นิยายรักที่ไม่รัก เพราะนางเอกไม่ยอมรักพระเอกง่ายๆ แม้เธอจะย้ายเข้าบ้านเขาตามคำสั่งพ่อแม่ เป็นสมาชิกใหม่ของคฤหาสน์ศักราชอัครจินดาอัญมณี ส่วนเขาก็กำลังมองหาความพอดี ที่แตกต่างจากครอบครัวล้นๆ ของเขา

บทนำ 

ในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2530 ในแวดวงสังคมของพระนคร ไม่มีใครไม่รู้จักตระกูลศักราชอัครจินดาอัญมณีที่ร่ำรวยจากการเล่นหุ้น ทำธุรกิจขายส่งขายตรงและนำเข้าส่งออกสินค้ายาจากต่างประเทศ  

ความดังของตระกูลที่นามสกุลยาวมากตระกูลนี้ ทำให้ใครๆ ก็เข้าหาอยากจะรู้จัก อยากจะผูกไมตรี.. 

ยกเว้นนางสาว อารียา สมานใจ สาวอายุสามสิบ ที่ตอนนี้เธอยืนอยู่หน้าประตูรั้วของคฤหาสน์ของตระกูลนี้  

อารียา เป็นคนรูปร่างสูงกว่าผู้หญิงไทยทั่วไป หน้าตาก็ดีกว่าเกณฑ์มาตรฐาน แต่สีหน้านั้นไร้อารมณ์อยู่เป็นนิจ เธอเกล้าผมเป็นมวยรวบตึง ใส่แว่น ใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นติดกระดุมถึงคอ กระโปรงยาวคลุมเข่า รองเท้าส้นเตี้ย บ่าของเธอสะพายกระเป๋าหนังทรงสี่เหลี่ยมแข็ง มือข้างหนึ่งถือชะลอม อีกมือถือกระเป๋าเดินทาง 

เธอก้าวลงจากแท็กซี่แล้ว ก็ได้แต่ยืนตกตะลึงมองประตูรั้วอัลลอยด์ทั้งหนาและหนักของบ้านเศรษฐีตระกูลศักราชอัครจินดาอัญมณีที่สีทองเปล่งปลั่ง สลักลวดลายเป็นปราสาทซินเดอเรลลา มังกรจีน แล้วก็ลายเทพพนมของไทยปนกันอยู่ มันช่างวิจิตรพิสดารแน่นไปหมดจนมองลอดเข้าไปแทบไม่เห็นตัวบ้าน.. 

อืม.. อารียาขยับแว่นสายตาบนจมูกโด่งของเธอ เพราะเธอจบวิทยาลัยเพาะช่าง เป็นครูโรงเรียนมัธยมสอนศิลปะในอาชีพล่าสุด สิ่งที่เห็นตรงหน้าทำให้เธอรู้สึกเวียนหัว และขนลุกเกรียว คนตระกูลนี้เขาเป็นคนแบบไหนกันถึงมีรสนิยมชอบรั้วบ้านแบบนี้ ? เป็นคำถามที่ทำให้เธอหงุดหงิดไม่น้อย  

แต่ในเมื่อพ่อของเธอสั่งว่า เธอต้องมาที่นี่ เพื่อมาทำงานทดแทนพระคุณคุณหญิงที่มีบุญคุณต่อครอบครัวเธออย่างท่วมท้น เธอก็ต้องมา แม้จะต่อรองอ้อนวอนไม่อยากมาอย่างไร สุดท้ายก็ต้องมาอยู่ดี เพราะครอบครัวของเธอไม่มีทางเลือกอื่นใด คุณหญิงผู้นำตระกูลสั่งมา และคำสั่งนั้นก็รัดคอเหมือนบ่วงลากให้เธอต้องทิ้งทุกอย่างย้ายมาอยู่บ้านหลังนี้..

เฮ้อ กรรมอะไรหนอ.. อารียาปวดหัวเป็นริ้วๆ แต่ก็จำใจกดออดประตูรั้วของตระกูลโคตรอภิมหาไฮโซแห่งเมืองฟ้าอมรกรุงเทพฯ

ติ๊ด ตะ ริด ตะ ริด ตะริด ติด ตี่ เสียงออดเป็นเพลงโมสาร์ตดังขึ้น..ทำให้อารียาคิ้วย่นเข้าหากัน บ้านนี้เขาชอบอะไรโอเว่อร์ๆ จริงๆ หรือไร ? 

เอี๊ยด.. ประตูเปิดออก สาวคนใช้ผอมแกร็น ตาโตกว่าใบหน้าโผล่หน้ามาทัก "สวัสดีค่ะ มาหาใครคะ ?"  

อารียายืดหลังให้ตรงแล้วตอบอย่างสุภาพ "ดิฉัน อารียา ลูกสาวคุณอบเชย กับคุณบุญใหญ่ มาทำงานตามที่คุณหญิงบอกไว้ค่ะ" 

สาวใช้ตาโต มองสำรวจผู้หญิงหน้าตาดี สูงผอม แต่มาดเคร่งขรึม "โอ้ ถ้างั้นเชิญเลยค่ะ คุณหญิงท่านรออยู่" แล้วประตูเหล็กดัดอัลลอยด์สีทองเล็ก ๆ ข้างๆ ประตูรั้วอลังการสีทองแสบตาก็เปิดออก.. 

พอก้าวเข้าไป อารียาที่ว่าเป็นคนไม่ค่อยแสดงอารมณ์ ถึงกับตาโต..  

จากตรงที่เธอยืนอยู่ เป็นถนนทางรถ คู่ขนานกับถนนให้คนเดินที่ปูด้วยกระเบื้องหนาฝังเศษกระจกสีเงินสะท้อนแสงแดดวิบวับ ต้นสนผอมสูงเรียงรายสลับตุ๊กตาเทพีโรมันชูโคมยืนอยู่บนเสาโรโกโก้ ตุ๊กตาหลายตัวมีแจกันดอกโป๊ยเซียน หรือว่านเศรษฐีประดับอยู่รอบๆ ปลายทางสุดถนนยาวหลายกิโลเมตร เป็น น้ำพุทรงกลมรูปเทพโพไซดอนขี่ม้าเหินขึ้นมาจากน้ำ แล้วก็เห็น.. 

... คฤหาสน์หลังใหญ่ยักษ์ทาสีขาวขลิบทอง ที่ตั้งตระหง่านสะท้อนแสงราวพระราชวังแวร์ซายของพระเจ้าหลุยส์ที่สิบสี่ที่เผอิญงบหมดจึงเมดอินไทยแลนด์.. 

อารียารู้สึกแสบตา และร้อนจากแสงแดดที่สะท้อนความมลังเมลือง จนต้องวางชะลอมแล้วก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าถือที่สะพายไว้มาซับเหงื่อ.. 

"คุณคะ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ?" สาวคนใช้ถามด้วยความเป็นห่วง คนมาเยือนคฤหาสน์หลังนี้มักมีปฏิกิริยาอย่างนี้เวลาสีทองและสีหินอ่อนสะท้อนแสงแดดเข้าตา..  

อารียายิ้มแห้ง "บ้านคุณหญิงนี่ใหญ่ดีนะคะ" ถนนก็ไกลอย่างกับจะให้คนในบ้านขี่จักรยานหากันเลย.. คือสิ่งที่ อารียาไม่ได้พูดออกไป เนื่องจากรู้สึกว่าต้องระมัดระวัง สำรวมกิริยา คฤหาสน์หลังนี้ ผู้อยู่อาศัยจะนิสัยยังไงก็ไม่รู้ 

สาวใช้ร่างผอมทำท่ารู้สึกผิด "คือหนูจะถือร่มมารับคุณแบบที่คุณชายสั่งไว้แล้วค่ะ แต่คุณหญิงบอกไม่ต้อง" แล้วสาวใช้ก็รีบหุบปาก

ดวงตาคมกริบของอารียาเหลือบมองสาวใช้แล้วก็พอเดาได้ว่าเจ้าของบ้านคงไม่อยากต้อนรับเธอเท่าไร ถึงจะไปโทรสั่งให้ครอบครัวเธอส่งเธอมาทำงานที่นี่ก็ตาม ..

อารียามองแดดเปรี้ยงๆ ของประเทศไทยที่แผดเผาลงมาแล้วก็ถอนหายใจ เก็บผ้าเช็ดหน้า หยิบชะลอมขึ้นมาแล้วก็เอ่ยเสียงเรียบ "ไปเถอะค่ะ ดิฉันเดินไหว ไม่ลำบากหรอกค่ะ"

แล้วครูสาวหัวดื้อที่โดนพรากจากงานอันเป็นที่รักเพื่อใช้หนี้ที่ไม่ได้ก่อ ก็ก้าวเดินอย่างมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์บ้านศักราชฯ อย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด..

ก็สาวอายุสามสิบขึ้นคาน ชีวิตผ่านความจนมาแล้ว มาทำงานใช้หนี้ของครอบครัว ด้วยการสอนหนังสือลูกสาวคนเล็กของบ้านมันจะหนักหนาสักเท่าไรเชียว ? การที่ตระกูลศักราชฯ จะขึ้นชื่อเรื่องมีลูกชายสามคนที่ หล่อ รวย และร้าย ก็ไม่เกี่ยวอะไรสักหน่อย !

--------------

สวัสดีค่ะ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายโรแมนติกโคเมดี้ เขียนโดยเอานิยายรักอมตะคลาสสิคของไทยหลายๆ เรื่องที่มีพล็อตเรื่องที่เราทุกคนคุ้นเคยอยู่แล้ว แต่เอามายำรวมกันแล้วเล่าใหม่ให้ตลกและทันสมัยขึ้น หวังว่า อ่านจบแล้วจะทำให้อมยิ้มได้บ้าง

เรื่องนี้ นางเอกเป็นสาวขึ้นคาน โดนหาว่าทึนทึก หน้าตาย ปากจัด เป็นนางเอกที่ไม่ค่อยเป็นนางเอกปกติสักเท่าไร นางเอกต้องมาอยู่บ้านเศรษฐีตระกูลนี้เพราะที่บ้านมีหนี้สินกู้ยืมตระกูลนี้แล้วไม่มีเงินใช้ นางเอกจึงจำใจมาทำงานสอนหนังสือลูกสาวคนเล็กของบ้านเพื่อใช้หนี้ให้ ส่วนพระเอกก็เป็นแนวคุณชายตามนิยายคลาสสิค เป็นหนึ่งในลูกชายบ้านเศรษฐี นิสัยจะร้ายลึกสักหน่อย ซึ่งเดี๋ยวคงได้พบอีกไม่นาน

เรื่องนี้เปิดทิ้งไว้ก่อนนะคะ ไว้จบเรื่อง ศีลไม่เสมอแต่รักเสมอแล้วจะมาต่อค่ะ

ขอบคุณค่ะ

เพียงรำเพย

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว