ท่ามกลางความมืดมิดดำสนิท มีเพียงแค่แสงไฟริบหรี่จากตะเกียง ที่เผยให้เห็นร่างเงาดำสลัวกำลังนั่งลับคมมีด เสียงของใบมีดถูกับหินดังกังวาลเป็นระยะ ร่างเงาดำค่อย ๆ หันหน้าไปทางแสงตะเกียงทำให้เห็นหน้าของชายแก่เคราหนาเตอะ
"ในยุคสมัยที่แสนจะวุ่นวายโกลาหลเต็มไปด้วย สงคราม การค้า วัฒนธรรมใหม่ ศาสนาใหม่ มากมายพอที่จะทำให้ผู้คนไม่อยู่นิ่ง...ข้าก็เช่นกัน ท่ามกลางความวุ่นวายของโลกใบนี้ มีเรื่องเล่ากับตำนานแปลกประหลาดและพิศวงมากมาย แต่ก็มีตำนานเก่าแก่อยู่เรื่องหนึ่งเป็นที่กล่าวขานของเหล่าจอมเวทย์...ตำนานศิลาโลหิต..."
เมื่อชายแก่ใช้หินลับมีดจนได้เหลี่ยมคม เขาก็ถุยน้ำลายใส่ใบมีดและใช้เศษผ้าถู ใบมีดเงาวับสะท้อนแสงตะเกียงวิบวับไปมา ทำให้เห็นสภาพพื้นที่รอบตัวมีลักษณะเหมือนถ้ำ
"มันคือหินที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังด้านลบ จอมเวทย์ขั้นสูงก็ไม่อาจรู้ถึงขอบเขตพลังของมันได้ จอมเวทย์บางคนบอกว่ามันคือต้นต่อความชั่วร้ายทั้งปวงของมวลมนุษย์ พลังแสนมากล้นเกินจะหยั่งถึงเป็นที่หมายปองของผู้แสวงหาพลังอำนาจ จอมเวทย์ยอมสละวิถีของตนเข้าสู่ด้านมืด กษัตริย์บางคนยอมขายทรัพย์สินและธิดาของตน ความต้องการทำให้มันมีมูลค่ามหาศาลและเกิดการจ้างนักผจภัยเพื่อตามล่าหาหินวิเศษ ทำให้มีหลายชีวิตที่ต้องสังเวยให้กับพลังชั่วร้ายของมัน มีเพียงแค่ส่วนน้อยมาก ๆ ที่จะรอดชีวิตกลับมาและต้องทนใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในสภาพสูญสิ้นความเป็นคน"
ชายแก่เก็บมีดใส่ฝักพร้อมกับยืนขึ้นก่อนที่จะก้มตัวลงหยิบตะเกียงแสงริบหรี่ใกล้จะดับ และเดินหายเข้าไปในความมืด . . . .
"จิตใจที่เข้มแข็งคือแสงสว่างปกป้องอันตรายและนำทางในความมืด...อย่าเสียมันไปเด็ดขาด"