ปฐมบท
ประมาณ พ.ศ. 2480 บ้านหลังใหญ่ทาสีขาวของหม่อมหลวงบริสุทธิพงศ์ กำลังมีงานมงคลสมรสของนายแพทย์สวัสดิ์ บุตรชายเจ้าของบ้าน และเจ้านางสาวรตี บุตรีของข้าราชการชั้นตรีที่เพิ่งเสียชีวิตไปไม่นาน
"ไอ้หมอสวัสดิ์ เจ้าสาวงามของแกงามจริงๆ ว่ะ" นายแพทย์วีระ เพื่อนร่วมโรงพยาบาลตบไหล่เจ้าบ่าว เอ่ยขึ้นอย่างจริงใจ
เจ้าบ่าวใบหน้าหล่อเหลาปานหยกแกะสลัก ใส่เสื้อราชปะแตน นุ่งผ้าม่วง หน้าผากมีแป้งเจิม และพวงมาลัยคล้องคอ ไม่แม้แต่จะหันไปมองเจ้าสาวหรือคนที่ทัก "อืม ถ้าอยากได้ กูยกให้ก็ได้" มือเจ้าบ่าวกำแก้วเหล้าแน่น
ฮึก.. รตี เจ้าสาวผมสั้นดัดลอนตามสมัยนิยมในชุดผ้าถุงและสไบกรองทองหันขวับ ! ดวงตากลมโตมองนายแพทย์หนุ่มผู้เป็นเจ้าบ่าวของเธออย่างตกใจ.. ความเสียใจโศกาอาดูรที่มีอยู่แล้วก่อนการแต่งงานในครั้งนี้ยิ่งทวีคูณ ..
เจ้าสาวแสนสวยไม่ได้ยินเสียงดนตรีมโหรสพขับกล่อมหรือเสียงหัวเราะครื้นเครงของแขกเหรื่อในงานที่จัดในงานแล้วหลังจากประโยคนั้น
รตีกลั้นน้ำตา เธอรักพี่สวัสดิ์ พี่หมอรูปหล่อที่เทียวไล้เทียวขื่อคอยไปรับไปส่งเธอตั้งแต่เรียนโรงเรียนการเรือนไม่จบดี เธอหลงรักเขาจึงยอมแต่งงานกับเขาในทันทีที่เขาเอ่ยปากขอ แม้จะรู้สึกสะกิดใจเสมอว่า ความรักของเขามันเสมือนมีบางสิ่งที่ผิดแปลกจากที่ควรเป็น
สวัสดิ์กรอกน้ำเมาเข้าปาก พ่อแม่เขาเสียหมดแล้ว เขาเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ จะทำอะไรก็ทำได้ ความจริงแล้ว เขาจะไม่แต่งงานกับรตีก็ได้ เพราะจะอย่างไรเสีย เธอก็เป็นลูกไก่ในกำมือเขา เขาจะควงเธอเล่นให้ใครมองไปเรื่อยๆ ตลอดชีวิตก็ยังได้ เธอคงไม่กล้าปริปากบ่นเขา หากแต่เขาต้องการความก้าวหน้าในการงาน และญาติๆ ผู้อาวุโสหลายคนที่เขาเกรงใจก็คอยเซ้าซี้ให้เขาเป็นฝั่งเป็นฝา รตีจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
เขายิ้มหยันโชคชะตาก่อนเอ่ยอย่างเย็นชา “กูยกให้มึงก็ได้ จะเอาหรือเปล่า ?”
วีระ เพื่อนร่วมงานไม่กี่คนที่เป็นมิตรกับเขา ตกใจ ! "เฮ้ย ไอ้สวัสดิ์พูดเช่นนี้ไม่ได้ ! เจ้าสาวเขาได้ยินจะเสียใจนะโว้ย"
สวัสดิ์ มองหน้าเพือน ดวงตาเริ่มฉ่ำเพราะฤทธิ์เหล้า "กูยกให้มึงหรือให้ใครก็ได้ กูไม่อยากได้ กูอยากได้...."
แววตาทอประกายประหลาดของเจ้าบ่าวจ้องตาของวีระ มีความอ่อนแอ โหยหาและเจ็บปวด ซ่อนอยู่ในนั้น
วีระขมวดคิ้ว ไม่เข้าใจเจ้าบ่าว "เฮ้ย เมาแล้ว ไปเหอะ ไปเตรียมตัว เดี๋ยวก็ต้องส่งตัวแล้วไม่ใช่หรือ ?" เขาตบบ่าเพื่อนที่เป็นคนนิสัยเก็บตัว พูดน้อย ไม่ค่อยสนิทกับใคร นึกเป็นห่วงขึ้นมาจับใจ
สวัสดิ์กรอกเหล้าเข้าปากอีกแก้วใหญ่ แล้วก็ปาดเหล้าจากริมฝีปาก เดินโซเซ ขึ้นบ้านตึกโอ่อ่าของเขาไป..
วีระมองตามแล้วก็ถอนหายใจ หันกลับมาเตรียมจะกลับบ้านตามแขกที่ทยอยกลับกันแล้ว..
แต่ภาพเจ้าสาวที่ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ในงานอย่างหมดแรง ท่าทางเธอที่หยิบผ้าเช็ดหน้าลายลูกไม้มาซับน้ำตา ทำให้เขานึกสงสาร
วีระในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าวจึงเดินไปหา รตี สาวสวยน่ารักที่เขาเพิ่งรู้ไม่กี่วันก่อนงานแต่งงานนี้ว่าเป็นคนรักของสวัสดิ์
เขาเอ่ยอย่างอ่อนโยน "คุณรตีเหนื่อยหรือเปล่าครับ ?"
ดวงหน้าสวยสะดุดตาเงยขึ้นมองเขา เธอยิ้มทั้งที่แววตาแสนเศร้า "ดิฉันสบายดีค่ะ คุณหมอวีระ"
วีระมองด้วยความสงสาร เพราะดูก็รู้ว่าหญิงสาวหน้าตาสวยรูปร่างน่าเย้ายวนใจ เหนื่อยใจมากกว่าเหนื่อยกาย แต่มันก็หาใช่หน้าที่เขาที่จะไปปลอบประโลมเธอมากกว่านี้ วีระจึงถอยออกมา "ขอให้คุณรตีกับเจ้าสวัสดิ์ เกลอรักของผม ครองรักกันอย่างมีความสุขตลอดไปนะครับ"
รตียกมือไหว้ "ขอบพระคุณค่ะ" แล้วก็ลุกขึ้นเดินไปส่งเขาพร้อมกับยืนส่งแขกทุกคน.. เริ่มทำหน้าที่ของเธอในฐานะภริยาของเจ้าของบ้าน แม้ว่าเจ้าของบ้านจะไม่สนใจใยดีและหายตัวไปแล้วก็ตาม
-------
รตียืนมองคนใช้ผู้ชายกำลังปิดประตูและเก็บโต๊ะเก็บเก้าอี้ ดวงตาฉายแววสงสัย ทำไมบ่าวไพร่บ้านนี้จึงมีแต่ผู้ชายนะ ? ทุกคนหน้าตาหล่อเหลา รูปร่างล่ำสัน ไม่มีอ้วนหรือลงพุงสักคน แม้แต่ลุงที่อายุเยอะที่สุด ? เขาคัดสรรกันอย่างไรนี่ ?
"คุณผู้หญิงเชิญเถอะครับ ทางนี้พวกกระผมจัดการเอง" คนใช้ชายชื่อนพ ซึ่งเป็นหนุ่มผิวคล้ำรูปร่างผอมสูงเอ่ยขึ้น
รตีพยักหน้า "ฝากด้วยนะจ้ะ" สาวร่างอรชรอ้อนแอ้นเดินขึ้นบันไดบ้านตึกใหญ่ไปอย่างใจลอย รู้สึกเคว้งคว้างกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของการแต่งงานกับผู้ชายที่เธอรัก แต่ตั้งแต่คืนแรกของการแต่งงานเขาก็หายหน้าไป
คนใช้ผู้ชายชื่อลุงเปลี่ยน ผิวออกขาว ใบหน้าคมสัน ผมเริ่มเป็นสีดอกเลา ปรากฏตัวขึ้น "คุณผู้หญิงครับ นายท่านให้เรียนเชิญครับ"
รตีพยักหน้า “ ได้ค่ะ ลุงเปลี่ยน” เธอเพิ่งเคยเห็นบ้านหลังนี้ก็วันนี้ แต่ก่อนแม้ยามเป็นคนรัก เขาก็ไม่เคยพามาสักครั้งเดียว และเธอก็ยังไม่กล้าเดินไปไหนมาไหนเอง
เธอเดินตามลุงผันในบ้านตึกหรูหราที่ค่อนข้างเงียบเหงาขึ้นไปห้องนอนชั้นสองสุดปีกตึกด้านหนึ่ง ชายสูงวัยหน้าตาดีหยุดหน้าประตู "เชิญครับ" เขาเปิดประตูห้องนอนให้เธอ
ข้างในเป็นเตียงเดี่ยว มีเครื่องเรือนตามจำเป็นและกระเป๋าเดินทางเธอวางอยู่
รตีนิ่งไป รู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดี " รตีต้องนอนห้องเดียวกันกับคุณพี่สวัสดิ์ไม่ใช่หรือคะ ?" แม้งานแต่งงานนี้ เธอกับคนรักจะตกลงกันแต่แรกว่าจะไม่มีพิธีปูเตียง เพราะพ่อแม่ทั้งคู่เสียชีวิตหมดแล้ว แต่หญิงสาวก็ยังเข้าใจว่า คืนแรกของชีวิตสมรส เธอและสามีจะต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกันในห้องเดียวกัน หลับนอนด้วยกัน
ลุงเปลี่ยนมองเธอด้วยแววตาเย็นชา "คุณท่านสั่งมา รบกวนคุณผู้หญิงทำตามด้วยครับ ท่านไม่ต้องการให้ใครไปรบกวนคืนนี้"
รตีมองลุงเปลี่ยนที่คุมคนใช้ทั้งหมดในบ้านอย่างไม่เข้าใจ แต่ความเป็นกุลสตรีทำให้เธอก็อายเกินกว่าจะถามว่าทำไม เธอถึงไม่ได้นอนห้องเดียวกับเจ้าบ่าวของเธอในคืนแต่งงาน เพราะในยุคสมัยนั้น สตรีที่เป็นสุภาพชนมิควรแสดงความสงสัยหรือความต้องการในทางชู้สาวออกมา..
“แต่รตีเป็นภริยา ?”
เงียบ ..
สายตากดดันของลุงเปลี่ยนทำให้เธอรู้ว่า เธอไม่มีทางเลือก
เธอตัวคนเดียวในบ้านหลังใหญ่หลังนี้..
“เชิญครับ” ลุงเปลี่ยนย้ำทำให้รตีจำใจเดินเข้าห้องนาน
ปึก ! ประตูห้องนอนเธอปิดตามหลัง..
แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก คลิ๊ก กึก
รตีตาโต นั่นเสียงอะไร ?
เสียงโซ่กับแม่กุญแจคล้องประตูห้องนอนเธอหรือเปล่า ?
--------------
สวัสดีค่ะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องผีตามที่ไรต์สัญญากับรี้ดบางท่านไว้ว่าจะเขียนเรื่องผี ไรท์เลยลองเขียนเป็นแนวพิศวาสฆาตกรรมปนวิญญาณอาฆาตแค้น
เรื่องจะเล่าสลับกันไปมาระหว่างอดีตและปัจจุบันนะคะ นางเอกชื่อเกตุ จะเปิดตัวทีหลังค่ะ เรื่องนี้ดาร์คมากนะคะ ใครชอบแนวฟีลกู๊ด น่ารัก สดใส ไม่แนะนำให้อ่านค่ะ จะเครียด กดดันและกลัวตามสูตรนิยายผีอิโรติกค่ะ
หากชอบแนวสยองขวัญ อีโรติก แรงชัดจัดเต็มตามมาเลยค่ะ
เพียงรำเพย