“สวัสดีค่ะ” มะลิยกมือไหว้เพราะจำได้ว่าเขาคือรุ่นพี่ที่คณะ อันที่จริงใครๆ ก็ต้องรู้จักเพราะเขาเป็นดาวเด่น เก่งทั้งเรียนและกีฬาแถมหน้าตาก็ไม่ได้ขี้เหร่ ที่สำคัญรวยสุดๆ ได้ข่าวว่าพ่อแม่เป็นผู้มีอิทธิพลอยู่ทางภาคใต้
“ขอพี่นั่งด้วยได้ไหมครับ”
“เชิญค่ะ”
“พี่จะไม่โกหกนะ” ภูผาเริ่มเกริ่น การมาขอความเห็นใจน่าจะได้คะแนนมากกว่า
“ดีค่ะ ฉันไม่ชอบคนโกหก”
“คือเพื่อนมันมั่นใจมากว่าพี่ไม่มีทางขอเบอร์มะลิได้หรือยากไปกว่านั้นคือ พาออกไปข้างนอก มะลิช่วยพี่ได้ไหมครับ”
“พาไปข้างนอก ไปไหนเหรอคะ”
“ก็แค่เดินไปด้วยกัน ให้มันเห็นเต็มๆ สองตา”
“แล้วฉันจะได้อะไรตอบแทน”
“น้องมะลิอยากได้อะไรขอแค่บอกมา”
“สองแสน” มะลิพูดโดยไม่ต้องคิด
“อะไรนะ” ภูผาถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินข้อแลกเปลี่ยน
“สองแสนเพื่อรักษาศักดิ์ศรี ไม่มากไปหรอกค่ะ ฉันเดาว่าคนแพ้ต้องโดนทำโทษแบบไม่ดีแน่ๆ ใช่ไหมคะ … คุณอยากแพ้เหรอ”
“สองแสนเลยเหรอ”
“ถ้าคุณไม่มีเงิน ฉันขอตัวนะคะ” มะลิตั้งท่าจะลุกขึ้น ภูผาจึงฉุดแขนไว้
“โอเคๆ แต่ต้องออกไปกับพี่นะ”
“ค่ะ … นี่เลขบัญชี” มะลิยื่นมือถือให้ดู
“เข้าแล้วค่ะ ไปกันเลยไหมคะ” มือถือของเธอมีข้อความแจ้งว่าเงินเข้าบัญชีสองแสน
ภูผาเดินโอบไหล่รุ่นน้องอย่างผู้ชนะตอนที่ผ่านโต๊ะเพื่อนก็ไม่ลืมขยิบตาให้ เอกภพไม่อยากเชื่อว่ามันจะง่ายดายขนาดนั้นแต่ก็เห็นชัดเต็มสองตาว่ารุ่นน้องให้เบอร์เพื่อนแถมยังเดินออกไปพร้อมกันด้วย
“จะไปไหนครับ” ภูผาถามมะลิที่เดินนำไปลิ่วๆ
“ไปข้างนอกไงคะ”
“พี่เอารถมา”
“ไปแท็กซี่ดีกว่าค่ะ” ภูผาไม่อยากขัดใจจึงเดินตามไป
“ฉันออกมาข้างนอกกับคุณแล้ว ข้อตกลงครบนะคะ” มะลิหันมาบอกแล้วขึ้นแท็กซี่ออกไปทันที