รับรองได้ว่าเจ้าจะต้องขอบใจข้าในครั้งนี้อย่างแน่นอน" น้ำเสียงภาคภูมิใจของหญิงสาวตรงหน้าดังเข้ามาในหูของนาง

 

 

หญิงสาวตรงหน้าช่างสมควรตายจริงๆ ถึงเหยาเหยาจะเป็นศัลยแพทย์ชื่อดัง แต่ต้นตระกูลปู่ของเธอก็เป็นถึงผู้บัญชาการทหารขั้นสูงสุดของหน่อยรบพิเศษมายาวนาน มีหรือเหยาเหยาจะไม่โดนฝึกฝนพิเศษมาตั้งแต่เด็ก เรื่องความสามารถทุกอย่างสำหรับเธอ ถือว่าเป็นเรื่องยิบย่อย เหยาเหยามีความจำที่แม่นยำมาตั้งแต่จำความได้ ปู่ของเธอจึงให้เธอฝึกฝนวิชาความรู้การต่อสู้ทุกอย่างให้เธอมาตั้งแต่เด็กๆ คล้ายกับว่าเธอเป็นเด็กผู้ชาย

 

 

"คนอย่างเจ้าน่าจะตายไปพร้อมกับมารดาที่ให้กำเนิดเจ้าตั้งแต่ตอนที่เจ้าเกิด แต่ข้าว่าตัวเจ้าน่าจะเน่าเปื่อยไปในความมืดตามลำพังมากกว่า ไม่น่ามีชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้หากไม่ใช่บิดาเจ้าคอยคุ้มกะลาหัว นับแต่วันนี้ไปเจ้าอย่าได้คิดจะปีนป่ายขึ้นไปหาฉางอ๋อง หาไม่แล้ว เจ้าจะได้เจอมากกว่าเช่นในวันนี้จำเอาไว้" มู๋ชูหลานยังคงภาคภูมิใจ รูม่านตานางหดลงเล็กน้อย เผยให้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา และสีหน้าก็แปรเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

 

 

เฟิงฉิงเหยาผู้ซึ่งควรจะหมดสติ กลับลุกยืนขึ้นมาแล้วยิ้มให้มู๋ชูหลานอย่างน่าขนลุก จนทำให้มู๋ชูหลานถึงกับตกใจกลัวจนตัวสั่นดวงตาเบิกตากว้างทำอะไรไม่ถูก

 

 

"พรึบ!!!" ก็ไม่รู้ว่าเฟิงฉิงเหยาลุกขึ้นมาได้อย่างไร นางใช้นิ้วทั้งห้าบีบไปที่ลำคอของมู๋ชูหลาน ทำให้มู๋ชูหลานหายใจติดขัดไม่รู้ว่าเฟิงฉิงเหยาไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน มู๋ชูหลานพยายามแกะมือยังไงก็แกะไม่ออก

 

 

"ฉางอ๋องนั้นจะปีนมาหาข้านั้นไม่แน่ ส่วนเจ้าไม่มีทางปีนป่ายขึ้นไปหาเขาได้แน่นอน เหล้าอภิรมณ์ของดีเช่นนี้ข้าจะสนุกเพียงคนเดียวได้อย่างไร ของดีแบบนี้ควรต้องแบ่งปันสหายรักถึงจะถูก" เฟิงฉิงเหยามีท่าทางที่น่าเกรงขามมองหญิงสาวตรงหน้าเหมือนดั่งมองเศษขยะ ไม่รู้ว่าเฟิงฉิงเหยาหยิบขวดเหล้าอภิรมณ์ออกไปจากตัวของมู๋ชูหลานตั้งแต่ตอนไหน โดยที่มู๋ชูหลานไม่ทันได้รู้ตัว

 

 

"น...นั้น เจ้าคิดจะทำอะไร....? มู๋ชูหลานตื่นตระหนกขึ้นมาทันที ส่วนเฟิงฉิงเหยาหัวเราะประชดประชันอย่างพอใจ เธอรีบเอื้อมมือไปสกัดจุดชาของมู๋ชูหลานอย่างรวดเร็ว

 

 

"ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นอาจถึงตายได้ ทำสิ่งใดไว้ก็ควรจะได้รับสิ่งนั้นตอบแทนไม่ใช่เหรอ....? เฟิงฉิงเหยารีบดึงผ้าคลุมหน้าออกจากมู๋ชูหลาน แล้วรีบปิดใบหน้าให้ตัวเองทันที เพราะนางได้ยินเสียงฝีเท้าเดินใกล้เข้ามา ก่อนจะรีบกระโดดออกไปนอกหน้าต่างอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้มู๋ชูหลานชดใช้ชะตากรรมที่ตัวเองเป็นคนก่อ

 

 

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว